โจรใต้ดักยิงถล่มขว้างระเบิดใส่ชุดลาดตระเวน เจ้าหน้าที่ดับ 3 เจ็บ 5 เชื่อตอบโต้หลังเจ้าหน้าที่วิสามัญแกนนำระดับปฏิบัติการเสียชีวิต 1 รายก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 22.50 น.วันที่ 28 ส.ค.66 ร.ต.อ.เจษฎา จันทร์โชโต รอง สว.(สอบสวน) สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุปะทะกัน มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบริเวณหน้าที่ทำการเทศบาลตำบลยะรัง ม.3 ต.ยะรัง อ.ยะรัง ริมถนนสายยะรัง-มายอ
เมื่อไปถึงพบเจ้าหน้าที่คุมพื้นที่เกิดเหตุหลังจากการปะทะกันเพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ โดยได้ทำการปิดเส้นทางดังกล่าวทันที และพบผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายจึงรีบลำเลียงส่ง รพ.ยะรัง
ผู้เสียชีวิต จำนวน 3 นาย ทราบชื่อ ด.ต.ตุแวเลาะ ลอมะ อายุ 48 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.ยะรัง และ นายชาญวิทย์ ดอเล็าะ อายุ 45 ปี นายณรงค์ หระแก้ว อายุ 47 ปี ทั้งสองนายเป็น อส.อำเภอยะรัง
โดยทั้ง 3 นายถูกกระสุนปืนสงครามเข้าลำตัวหลายนัด นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย ทราบชื่อ ส.ต.ท.บุญนี ดือเระ อายุ 25 ปี ส.ต.ท.อิสมาแอ็น จิตหลัง อายุ 32 ปี ส.ต.ท.ศราวุฒิ สูสัน อายุ 29 ปี ส.ต.ต.ธนทัต โชคมาก อายุ 22 ปี และ ส.ต.ต.ธวัช เส็นฤทธิ์ อายุ 25 ปี ทั้ง 5 นายมีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดและถูกยิง
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถกระบะสายตรวจ สภ.ยะรัง ทะเบียน 3ขณ 2403 กทม.จอดอยู่หน้าที่ทำการเทศบาลตำบลยะรังสภาพถูกยิงจนพรุนและถูกสะเก็ดระเบิดจนได้รับความเสียหายทั้งคัน ใกล้กันรถจยย.ของเจ้าหน้าที่จำนวน 2 คันล้มหน้าประตู นอกจากนี้สภาพตัวอาคารของเทศบาล 2 ชั้น มีร่องรอยกระสุนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ยังพบปลอกกระสุนปืนสงครามทั้งเอ็ม 16 และอาก้า ตกเกลื่อนบนถนนกว่า 100 ปลอก และพบชิ้นส่วนระเบิดชนิดขว้างยังไม่ทราบชนิด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่ชุดปฏิบัติลาดตระเวนร่วมตำรวจ 6 นาย และ อส.2 นายใช้รถยนต์สายตรวจ 1 คันมีตำรวจ 4 นาย ติดตามด้วย รถ จยย. จำนวน 2 คัน คันละ 2 นาย ตำรวจ 1 คัน และ อส.อ.ยะรัง 1 คัน เมื่อมาถึงบริเวณหน้าที่ทำการเทศบาลตำบลยะรัง ปรากฏว่ามีกลุ่มกองกำลังติดอาวุธคาดว่าเกือบ 10 คน พร้อมอาวุธสงครามดักซุ่มอยู่ในที่มืดฝังตรงข้ามเมื่อได้จังหวะคนร้ายจึงเปิดฉากถล่มยิงใส่เจ้าหน้าที่ทันที พร้อมกับขว้างระเบิด จำนวน 3 ลูกใส่เป็นระยะ จนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงต่างตื่นตกใจหลบเข้าไปในบ้าน ทำให้รถยนต์สายตรวจยางแตกไม่สามารถไปต่อได้ ส่วนรถ จยย.ล้มข้าง ๆ เจ้าหน้าที่จึงหนีหลบข้างรถสายตรวจ ก่อนจะมีการยิงตอบโต้ปะทะกันดุเดือดเกือบ 20 นาที กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสนับสนุนเข้าพื้นที่คนร้ายจึงล่าถอยหลบหนีเข้าไปในความมืด เมื่อสถานการณ์ปกติพบว่ามีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
และเวลาไล่เลี่ยกันคนร้ายได้ลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้า จำนวน 3 จุด จุดแรกในพื้นที่รอยต่อ ม.4 และ ม.5 ต.ระแว้ง อ.ยะรัง ระเบิดเสาไฟฟ้าขาด จำนวน 2 ต้น และเสาไฟโซล่าเซล 1 ต้นล้มขวางถนน จุดที่ 2 เหตุระเบิดเสาไฟฟ้า บริเวณริมถนนสายปัตตานี-ยะลา ต.กระโด ม.2 เขตรอยต่อ ต.เมาะมาวี ม.1 ระเบิดเสาไฟฟ้า 1 ต้น และจุดที่ 3 คนร้ายระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง ริมถนนสายปัตตานี-ยะลา ม.5 บ.พงสตา ต.ยะรัง ได้รับความเสียหาย โดยคนร้ายได้ลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้า เพื่อทำการสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการช่วยเหลือและไล่ติดตามคนร้ายขณะหลบหนีได้
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง ผบ.ฉก.ปัตตานี พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นำกำลังชุดปฏิบัติการณ์ร่วมและชุดสืบสวนเข้าที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้จัดกำลังไล่ล่าคนร้ายตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี และจัดกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 500 เมตร พร้อมทั้งให้รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัว ทั้งบริเวณที่เกิดเหตุและตามเส้นทางต่างๆ เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบสร้างสถานการณ์และพยายามตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ หลังก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้วิสามัญแกนนำระดับปฏิบัติการและมีหมายจับเสียชีวิต 1 ราย
ล่าสุด09.00 น.วันที่ 29 ส.ค. เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุตั้งแต่เมื่อคืน โดยมีการสนธิกำลังร่วม 3 ฝ่ายในพื้นที่ อ.ยะรัง และอำเภอใกล้เคียงทำการสกัดกั้นเส้นทางเข้า-ออกพื้นที่และวางจุดตรวจจุดสกัดบนถนนทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง พร้อมตรวจค้นทุกรถชนิดและบุคคลต้องสงสัยตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการติดตามไล่ล่าคนร้าย พล.ต.ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้สั่งการให้หน่วยความมั่นคงทุกหน่วยเข้าพื้นที่ อ.ยะรัง อ.มายอ ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายกว่า 20 จุด และประสานไปยังผู้นำท้องที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติภารกิจไล่ล่าคนร้ายครั้งนี้ ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น ล่าสุด หน่วยข่าวความมั่นคง ระบุว่า เป็นฝีมือกลุ่มกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่อำเภอเมืองปัตตานีและอำเภอยะรัง มีการวางแผนก่อนหน้านี้ตามที่ได้รับแจ้งจากสายข่าว ซึ่งการประชุมของกลุ่มคนร้ายมีแผนในการโจมตีฐาน แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีการเฝ้าระวังและป้องกันเหตุ จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะเปลี่ยนแผนก่อเหตุชุดลาดตระเวนเส้นทาง โดยกลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธระดับปฏิบัติการและชุดลอบวางระเบิด นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแนวร่วมชุดใหม่ที่ร่วมก่อเหตุเพื่อต้องการแสดงศักยภาพในการเข้ากลุ่มขบวนติดอาวุธอีกหลายคน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีรายชื่อแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้.