“ทนายเดชา”เผยกล้อง2ตัวคือจุดสำคัญ บิ๊กโจ๊กไม่กล้าเปิดเพราะถูกสั่งห้าม

15 ก.ย. 66

ทนายเดชา”มองกล้องวงจรปิด 2 ตัว คือจุดสำคัญ กล้องเปลี่ยนเหตุการณ์ประชาชนรอดู แต่บิ๊กโจ๊กไม่กล้าเปิดเพราะถูกสั่งห้าม

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ถึงกรณีคดีของกำนันนก หลัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงกล้องวงจรปิดเปิดได้ 13 ตัว แต่ขาดไป 2 ตัว ไปก่อนหน้านี้แล้ว

ทนายเดชา เปิดเผยว่า เรื่องของกล้องวงจรปิดที่ขาดไปสองตัวจะแบ่งออกเป็นสองประเด็น คือกล้องตัวนั้นอาจจะเป็นกล้องดัมมี่ หรือกล้องเปล่าที่ไม่มีการบันทึกเหตุการณ์ใดใดเลย

ประเด็นที่ 2 กรณีหากเป็นการวางแผนลวงมาฆ่า ดึงสาย Lan ออกก่อนก่อเหตุ เพราะกล้อง 2 ตัวนี้มีนัยยะสำคัญเป็นกล้องตัวที่มีการส่องไปเห็นจุดยิง จึงต้องทราบข้อเท็จจริง จะเข้าข่ายลักษณะใด

แต่หากกล้องวงจรปิด 2 ตัว นี้ไม่มี มีผลต่อคดีไหม ทนายเดชา กล่าวว่า หากมีหลักฐานมีการวางแผนแล้วดึงสายออกจะมีผลทางคดีในข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โทษสูงสุดประหารชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(4) หากนำสืบได้แบบนี้

ส่วนสาเหตุที่”บิ๊กโจ๊ก”ไม่เปิดกล้องต่อสื่อสาธารณะชน น่าจะมีเหตุผลเดียวคือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่อนุญาต เพราะตามหลักความเป็นจริงแล้วกล้องที่บันทึกเหตุการณ์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ได้ จึงไม่มีผลต่อรูปคดีอยู่แล้ว อีกทั้งที่ผ่านมาคดีที่ใหญ่กว่านี้อย่างเช่นคดีผู้กำกับโจ้คลุมถุงดำ ก็ยังสามารถเปิดกล้องวงจรปิดต่อสาธารณะชนได้ โดยไม่มีการส่งผลถึงรูปคดีแต่อย่างใด

“ดังนั้นผมมองว่าอะไรที่เป็นพยานหลักฐานชัดเจนมันไม่เสียรูปคดี เช่นมีคลิปแบบผู้กำกับโจ้ นั่นคือเห็นเหตุการณ์ชัดเจน ไม่เสียรูปคดีเพราะไม่มีใครไปแก้ไขเหตุการณ์ในวงจรปิดได้ แต่สาเหตุที่บิ๊กโจ๊กไม่กล้าเปิดเพราะไม่ได้รับความยินยอมจากผู้บังคับบัญชา

แต่ตนขอเสนอแนะว่าบิ๊กโจ๊กควรจะเปิด เพราะถ้าไม่เปิดยิ่งจะทำให้ประชาชนชวนสงสัย เช่นจากการคุยกับประชาชนหรือนักข่าวที่ลงพื้นที่ในการทำข่าวนี้กล้องมีอยู่จริงหรือไม่ , กลัว , ลักไก่หลอกลวงประชาชนหรือไม่ หรือเอาไว้ต่อรองเงิน ต่อรองตำแหน่ง ผลประโยชน์วิ่งเต้นหรือไม่ จึงมองได้หลายแบบ แต่เพื่อความโปร่งใสควรที่จะเปิด เพราะอย่างไรแล้วเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมากกว่า”

ส่วนหลังจากนี้ทิศทางคดีจะทำให้เบาลงไหม หลังขาดมุมกล้องที่สำคัญไป ทนายเดชากล่าวว่าน้ำหนักทางคดีต้องเบาลงอย่างแน่นอน แต่หลักกฏหมายซึ่งตนเองขอให้ความรู้กับพยานในคดีนี้ หากไม่มีกล้องวงจรปิดต้องใช้พยานหลักฐานอื่น เช่นกล้องวงจรปิดตัวอื่น,ประจักษ์พยานพยานแวดล้อม , อาวุธปืน , คราบเลือดซึ่งเป็นพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ นำมาประกอบซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานที่สามารถทดแทนได้

แต่ถ้าหากประจักษ์พยานบุคคลยังอ้างว่า “ไม่เห็น”เช่นมีหนึ่งคนที่เห็นภาพเหตุการณ์ตอนยิง หรือขณะกระทำความผิดมีกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งเห็นชัดเจนว่านั่งอยู่ แต่กลับให้การว่าไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุ อ้างไปเข้าห้องน้ำ จะมีความผิดฐานแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาที่ผิดไปจากความจริง โทษจำคุก 15 ปี

อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองว่าคดีนี้อยู่บนความคาดหวังของประชาชนประชาชน ต่างมองว่ามีตำรวจโจร มีตำรวจสีเทา ร่วมกันกระทำความผิดจำนวนมาก

ฉะนั้นควรทำให้เห็นว่าการสืบสวนสอบสวนโปร่งใส โดยเฉพาะภาพกล้องวงจรปิด ประชาชนต่างอยากรู้ เปิดได้ก็เปิด ยืนยันว่ากล้องวงจรปิดไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ ไม่มีทางเสียรูปคดีตนเองเป็นทนายมา 38 ปี ยืนยันว่าภาพชัดจะเสียรูปคดีได้อย่างไร

“จงอย่าปล่อยให้ประชาชนคิดกันไปเองและมองตำรวจไม่ดี มองว่าตำรวจจะช่วยตำรวจหรือไม่ สุดท้ายแล้วเจอต่อหรือไม่ เพราะอย่าลืมประเด็นที่ประชาชนสงสัยไม่ใช่เรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย แต่เป็นเรื่องส่วยทางหลวง และเรื่องฮั้วประมูลต่างๆที่ทุกคนต่างให้ความสนใจ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่หากมีพยานหลักฐานอะไรสอบสวนเรียบร้อยแล้วก็เปิดเผยเลย เพราะสุดท้ายแล้วคลิปเหล่านี้ก็ต้องเปิดเผยต่อหน้าศาลอยู่ดี” ทนายเดชากล่าว.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส