ไฟไหม้ฟางอัดก้อนเกือบ 2 หมื่นก้อน ลามเผาวอดรถกระบะ เสียหายกว่าครึ่งล้าน

เกิดเหตุไฟไหม้ฟางอัดก้อนเกือบ 2 หมื่นก้อน รถอัดฟางก้อน รถกระบะ รถไถนา ของชาวนาวอดเสียหาย ระดมรถน้ำดับเพลิงนับสิบคันเข้าช่วยเหลือ

วันนี้เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. นักผจญเพลิงและรถดับเพลิงจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก องค์การบริหารส่วนตำบลบึงพระ และตำบลท่าทอง ตำบลท่าโพธิ์ ตำบลวัดพริก ตำบลแม่ระกา รวมจำนวน 10 คัน ได้ร่วมกันเข้าควบคุมเพลิงไหม้ ฟางอัดก้อนจำนวนเกือบ 20,000 ก้อน และไฟไหม้ยังลุกลามไหม้รถกระบะ รถอัดฟางก้อน และรถไถนา ที่จอดไว้ใกล้กัน ในบริเวณบ้านของ นายสมบัติ น้ำใจเย็น บ้านดงพิกุล หมู่ 7 ตำบลบึงพระ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

เบื้องต้นนักผจญเพลิงสามารถควบคุมเพลิงไหม้ฟางอัดก้อนเอาไว้ได้ในวงจำกัด และเคลื่อนย้ายซากของรถกระบะ รถอัดฟางก้อน และรถไถนา ออกมาก่อน เพื่อเตรียมการดับไฟไหม้ให้ได้ทั้งหมด โดยได้ประสานขอการสนับสนุนรถแบคโฮขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เกลี่ยเปิดกองฟางเพื่อระดมฉีดน้ำดับไฟให้เรียบร้อย

นายสมบัติ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า ตนเองกำลังจะไปหยิบของหน้ารถกระบะ ก็พบเห็นว่าไฟไหม้ฟางจากข้างล่างขึ้นไปถึงยอดกองฟางแล้วก้อนฟางก็ตกลงมาบริเวณหน้ารถยนต์ ตนเองพยายามจะรีบเคลื่อนย้ายรถออกมาแต่ก็ไม่ทัน ไฟลามเร็วมาก ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ตนเองยังไม่ทราบ ว่าเกิดไฟไหม้ขึ้นมาได้อย่างไร แต่บริเวณใกล้เคียงจุดที่เกิดเหตุมีสายไฟพาดผ่านอยู่

นายสุทธิวัตติ์ ต่ายวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงพระ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุ ได้ประสานขอรับการสนับสนุนรถน้ำดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่จาก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงเข้าควบคุมเพลิง จนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว โดยหลังจากนี้จะใช้รถแบคโฮ เกลี่ยกองฟางเพื่อดับไฟไหม้ฟางให้เรียบร้อยต่อไป

เหตุการณ์ไฟไหม้ฟางอัดก้อนในครั้งนี้ ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ได้สร้างความเสียหายมูลค่าไม่น้อยกว่าครึ่งล้านบาท เพราะว่าเฉพาะฟางอัดก้อนจำนวนมากกว่า 18,000 ก้อน ของนายสมบัติ ตามปกติสามารถส่งขายฟางได้ในราคาก้อนละ 30 บาท ไฟไหม้ฟางครั้งนี้ทำให้สูญเสียรายได้จากการขายฟางประมาณ 540,000 บาทเป็นอย่างน้อย และยังไม่รวมความเสียของรถยนต์และเครื่องอัดฟางก้อน ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริง อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการต่อไป