5 มิถุนายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันสิ่งแวดล้อมโลก (Environment Day)” มาเจาะลึกการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาพที่เปี่ยม ด้วยวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมของ COWAY
วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันสิ่งแวดล้อมโลก (Environment Day)” ซึ่งนับเป็นวันสำคัญของมวลมนุษยชาติ ตลอดจนสิ่งมีชีวิตทุกสายพันธุ์บนโลกใบนี้ ซึ่งแนวคิดหลักของการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมของปีนี้จะมุ่งเน้นไปที่ปัญหามลภาวะจากขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม ภายใต้แฮชแท็ก #BeatPlasticPollution ซึ่งหน่วยงานทุกภาคส่วน ตลอดจนแบรนด์สินค้าทั่วโลกต่างขานรับต่อแคมเปญนี้ เช่นเดียวกับแบรนด์ด้านสุขภาพชั้นนำจากเกาหลีใต้อย่าง COWAY
เนื่องจากการอุปโภคผลิตภัณฑ์พลาสติกมีอัตราเพิ่มมากขึ้นทุกวัน และส่วนใหญ่ยังขาดการบริหารจัดการที่เหมาะสม จนก่อตัวเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรง โดยทั่วโลกมีการผลิตพลาสติกราว 400 ล้านตันต่อปี ซึ่งครึ่งหนึ่งได้รับการออกแบบมาให้ใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง บางส่วนสามารถนำไปรีไซเคิลได้ แต่ก็ในสัดส่วนน้อยไม่ถึง 10% ทำให้เกิดขยะพลาสติกหลายล้านตันถูกทิ้งลงทะเลสาบ แม่น้ำ มหาสมุทร และบางส่วนถูกฝังกลบซึ่งหากบริหารจัดการไม่ดีพอก็จะไหลลงสู่แหล่งน้ำเช่นกัน หรือบางส่วนซึ่งถูกกำจัดด้วยการเผาก็จะก่อให้เกิดปัญหาควันพิษที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตโดยตรง
ไม่เพียงเท่านั้น ปัญหาที่หลายคนยังไม่ทราบก็คือไมโครพลาสติกสามารถสะสมในสิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นแหล่งอาหารของเรา ปนเปื้อนในน้ำที่เราดื่ม และแม้แต่อากาศที่เราหายใจ ผลิตภัณฑ์พลาสติกหลายชนิดยังมีสารเติมแต่งซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายมากกว่าที่เราคาดคิด
COWAY (โคเวย์) แบรนด์เครื่องกรองน้ำและเครื่องฟอกอากาศอันดับ 1 จากประเทศเกาหลี ดำเนินงานบนวิสัยทัศน์ Best Life Solution Company เพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมสุขภาพดีอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีผลิตสินค้ามาตรฐานระดับโลก บริษัทดำเนินงานตามหลักบรรษัทภิบาล (ESG) ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วย 3 ด้านหลัก ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment) - การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การสร้างขยะและของเสีย การปล่อยมลพิษ; สังคม (Social) - สุขภาพ ความเป็นอยู่ของแรงงาน ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม; และ ธรรมาภิบาล (Governance) - การบริหารจัดการกำกับดูแลเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพโปร่งใสและตรวจสอบได้
นายปาร์ค ชุนยง กรรมการผู้จัดการ โคเวย์ ประเทศไทย กล่าวว่า “โคเวย์ยึดมั่นในวิสัยทัศน์ Best Life Solution และพันธกิจในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและความสะดวกสบายผ่านนวัตกรรมสมัยใหม่ ไปพร้อมกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดกระบวนการทางธุรกิจ โดยเราได้กำหนดกลยุทธ์ในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม กล่าวคือเราได้ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 50% ภายในปี 2573 และปลอดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 100% ภายในปี 2593”
ในแง่มุมของการบริหารจัดการพลาสติกตามการรณรงค์เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกของปีนี้ Coway มีการตรวจสอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกรุ่นต้องมีวัสดุที่รีไซเคิลได้มากกว่า 75% ในกรณีที่ฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์มีการใช้วัสดุรีไซเคิลไม่ถึง 75% บริษัทจะทำการเปลี่ยนเป็นวัสดุหมุนเวียนหรือแสวงหาวิธีการอื่น ๆ เพื่อเพิ่มอัตราการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ให้ได้ตามหลักเกณฑ์ ต่อมาในปี 2022 บริษัทจึงขยายการใช้วัสดุเรซิน หมุนเวียนให้ครอบคลุมถึงการผลิตเครื่องฟอกอากาศด้วยเช่นกัน
ภายใต้แนวคิดการคำนึงถึงความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าเป็นสำคัญ (Customer-centric) บริษัทยังได้สำรวจความคิดเห็นของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำไปใช้ในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ควบคู่กับวางแผนจัดสรรการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการพยายามลดอัตราการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ ผ่านการพัฒนาวัสดุทางเลือก การควบคุมการใช้สารเคมี การจัดการขยะ และการรีไซเคิล
หนึ่งในเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ Coway คือการออกแบบบรรจุภัณฑ์จากเยื่อกระดาษสีเขียวและใช้ถุงลมกันกระแทกแทนการใช้โฟม (EPS) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ปราศจากฝุ่นและสารตกค้าง ทั้งยังง่ายต่อการคัดแยกเพื่อรีไซเคิล ซึ่งส่งผลถึงการเยียวยาภาวะโลกร้อนได้โดยตรง บริษัทประเมินว่าวิธีนี้สามารถลดปริมาณทรัพยากรที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์ได้ถึง 70% เช่นกัน
“เรามุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าบนแนวทางที่ยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยเยียวยาสภาวะโลกร้อนและปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ด้วย เราเชื่อว่าความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร ถือเป็นส่วนสำคัญของทุกการดำเนินธุรกิจทุกประเภท ซึ่ง Coway มุ่งมั่นที่จะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่บนโลกอย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และร่วมสร้างสรรค์อนาคตอันยั่งยืนผ่านโซลูชันอันชาญฉลาดตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของเรา” นายปาร์ค ชุนยง กล่าว