พ่อเฒ่า-แม่เฒ่า ขึ้นโรงพักแจ้งความกองทุนหมู่บ้าน หลังเบิกถอนเงินไม่ได้ พบถูกฉ้อโกงบัญชีแล้วกว่า 3.2 ล้านบาท กทบ.สอบพบแล้วแต่ยังยื้อ แจ้งความหลายเดือนไม่คืบ
สมาชิกกองทุนหมู่บ้านบ้านตลาดศุกร์ หมู่ 7 ตำบลพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราชกว่า 20 ราย ได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพันตำรวจตรีวรวรรธ์ วิชัยดิษฐ์ พนักงานสอบสวนสภ.พรหมคีรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับกรรมการกองทุนหมู่บ้านหลังจากที่ได้ฝากเงินไว้กับกองทุนหลายปีต่อเนื่อง แต่เมื่อจะเข้าเบิกถอนเงินนำมาใช้จ่ายปรากฏว่าไม่สามารถถอนได้ มีการบ่ายเบี่ยงจนท้ายที่สุดพบว่ามีการฉ้อโกงภายในกองทุนจากกรรมการบางราย โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนหมู่บ้าน และสำนักงานพัฒนาชุมชน ได้เข้าสอบสวนจนพบหลักฐานที่เกี่ยวข้องและยืนยันว่าจะมีการแจ้งความแต่เวลาล่วงเลยไปหลายเดือนยังไม่มีการแจ้งความแต่อย่างใด จึงรวมตัวเข้าแจ้งความดำเนินคดีเนื่องจากต้องการเงินที่หายไปคืน
สำหรับผู้สูงอายุหลายรายได้นำหลักฐานเป็นสมุดเงินฝากออมทรัพย์ของกองทุนหมู่บ้านตลาดศุกร์ หรือที่รู้จักในอีกชื่อคือ “กลุ่มสัจจะออมทรัพย์” แต่ละรายระบุว่าได้เก็บสะสมเงินไว้หลายปีต่อเนื่องบางรายบอกว่าเป็นเงินที่ได้จากการขายของเล็ก ๆ น้อยในหมู่บ้าน หรือได้มาจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ก็เก็บสะสมไว้ให้ลูกหลานเป็นทุนเรียนแต่ไม่สามารถเบิกออกมาได้ ทุกคนทราบดีว่ามีการฉ้อโกงเกิดขึ้นแต่กลับมีความล่าช้าจนต้องรวมตัวแจ้งความ
นายธีรศานต์ ช่วยโอ สมาชิกกองทุน ระบุว่าได้สะสมเงินไว้ในบัญชีตั้งแต่เป็นกลุ่มสัจจะ จนถึงวันเกิดเรื่องมียอดเงินกว่า 1 แสนบาท เมื่อต้องการเงินมาใช้กลับพบว่าไม่สามารถถอนได้จึงมีการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจนพบว่ามีการโกงครั้งแรกไปราว 1.9 ล้านบาท ครั้งหลังอีกรวมแล้วมากกว่า 3 ล้านบาท เวลาผ่านไปหลายเดือนเจ้าหน้าที่บอกว่าจะแจ้งความดำเนินคดีแต่ผ่านไปหลายเดือนจนตัดสินใจรวมตัวมาแจ้งความเอง
นอกจากนั้นยังพบว่าผู้ที่กู้เงินไปจากกองทุนหลายรายบางรายเริ่มที่จะไม่ผ่อนชำระเนื่องจากเข้าใจว่ากองทุนกำลังจะล้มยิ่งทำให้มีปัญหาซ้ำอีกส่วนคนที่ผ่อนชำระตามเวลามีหลายรายเช่นกันซึ่งต่างพยายามเร่งแก้ไขปัญหาส่วนกรรมการชุดเก่าผู้ที่ฉ้อโกงไปนั้น ชาวบ้านรู้จักดีปัจจุบันก็ยังอยู่ในหมู่บ้านแต่เวลามีการประชุมกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวข้องเขาจะไม่แสดงตัวไม่ออกมาประชุมร่วมด้วย
นายอนุรักษ์ ศิริวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะประธานกองทุนคนปัจจุบันระบุว่าทางสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) ได้เข้าตรวจสอบพบและยืนยันว่าจะแจ้งความแต่เมื่อเวลาผ่านไปชาวบ้านต่างวิตกกังวล และไม่มั่นใจทั้งยังไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้เลย จนกระทั่งชาวบ้านต้องมาแจ้งความส่วนเจ้าหน้าที่ล่าสุดนั้นสามารถติดต่อได้แล้วอ้างว่าอยู่ในระหว่างติดภาระกิจอยู่ที่พังงา และยืนยันว่าจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีด้วยขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.พรหมคีรี ได้รับแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เสียหายชุดแรกที่เข้าแจ้งดำเนินคดีแล้ว