เตือนภัย! โจรอ้างตัวเป็นลูกหลาน หลอกยืมเงินเซียนพระ 6,000 บาท ก่อนขับรถหลับหนีไป เซียนพระเผยให้เข้ามาคุยกันถ้ามีเหตุผลดีๆ ตนอาจให้เงินเพิ่ม
วันที่ 11 ส.ค. 2566 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังลานพระตลาดนัดเรือบิน ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พบกับนายวิชัย สงวนนามสกุล อายุ 71 ปี (เซียนพระและเจ้าของร้านพระเครื่อง) ที่อยู่หมู่ 12 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้เล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุให้ผู้สื่อข่าวฟังกล่าวว่า
เมื่อวันพุธที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลา 07.20 น. ขณะที่ตนนั่งอยู่ที่แผงพระ จู่ๆ มีชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 30-35 ปี สวมแมส หมวกกันน็อคสีขาว เสื้อแขนยาวสีม่วง กางเกงยีนส์ เดินเข้ามาทักทายสวัสดี แล้วบอกว่าเขาชื่อนายสิทธิเดช วงษ์ฉาย เป็นลูกชายของพ่อศักดิ์ มีปู่ชื่ออ่วม ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนายวิชัย (ผู้เสียหาย) แล้วก็ชวนพูดคุยเล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันของพ่อศักดิ์และปู่อ่วมให้กับนายวิชัย(ผู้เสียหาย)ฟัง
กระทั่งนายวิชัยหลงเชื่อว่าเป็นลูกหลานของเพื่อนสนิทจริงๆ เมื่อมิจฉาชีพรายนี้เห็นว่าเหยื่อหลงเชื่อแล้ว จึงเอ่ยปากขอความช่วยเหลือบอกว่า รถยนต์ยางแตก จอดเสียอยู่ริมทาง ปล่อยให้แม่นั่งเฝ้ารออยู่ที่รถฯ ตัวเขาขอยืมรถจักรยานยนต์ของคนรู้จัก ขับขี่มาขอความช่วยเหลือกับปู่วิชัย ตนเห็นว่าลูกหลานเดือดร้อนและเกรงใจเพื่อนถ้าหากไม่ช่วย จึงควักเงินส่งให้ 5,000 บาท
แต่มิจฉาชีพเห็นว่าตนมีเงินเยอะ จึงขอเพิ่มอีก รวมเป็น6พันบาทแล้วบอกว่าเดี๋ยวจะเอาเงินที่พ่อศักดิ์มาใช้คืนให้จากนั้นรี1,000 บาท เดินออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว สักพักตนเอะใจจึงได้เดินไปถามกับแม่ค้าขายดอกไม้ชื่อพี่เล็ก หน้าศาลแม่ตะเคียน ซึ่งรู้จักกับครอบครัวของนายสิทธิเดช นายศักดิ์ และปู่อ่วมเป็นอย่างดี โดยพี่เล็กบอกว่าไม่ใช่คนชื่อสิทธิเดช ตนจึงรีบโทรศัพท์ไปถามกับนายศักดิ์ แล้วได้รับคำตอบว่าลูกชายกับเมียอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน หลังได้ฟังถึงกับตกใจจึงรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอกเข้าแล้ว
จากนั้นได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางพลี พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยติดตามตัวมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินดดี เนื่องจากคนในตลาดเริ่มโดนหลอกเยอะมากขึ้น ตนเป็นเหยื่อรายที่ 2 ในรอบสัปดาห์นี้ และกล่าวเพิ่มเติมว่าถ้าจับตัวคนร้ายได้ ตนไม่เอาเงินคืนจะยกเงินให้ตำรวจ 3,000 บาทและให้กับนายสิทธิเดช 3,000 บาทพร้อมฝากไปถึงมิจฉาชีพที่ก่อเหตุ หากได้ดูข่าวนี้ ขอให้รีบกลับมาหาตนที่แผงพระ มาอธิบายถึงความจำเป็นที่ต้องมาหลอกลวง ตนจะไม่ทำร้าย ไม่เอาเรื่อง ถ้ามีเหตุผลดีๆ ตนอาจให้เงินเพิ่ม แล้วจะพาไปเลี้ยงข้าวอีก 1 มื้อด้วย