ทนายรัชพล เป็นตัวแทนหมู่บ้าน ยื่นสอบ "เรืองไกร-คิมห์" ปมบันทึกรายงานการประชุมไม่ตรงกับคลิป

13 มิ.ย. 66

ทนายรัชพล ลั่น! ขอเป็นตัวแทนหมู่บ้าน ยื่นสอบสวน "เรืองไกร-คิมห์" ภายหลังพบคลิปวิดีโอกับบันทึกรายงานการประชุมไม่ตรงกัน

วันนี้ (13 มิ.ย.66) นายรัชพล ศิริสาคร หรือทนายรัชพล เดินทางมายัง สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อแจ้งความให้มีการสอบสวน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ผู้ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบการถือหุ้นไอทีวีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ในข้อหา "แจ้งความเท็จ" และนายคิมห์ สิริทวีชัย กรรมการกำกับดูแลกิจการและการพัฒนาอย่างยั่งยืน บมจ. อินทัช โฮลดิ้งส์ และประธานคณะกรรมการ บ.ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ITV ประจำปี 2566 และยังเป็นผู้เซ็นลงนามรับรองในรายงานบันทึกการประชุม ในข้อหา "ปลอมแปลงเอกสาร"

ทนายรัชพลกล่าว ตอนนี้เห็นการทําเอกสารที่ผิดปกติและพูดกันไปมาว่าผิดกฎหมายฉบับนั้นฉบับนี้ แต่กลับไม่มีใครแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตํารวจและจะดําเนินคดีอย่างไร ตนจึงขออนุญาตเป็นตัวแทนในการแจ้งความดําเนินคดีกล่าวโทษ ในฐานะพลเมืองดีที่สามารถแจ้งความได้หากพบเข้าข่ายการกระทําความผิด

ในเรื่องนี้พบความผิดปกติ 3 ประการ คือ 1.คลิปวิดีโอกับเอกสารบันทึกรายงานการประชุมไม่ตรงกัน 2.มีการลบไฟล์การประชุมทิ้งแต่ไม่รู้ลบจริงหรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรม 3.นายคิมห์ มีการออกหนังสือ ฉบับที่ 1 ขอให้ตรวจสอบ แต่คุณต่างหากที่ต้องมาชี้แจง เพราะคุณเป็นประธานการประชุมและเอกสารคุณก็เป็นคนเซ็น ในส่วนนี้มองว่า การออกเอกสารเพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ ซึ่งเอกสารอยู่ระหว่างการตรวจสอบและไม่มีกําหนดเวลา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไร แต่หากคุณชี้แจงว่าไม่ได้ทําแต่เป็นลูกน้องที่มีการปลอมแปลงเอกสารหรือตรวจสอบเอกสารไม่ถี่ถ้วน น่าจะดูมีความน่าเชื่อถือมากกว่า

ส่วนนายเรืองไกรนั้นตนมองว่า ความเป็นจริงไม่มีใครรู้ว่ามีการยื่นเอกสารจริงหรือไม่เพราะเอกสารหากยืนตริงก็ต้องอยู่ที่ กกต. ซึ่งในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถเรียกเอกสารมาตรวจสอบได้ถ้าหากมีการยื่นจริง หรือถ้ายื่นเอกสารอันเป็นเท็จก็สามารถแจ้งความได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการตรวจสอบต่อไปว่าเข้าข่ายการกระทําความผิดหรือไม่

ทนายรัชพล กล่าวอีกว่า ในส่วนข้อกฎหมายเท่าที่ดูจากพยานหลักฐานตอนนี้อาจจะยังไปไม่ถึง แต่เบื้องต้นถ้ามีการทำเอกสารเท็จขึ้นมาหรือทำเอกสารปลอมและมีการนําไปยื่น ก็อาจจะเป็นเรื่องการแจ้งความเท็จปลอมเอกสารเท็จซึ่งจะต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกไป

ทั้งนี้ทนายรัชพล ยืนยันว่าไม่กลัวหากจะถูกแจ้งความดําเนินคดีกลับเพราะตนมาใช้สิทธิ์ของประชาชนพลเมืองดีทั่วไปในการดำเนินการและอยากให้มีการสอบสวนว่ามีการกระทำผิดหรือไม่

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส