"เมียนมา"โจมตีค่ายลี้ภัยและทหารกะเหรี่ยงคะยา

14 ส.ค. 66

"เมียนมา"ใช้เครื่องบินขับไล่ แบบ SU-30 บินโจมตีทหารกะเหรี่ยงคะยา ทำให้มีผู้ลี้ภัยหนีเข้ามาในไทย ที่ ต.ปางหมู อ.เมือง แม่ฮ่องสอนจำนวนมาก

 

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2566 แหล่งข่าวผู้นำระดับสูง กองกำลังทหารกะเหรี่ยงคะยา KA เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา กองทัพอากาศเมียนมา ได้ใช้เครื่องบินขับไล่แบบ SU-30 จากฐานบินลอยก่อว์ บินมาโจมตีทหารกะเหรี่ยงคะยา ที่เกาะติดใกล้ฐานดอตะแค ของทหารเมียนมา ตรงข้ามช่องทางบ้านดอยแสง ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ของไทย ห่างจากชายแดนประมาณ 5 กม. ซึ่งมีการปฏิบัติการทางอากาศ 2 ครั้ง เวลา 03.00 น. และ 03.15 น.โดยมีการทิ้งระเบิดขนาด 500 ปอนด์ และ ยิงด้วยปืนกลอากาศใส่ทหารกะเหรี่ยงคะยา ยังได้ทิ้งระเบิด บริเวณใกล้กับบ้านดอนกกู่พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวฝั่งเมียนมา ที่เคยถูกโจมตีมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้มีราษฎรคะยา จำนวนหนึ่งหนีเข้าสู่ไทยที่บ้านในสอย ( ศูนย์อพยพ ) หมู่ 4 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

ก่อนหน้านั้นผู้ใหญ่บ้านไม้สะเป่ หมู่ 9 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้รายงานสถานการณ์ชายแดนให้กับนายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนว่า เมื่อวันที่13 ส.ค.2566 เวลา 20.34 ราษฎรไทยในหมู่บ้านได้ยินเสียงเครื่องบินรบของประเทศเมียนมาบินวนไปมาหลายรอบเสียงดังชัดเจน จนถึงขณะนี้คาดว่าน่าจะบินสำรวจจับพิกัดของชนกลุ่มน้อยที่ซุ่มประจำจุดต่างๆ

สำหรับบ้านดอนกกู่ เป็นหมู่บ้านพื้นที่ปลอดภัยของผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงคะยาในรัฐคะยา ประเทศเมียนมา ได้เคยถูกกองทัพอากาศเมียนมา ทิ้งระเบิดถล่ม เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 เวลาประมาณ 01.30 น. ส่งผลให้มีราษฎรผู้ลี้ภัยเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 10 กว่าราย ทั้งนี้ ศูนย์ฯดอนกกู่ เป็นศูนย์อพยพชาวคะยาที่หลบหนีภัยการสู้รบในรัฐคะยามาอาศัยอยู่ติดชายแดนไทย ตรงข้ามศูนย์พักพิงผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบบ้านในสอยฯ มีผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงคะยาอาศัยอยู่ประมาณ 5,000 กว่าคน และในครั้งนั้นได้มีผู้ลี้ภัยจาก ดอนกกู่ หนีเข้ามาในไทย 3 พันกว่าราย เหลืออีกประมาณ 2 พันราย

ปัจจุบันผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาที่มีความกังวลจากสถานการณ์ในพื้นที่ ได้เดินทางเข้ามายังฝั่งไทย จำนวน 9,049 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จังหวัดแม่ฮ่องสอน กองกำลังนเรศวร และฝ่ายปกครองจังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำเนินการติดตามสถานการณ์ ในฝั่งประเทศเมียนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย นอกจากนั้นทางกองทัพอากาศ เฝ้าตรวจทางอากาศ และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมขึ้นบินลาดตระเวนรบ หากอากาศยานมีแนวโน้มจะลุกล้ำน่านฟ้าไทย.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส