เจ้าของร้านกราบขอโทษคู่กรณี "ปังชา" จบรายการทุกคนทิ้งดอกไม้ ไม่มีใครเอากลับบ้าน

เจ้าของแบรนด์ลูกไก่ทอง ยกมือกราบขอโทษคู่กรณี "ปังชา" ยันว่าไม่มีเจตนาทำร้ายใคร ตั้งใจจะสร้างแบรนด์เพื่อชื่อเสียงของคนไทย ไม่ใช่เพื่อตัวเองคนเดียว

จากกรณีดราม่า ผู้ประกอบการร้านขนมหวานหลายร้าน ได้รับโนติสเตือน จากร้าน “ลูกไก่ทอง” ที่ไปจดลิขสิทธิ์ “ปังชา” จนหลายร้านถูกเรียกค่าเสียหายหลักล้านถึงร้อยล้านบาท เพราะไปใช้คำว่าปังชา ซึ่งล่าสุดรายการโหนกระแส ได้เชิญเจ้าของร้านและคู่กรณีมาร่วมพูดคุยกัน

คุณนุ๊ก และคุณมายด์ เจ้าของร้านตั้งใจชง เผยว่า ตนได้รับหนังสือโนติสโดยเอกสารระบุว่า ขอให้ยุติการใช้ผลิตภัณฑ์ถ้วยไอศกรีมที่ได้รับสิทธิบัตรของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นผลิต ขาย ใช้ภายในร้าน หรือแม้แต่เป็นภาพถ่ายเพื่อการโฆษณา เนื่องจากบริษัทผู้ร้องนั้นได้รับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา โดยหากยังเพิกเฉยจะขอคิดค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 2,000,000 บาท และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

คุณนุ๊ก เผยว่าร้านของตนเพิ่งกลับมารีโนเวตเปิดร้านเมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา สำหรับถ้วยไอศกรีมนั้น ร้านตนจะเป็น 3 หยัก แต่ของร้านดังจะเป็น 4 หยัก และตนไปซื้อถ้วยดังกล่าวมาจากตลาดนัดจตุจักรเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว หลังได้รับหนังสือโนติส ตนก็มองว่าร้านของตนเป็นร้านค้าเล็กๆ การเสีย 2 ล้านบาทไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ด้วยความไม่อยากมีปัญหา จึงทำการเปลี่ยนถ้วย 3-4 วันหลังจากนั้น รวมถึงลบภาพทุกอย่างที่เห็นภาพถ้วยออก สำหรับเมนูที่ร้านตนที่เป็นเมนูปังเย็นราดชาไทยนั้นมีมานานแล้ว ตั้งแต่ร้านเปิดเมื่อปี 2016 โดยใช้ชื่อเมนูว่า “ปังหนาว” หรือ “ปังเย็นชาไทย”

ด้านนายอรรณพ บุญสว่าง ทนายความของร้านลูกไก่ทอง ยอมรับว่า มีการออกโนติสไปจริง และก็คงต้องขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบต่อเรื่องนี้ แต่ก็ต้องขอให้สังคมเข้าใจว่า เราทุกคนล้วนได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายเดียวกัน ก็คือกฎหมายในเรื่องลิขสิทธิ์ คำว่า “ปังชา” ที่ทางบริษัทไปจด ได้รับความคุ้มครองภายใต้กฎหมาย จดลิขสิทธิ์ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาได้ เพราะแบรนด์นี้ สินค้านี้ ถูกขายถูกใช้จนแพร่หลาย มันพิสูจน์มาแล้ว จนผ่านการขออนุญาต ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายทั้งหมด

สำหรับร้านต่างๆ ที่ใช้ชื่อปังชา ซ้ำกับชื่อร้านที่เราไปจดลิขสิทธิ์ ถ้าไม่ได้มีเจตนาจะทำให้คนสับสนเข้าใจผิด ทางร้านก็ไม่มีเจตนาจะเรียกเงินจากเขา หากทำให้ใครเสียขวัญ หรือเกิดความตกใจ ก็ต้องขอโทษ และเสียใจต่อเหตุการณ์นี้

ส่วนเรื่องภาชนะที่บอกว่าซื้อมาจากจตุจักร ทางทนายบอกว่า ภาชนะแบบที่ร้านของเราไปจดทรัพย์สินทางปัญญา เป็นเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ เป็นไอเดีย เป็นการออกแบบ ที่ได้รับความคุ้มครอง เพราะฉะนั้นการใช้ภาชนะที่ดูแล้วมีความคล้าย หรือดูแล้วตั้งใจทำให้คล้ายหรือสับสน เราก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของเราเหมือนกัน ทางเราตั้งใจจะเจรจากับทุกคน มีการออกจดหมาย ออกโนติสไปก่อนหน้า แต่ไม่ได้รับการแก้ไข เราก็ต้องส่งไปใหม่ให้มีความเข้มข้นกว่าเดิม

ขณะที่คุณแก้ม เจ้าของแบรนด์ลูกไก่ทอง ได้ยกมือกราบขอโทษทุกคน ร้องไห้กลางรายการโดยอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ โดยยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะทำร้ายใคร ตนตั้งใจจะสร้างแบรนด์เพื่อชื่อเสียงของคนไทย ไม่ใช่เพื่อตัวเองคนเดียว ตนทุ่มเททำธุรกิจมาด้วยความคิดและมันสมอง ยืนยันว่าถ้วยทองเหลืองที่ไปจดลิขสิทธิ์ มันมาจากภูมิปัญญา มาจากการคิดค้น ด้วยความคิดของตัวเอง เสียใจที่สุดที่ตอนนี้มันไปอยู่ในมือของต่างชาติ

ส่วนประเด็นเรื่องการลอกเลียนแบบลายผู้หญิงไทย ที่ดูเทียบเคียงแล้วคล้ายกับภาพโปรโมตของสุรายี่ห้อดัง คุณแก้มชี้แจงว่า ภาพวาดเป็นภาพที่ไปจ้างบริษัทมาวาด โดยใช้ภาพของตัวคุณแก้มเองเป็นต้นแบบ ซึ่งคุณแก้มไปใส่ชุดไทยถ่ายแบบ มีคลิปทั้งหมด ซึ่งในตอนที่บรีฟทางบริษัท ได้บอกว่าเราชอบศิลปะแบบไทยๆ ชอบแนวทางคล้ายๆกับ รีเจนซี่ แต่ไม่ได้มีเจตนาจะลอกเลียนแบบใคร

ทั้งนี้ หลังจบรายการ คุณแก้มได้มอบดอกไม้เพื่อแสดงความขอโทษต่อคู่กรณีทุกคน ซึ่งปรากฏว่าหลังจากนั้น รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายชื่อดัง ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ “แขกที่รับดอกไม้ขอโทษลืมดอกไม้ไว้ทั้งหมดเลย สงสัยไม่สะดวกเอาขึ้นเครื่อง” ทำเอาชาวเน็ตต่างจับตาว่า งานนี้จะลงเอยอย่างไร จะมีการยอมความหรือฟ้องกลับหรือไม่