ยายพิการตาบอดชีวิตรันทดร้องลูกไม่เหลียวแลแถมยังเอาโฉนดไปจำนอง ถูกนายทุนขู่ไม่จ่ายจะฟ้องยึดบ้าน กลัวไม่มีที่ซุกหัวนอน
วันที่ 8 ส.ค.66 นางดำ อายุ 81 ปี พิการตาข้างขวาบอด ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่บ้านใน ต.หนองไทร อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เพียงลำพัง ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ โดยอ้างว่าลูกชายและลูกสาวที่มีอยู่ทั้งหมด 5 คน ไม่เหลียวแล แถมยังเอาโฉนดที่ดินที่ปลูกบ้านอาศัยในปัจจุบันไปจำนองกับนายทุน100,000 บาท แล้วไม่ยอมจ่าย จนนายทุนมาทวงถามและบอกว่าหากไม่จ่ายก็จะฟ้องยึดบ้านและที่ดินขายทอดตลาด จึงเกิดความเครียดกลัวจะไม่มีบ้านอยู่อาศัย เพราะลูกทั้ง 5 คนต่างก็แยกย้ายไปมีครอบครัวและใช้ชีวิตของตัวเองไม่ค่อยมาเหลียวแล พอไปปรึกษาหรือถามเรื่องที่นำโฉนดไปจำนองนายทุนเมื่อไหร่จะเอาเงินไปจ่ายก็ถูกลูกๆต่อว่า
โดยยายดำ เล่าว่ามีลูกทั้งหมด 5 คน ส่วนที่ดินที่ปลูกบ้านอาศัยอยู่ปัจจุบัน ลูกสาวคนที่สองเป็นคนไปซื้อและโอนเป็นชื่อของตัวเอง โดยเอาเงินของแม่ไปซื้อ แต่ลูกสาวบอกว่าแม่อายุมากแล้วก็โอนเป็นชื่อลูกเลยดีกว่า ก็เห็นว่าเป็นแม่ลูกก็ไม่ได้คิดอะไร โดยที่ดินดังกล่าวมีเนื้อที่ 1 ไร่ 14 ตารางวา ตอนซื้อ ซื้อในราคา 15,000 บาท เพราะเป็นคนรู้จักกัน แต่เมื่อ 7 ปีที่ผ่านมาลูกสาวคนที่สองก็เอาโฉนดที่ดินไปจำนองนายทุน 100,000 บาท แต่ลูกไม่ได้บอก กระทั่งมีนายทุนมาทวงถามบอกว่าลูกสาวเอาโฉนดที่ดินไปจำนองไว้ 100,000 บาท เป็นปีแล้วยังไม่จ่ายดอกเบี้ยเลย ทั้งยังบอกว่าหากไม่จ่ายจะฟ้องร้องดำเนินยึดทรัพย์ขายตลาดตามกฎหมาย จึงกลัวจะถูกยึดที่ดินและบ้านทำให้ไม่มีที่อยู่อาศัย ติดต่อไปหาลูกบอกให้หาเงินมาจ่าย ลูกก็ตะคอกใส่ ก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะลำพังตนเองคงไม่มีปัญญาหาเงินไปจ่าย เพราะทุกวันนี้ก็อาศัยแค่เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาทดำรงชีวิต จึงได้ออกมาขอความช่วยเหลือจากสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียง
ผู้สื่อข่าวสอบถามนายเสน่ห์ อายุ 57 ปี ลูกชายคนโต ซึ่งก็มีครอบครัวอยู่ในหมู่บ้าน บอกว่า ที่แม่บอกว่าลูกๆไม่เหลียวแลไม่เป็นความจริง ซึ่งลูกแต่ละคน แม้จะไปอยู่กับครอบครัวและทำมาหากินต่างจังหวัด ก็ยังส่งเสียและดูแลอย่างดี โดยเฉพาะตนเองซึ่งอยู่ไม่ไกลก็แวะไปดูแม่ตลอด ส่วนเรื่องที่น้องเอาโฉนดที่ดินไปจำนอง ก็ได้ยินว่าน้องมีการติดต่อพูดคุยกับทางนายทุนตลอด และเห็นว่าจะหาเงินมาใช้หนี้ ก็คิดว่าคงไม่ปล่อยให้นายทุนยึด
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพูดคุยกับลูกสาวคนที่ 5 ซึ่งทำงานและใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ก็ยืนยันว่า ลูกทุกคนดูแลแม่อย่างดี ที่ผ่านมาพี่สาวคนที่สอง เพิ่งกลับจากทำงานเกาหลีและมีบ้านอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ก็เคยพาแม่ไปอยู่ด้วย ซึ่งพี่สาวก็ดูแลแม่เป็นอย่างดีอยากกินอะไรก็ซื้อให้ พี่สาวก็ถ่ายรูปส่งมาให้ดูตลอด แต่แม่เองที่เป็นคนเอาแต่ใจ ลูกทำอะไรก็ไม่ถูกใจ ชอบบ่นชอบด่า ซึ่งลูกทุกคนก็รู้ดีตนก็พยายามบอกแม่อยากให้แม่ปล่อยวางบ้าง ส่วนที่แม่อยู่บ้านคนเดียว เพราะแม่ไม่อยากจะอยู่กับลูกก็ขอกลับมาอยู่บ้านเอง ซึ่งลูกก็มาส่งเอาตามที่แม่สบายใจ เพราะที่หมู่บ้านก็มีพี่ชายอยู่ไม่ไกลก็แวะเวียนมาดูแลประจำ ก็ไม่รู้ว่าทำไมแม่ถึงไปร้องเรียน ส่วนเรื่องที่พี่สาวเอาโฉนดไปจำนองพี่สาวก็ติดต่อพูดคุยกับนายทุนตลอด และลูกๆก็พยายามหาเงินไปจ่าย ยืนยันว่าไม่ถูกยึดแน่นอน