ลูลู่ ดวงฤดี-รุ้ง ราวรรณ" คู่หูเพื่อนซี้ เริ่มต้นจากเป็นแฟนคลับสู่การเพื่อนสนิทสายฮา พร้อมเคลียร์ใจกันที่แรก
เปิดความสนิทของคู่เพื่อนซี้ ลูลู่ ดวงฤดี กับ รุ้ง ราวรรณ ที่เริ่มต้นจากแฟนคลับสู่เพื่อนสนิท พร้อมเคลียร์ใจกันที่แรก หลังน้อยใจกันเพราะเรื่องแต่งงาน
งานแต่งเชิญแขกน้อยมาก แจกการ์ด 200 ใบ?
ลูลู่ : พิมพ์การ์ด 200 แต่แจกไม่ถึง 200 ประมาณ 150 หน่อยๆ แต่มาจริงเกือบ 300 เราจัดแบบเล็กๆ ครอบครัวเราสองครอบครัว แล้วมีเพื่อนสนิท
บรรยากาศงานแต่งเป็นไปตามที่เราฝันไว้ไหม?
ลูลู่ : มันก็ฝันอยู่ค่ะ แต่ว่าคนที่มามันเกินคาด
รุ้ง : ไม่เขามากินฟรี
ลูลู่ : บางคนเขาไม่ได้ทานข้าว เพราะเราคิดเป็นหัวใช่ไหมค่ะ เราไม่รู้ว่าคนจะเยอะ แล้วกับข้าวต้องวางไว้อยู่แล้ว ไม่รู้ว่ามันขนาดไหน พอมาปุ๊บยืนถ่ายรูป เขาจะนั่งตรงไหน กินข้าวยังไง แต่ก็ดีใจแล้วก็ขอบคุณที่มาร่วมงาน แต่ว่าต้องขอโทษจริงๆ เราดูแลไม่ทั่วถึง ดูแลไม่ดีจริงๆ
งานเช้าไม่ได้ไป?
รุ้ง : ไม่ได้ไปค่ะ จริงๆ แล้วลูลู่ขอให้เราไปเป็นพิธีกรงานแต่งช่วงเช้า เราก็โอเคไปเป็นให้ แต่ว่าเกิดเลื่อน ครั้งแรกจำได้ว่าเป็นเดือนกุมภาพันธ์
ลูลู่ : เขาล็อกวันผิดด้วย
รู้ไหมว่าเขางอน เขาน้อยใจมาก?
รุ้ง : จริงเหรอ
ลูลู่ : เราตั้งใจอยากให้เขาเป็นพิธีกรงานเช้า มีแต่ครอบครัวเราสองคน เพื่อนสนิท เห็นการทำงานของเขามันเฟรนลี่แล้วเป็นกันเอง เข้าถึงคนง่าย ไม่ต้องเตรียมอะไรเยอะ
รุ้ง : รุ้งเข้าใจว่า 14 กุมภา แล้วเข้าใจว่ารุ้งล็อกให้เขา 14 กุมภา เพราะถ้า 14 กุมภา รุ้งว่าง แต่เขาบอกว่า 14 กุมภา ฤกษ์มันไม่ได้ เขาดูใหม่มาเป็นเดือนมีนาคมแทน ซึ่งเดือนมีนาวันนั้นรุ้งไม่ได้อยู่แล้ว เพราะว่าละครล็อกไว้อยู่แล้ว มันกลายเป็นคิวเราต้องไปแมชต์กับนักแสดงท่านอื่น ซึ่งทุกคนได้ แต่เหลือเราคนเดียวไม่ได้ มันก็ยังไงอยู่ ก็บอกว่าเธอฉันขอเขาบ่ได้แล้ว ฉันจะโดนประณาม สุดท้ายเลยบอกว่าเดี๋ยวฉันไปงานเย็น
ลูลู่ : เราก็ไปบอกว่าฉันเลื่อนแล้ว ไม่ใช่ 14 กุมภา เป็น 14 มีนา เขาบอกไม่ได้อีก ใช่สิ เราไม่ใช่คนสำคัญ ไม่ใช่ดาราดัง
วันนี้เคลียร์ใจกันหรือยังที่บอกว่างอนกันไป งอนกันมา?
รุ้ง : เอาจริงๆ เราไม่รู้นะว่าเขางอน ลึกๆ เราก็รู้ว่าเขาเป็นคนค่อนข้างเซนซิทีฟ ด้วยความที่เราเป็นแบบนี้ เราอาจจะคิดไปเองว่าเขาฟิลเดียวกับเราหรือเปล่า แต่ลืมไปว่าเคยฟังสัมภาษณ์จากลาล่า ลู่เป็นคนค่อนข้างเซนซิทีฟ ฉันขอโทษ
สองคนนี้มาสนิทกันได้ยังไง?
ลูลู่ : ตอนแรกเป็นแฟนคลับเขา เขาดังอยู่แล้ว
รุ้ง : เขาไลฟ์สดขายเสื้อผ้าอะไรของเขา แล้วเผอิญเราผ่านไปในไลฟ์สดโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ทุกครั้งที่เขาเห็นชื่อเรา เขาจะบอกว่า ขอต้อนรับเพื่อนรุ้ง ราวรรณ หนูหิ่นซุปตาร์ระดับเมืองไทย คืออยากออกจากไลฟ์ทันที แต่ก็ไม่ออก อยู่เพื่อเพิ่มยอดคนดูให้เขา บางทีก็ f เสื้อผ้าให้นางหน่อย แต่อย่าพูดได้ไหม ฉันอายคน
ลูลู่ : มันเป็นความจริงที่เขาดังอยู่แล้ว เราเป็นแฟนคลับเขา รู้จักเขา พอเราเข้ามาเป็นศิลปินตัวน้อยๆ เราก็ได้ร่วมงานกับเขา ถ่ายละครด้วยกัน เรื่องแรกเลย เขานั่งอยู่ข้างนอก ก็ชวนเขาไปนั่งข้างใน ชวนเขากลัวเขาร้อน เขาบอกไม่เป็นไร เราก็คิดเขาไม่อยากรู้จักกับเราหรือเปล่า หรือว่าฉันไม่ดังพอ เขาเลยไม่เข้าไปหาเราหรือเปล่า แต่พอสัมผัสเรื่อยๆ เขาเป็นผู้หญิงที่ไม่มีพิษ ไม่มีภัย เป็นคนคิดบวกตลอด ไม่เคยคิดลบกับใครเลย มันดี ถ้าคบกับเขาแล้ว ลู่ว่าลู่จะมีชีวิตที่มีความสุข
เมื่อไหร่ลู่จะเลิกคิดว่าตัวเองไม่ดัง ตัวเองไม่ดี แล้วโทษตัวเอง เพราะตัวเองชอบมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง ทั้งที่ตัวเองเป็นคนดัง?
ลูลู่ : มันอาจจะเป็นแบบเราโตมาแบบไหน เข้ามายังไง เรามองในจุดนั้นมากกว่า เป็นคนเซนซิทีฟเรื่องนี้มาก แต่เราไม่ได้เอามากดดันตัวเองนะว่าเราด้อยค่า แต่ว่าเรารู้สึกว่า เรายังเป็นเบอร์น้อยๆ อยู่
แสดงว่าโดนคนดูถูกเหรอถึงเป็นอย่างนี้?
ลูลู่ : ไม่ค่ะ ความคิด ความรู้สึกของเรา เรายังเป็นเบอร์เล็กๆ อยู่
รุ้ง : เลิกคิดได้แล้ว ฉันเล่นเป็นคนใช้ตลอดปี ตลอดชาติ ฉันก็ว่าฉันดัง เป็นที่รู้จัก ไปไหนมาไหน คนก็จำฉันได้
ลูลู่ : ตอนที่เล่นละครด้วยกัน เธอก็ไม่เข้าไปหาฉัน
อย่างรุ้งเป็นคนคิดบวก คิดดี น่าจะมีเพื่อนเยอะ แต่จริงๆ เป็นคนเพื่อนน้อย?
รุ้ง : มันไม่ใช่ว่ามีเพื่อนย้อยนะ จริงๆ รุ้งเป็นคนค่อนข้างเฟรนลี่ แต่เราจะมีกลุ่มเพื่อนที่เป็นเพื่อนจริงๆ ที่สนิทจริงๆ ประมาณ 3 คน
รวมเขาอยู่ในนั้นไหม?
รุ้ง : ไม่รวมค่ะ
ลูลู่ : อันนี้พูดตามตรง ยังไม่ได้รวมเพราะว่า เราเพิ่งมาสนิทกันช่วงหลังๆ แล้ว ได้ร่วมงานด้วยกัน รู้ว่าเขานิสัยยังไง เราเข้าหาเขาแล้ว คุยกับเขาแล้ว เรามีความสุข ผู้หญิงคนนี้บริสุทธิ์จริงๆ
รุ้ง : เพื่อนที่ว่า 3 คน เป็นเบื้องหลัง เพื่อนในวงการรุ้งก็มี เข้าใจไหมเวลาเราเล่นละครสักเรื่องนึง เราก็จะสนิทกันในช่วงนึง เคยมีเพื่อนที่เป็นพระเอก นางเอก แต่ไลฟ์สไตล์เราจะเป็นประเภทที่แบบว่าเวลาวันหยุดชอบอยู่บ้านมาก ถ้าใครจะชวนเราออกไปไหน พระเอก นางเอก เขาจะชอบเข้าเมืองกัน แต่เราเป็นประเภทถ้าอยากเจอกันมาหาแถวบ้านได้ไหม เคยมีครั้งหนึ่งมีน้องๆ ที่สนิทกัน เล่นละครด้วยกัน
แล้วด้วยความที่เราเป็นแบบนี้ เราแอบกวนตีนโดยที่เราก็ไม่รู้ตัว เขาก็จะชอบเรา เหมือนฟิลชวนไปกินข้าว เราก็บอกฉันไม่ไปในเมืองนะ มาแถวบ้านฉันได้ไหมล่ะ โอเคๆ ทุกคนก็แห่มา พอถึงเวลานัดปุ๊บ นี่ไม่ไป เพราะว่าหลับ ทุกคนก็โทรมาๆ แล้วด่าแบบว่า อีกแล้ว แล้วมีเพื่อนคนนึง เป็นพระเอกเลย สนิทมาก ช่วงบ้านเราทำอยู่ เราก็ไปนอนบ้านเขา นู้นนี่ แล้วนางชอบโทรมา แกไปนู้น ไปนี่ เดี๋ยวฉันไปรับนู้นนี่ เราก็จะอ้าง เพราะช่วงนั้นเราเขียนบทอยู่ ยังทำบทไม่เสร็จ นู้นนั่นนี่ เขาก็พยายามหว่านล้อม โทรมาหาหลายรอบ จนสุดท้ายนางโทรมาในใจคงต้องไปแล้วล่ะ เปล่า มันโทรมาบอก อีทากอยู่บ้านไปเถอะ แล้วก็วางสายไป
เคยมีแอบชอบพระเอกบ้างไหม?
รุ้ง : โอ้ย..ไม่เหลือ คือชอบในที่นี่ คือชื่นชอบในผลงานของเขา ชอบ น้องหมาก ปริญ ตอนนี้อกหักมาก
แล้วชีวิตจริงมีพระเอกหรือยัง?
ลูลู่ : ให้ฉันตอบให้นะ ไม่มีค่ะ
มีคนจีบไหม?
รุ้ง : คือจริงๆ รุ้งโสดมาสัก 6 - 7 ปีได้แล้วมั้ง แต่ก่อนหน้านั้นก็มีมาเรื่อยๆ
ที่โสด 6 ปี เพราะตัวเองไม่เปิดใจให้ใครเลยหรือเปล่า?
รุ้ง : มีคนถามว่าไม่เหงาเหรอ นู้นนี่ คือรุ้งเป็นคนไม่ขี้เหงาเลย รุ้งไม่รู้ว่าเพราะอะไร สมัยก่อนตอนเด็กๆ สามารถไปไหน มาไหนคนเดียว โดยไม่รู้สึกว่าฉันต้องมีเพื่อนไปด้วย แต่พอเป็นดารา เราไปไหนคนเดียวรู้สึกว่าโดนมองแล้วเราทำตัวไม่ถูก มันก็เลยต้องมีเพื่อนไปด้วย แต่ก่อนเราสามารถทำอะไรเองได้หมดเลย รุ่งมาเรียนกรุงเทพตั้งแต่ ม.ปลาย แล้วรุ้งไปเดินห้างคนเดียวไปเดินเพื่อนห้องเดียวกัน เขามาเป็นกลุ่ม เพื่อนผู้ชายก็เลยถามรุ้งแกมากับใคร มาเดินคนเดียว เพื่อนก็บอกมึงจะบ้าเหรอมาเดินคนเดียวได้ยังไง เราก็แบบทำไมวะ มาเดินห้างมันต้องมากันหลายคนเหรอ เพราะเราสามารถไปไหนมาไหนคนเดียวได้โดยที่เราไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
เราตั้งใจโสด ใช้ตำนี้ได้ไหม?
รุ้ง : ไม่ได้ตั้งใจแบบนั้น แต่ไม่มีใครเข้ามา แต่ถามว่ามันโหยหาไหม ไม่เลย ความรู้สึกรุ้งตอนนี้รุ่งแฮปปี้กับชีวิตมาก เห็นชีวิตคู่ของใครหลายคน ช่วงนั้นตอนที่เราเลิกกับคนล่าสุดของเราไป เราก็เฮิร์ตอยู่นะ แต่สักพักข่าวคนนี้เลิก คนนั้นเลิก เอ้า กูมีเพื่อนนี่หวา เราเลยรู้สึกโอเค ตอนนี้รู้สึกแฮปปี้กับชีวิตของเราที่เป็นแบบนี้
ชีวิตของเราเป็นไงบ้างหลังแต่งงาน?
ลูลู่ : ตอนนี้มีความสุขมาก เราไม่รู้เลยการแต่งงาน แล้วมาใช้ชีวิตแบบถูกต้องตามกฎหมาย ข้างในมันรู้สึกอบอุ่น มันมีความสุขมาก มันรู้สึกว่าความสุขหลังแต่งงานมันเป็นแบบนี้อองเหรอ
แล้วเรื่องมีลูกล่ะ?
ลูลู่ : พอเราโฟกัสเรื่องลูกแล้วมันยังไม่ได้ดังใจเรา เพราะเราปรึกษากับหมอมาแล้ว เราเคยฮีดเชื้อมาแล้ว อีกนึดนึงทำวิทยาศาสตร์แล้ว แต่ว่าไข่ยังโตไม่พอ แต่พอมาถึงจุดนึงถ้าไม่ได้นะ เราไม่มีบุญ เราก็คุยกับแฟนเลยว่าเราก็ดูแลกันไปนะ ไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้นเต็มร้อยแล้ว เวลาคนแนะนำมาให้ไปขอพร เราก็ไปมาแล้ว เหมือนทำทุกอย่างแล้ว มันก็เลยโอเค ผ่านไปแล้ว เราอยู่สองคนเราก็มีความสุข ฉันอยากไปไหน ฉันก็ได้ไป ดูแลกันไปจนแก่เฒ่าก็แล้วกัน