จากกรณีการจับกุมผู้ต้องหาคดีฆ่านายวรยุทธ สังหลัง หรือ ผู้ใหญ่บัติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมครอบครัวรวม 8 ศพ โดยสามารถจับคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุรวม 8 คน ซึ่งมีนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือ บังฟัต ที่ถูกระบุว่าเป็นคนบงการทั้งหมด เนื่องจากมีปัญหาขัดแย้งเรื่องที่ดินและหนี้สิน
ล่าสุด (19 ก.ค.)
พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับ กองบังคับการตำรวจสันติบาล 2 เปิดเผยว่า ตนได้ข้อมูลการก่อเหตุในครั้งนี้ จากคนรู้จักในพื้นที่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ พร้อมมีการแถลงจับกุม ถึงมูลเหตุว่าเป็นปมเรื่องที่ดินและหนี้สิน ตามข้อมูลที่ตนได้มานั้น สำหรับตนมองว่าประเด็นที่แท้จริงยังมีมากกว่านี้ เพราะตนได้ข้อมูลดังกล่าวมาก่อนที่จะมีการจับกุมคนร้าย แต่สาเหตุที่เพิ่งออกมาพูด เพราะกลัวว่าจะเป็นการชี้นำ หรือแทรกแซงกระบวนการของเจ้าหน้าที่ ส่วนตัวไม่ได้รู้จักทั้งฝ่ายผู้ใหญ่และคนก่อเหตุ
พ.ต.ท.สันธนะ เผยต่อว่า ผู้ใหญ่วรยุทธและบังฟัต รู้จักกันมานาน และมีปัญหากันมาก่อน แต่เรื่องปมที่ดิน เกิดขึ้นตั้งแต่ 4-5 ปีก่อน มีจำนวนความเสียหายเพียง 1-2 ล้านบาท ระบุว่าหากบังฟัตต้องการฆ่าผู้ใหญ่ คงฆ่าไปนานแล้ว และที่สำคัญหลายกระแสบอกว่าบังฟัตเป็นนายทุน มีฐานะร่ำรวย ส่วนตัวมองว่า หากมีฐานะเขาไม่อยากไปฆ่าคนเช่นนี้แน่นอน ขณะนี้ ตนมีข้อมูลที่ทำให้เชื่อได้ว่า คดีนี้มีผู้อยู่เบื้องหลัง เป็นผู้จ้างวานให้บังฟัตมาก่อเหตุ ขอระบุชื่อว่า "เจ๊ชุมพร" ที่จ้างวานด้วยเงิน 2 ล้านบาท และบังฟัตรับเงินมาแล้วก่อนหน้านี้ 1 ล้านบาท และจะกลับไปรับเงินส่วนที่เหลือหลังจากก่อเหตุแล้วเสร็จ นอกจากนี้ การตายของผู้ใหญ่วรยุทธ บังฟัตได้ประโยชน์ที่อาจหวังเป็นผู้ใหญ่คนใหม่เพื่อผลประโยชน์กับผู้ว่าจ้าง
พ.ต.ท.สันธนะ พูดถึงเจ๊ชุมพรว่า เธอคือผู้อยู่เบื้องหลัง โดยเป็นเจ้าของกิจการระดับ 40-50 ล้านบาท และมีกิจการหลายแห่งในภาคใต้ ที่สำคัญเจ๊ชุมพร มีความคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ระดับภาค อาจมีการจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อปิดคดีนี้
สำหรับประเด็นที่ตนสงสัยคือ ภาพจากกล้องวงจรปิด หากมีก็อยากให้นำออกมาให้สังคมได้รับทราบ เนื่องจากช่วงเวลาการก่อเหตุของคนร้ายมีระยะเวลาที่นานมาก ระบุว่าคนแค้นจะฆ่ากัน หากเจอหน้ากัน ก็คงไม่คุยอะไร คงฆ่าแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่าต้องมีการเจรจาอะไรกัน และคนร้ายไม่สามารถตัดสินใจเองได้ จึงทำให้เวลาก่อเหตุเนิ่นนานขนาดนี้
นอกจากนี้ พ.ต.ท.สันธนะ ยังสงสัยอีกว่า เหตุใดคนร้ายพาไปดูหลักฐานต่างๆทุกจุดได้ แต่ฐานข้อมูลกล้องวงจรปิดที่คนร้ายนำไปจากที่เกิดเหตุ ไม่มีการเปิดเผยออกมา หลังจากนี้คงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ที่ควรไปสืบสวนสอบสวนถึงความเชื่อมโยงต่างๆ เผยว่า ไม่ต้องออกมาโต้แย้งตน เพราะตนไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับกรณีนี้ แต่ควรไปหาคำตอบในประเด็นต่างๆให้หายข้อสงสัย