วันที่ 1 พ.ย. 62 พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พ.ต.อ.อนุรุธ อิ่มอาบ รองผู้บังคับตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พร้อมกำลังตำรวจ สภ.คูเต่า และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ทั้งในและนอกเครื่องแบบ พร้อมกำลังตำรวจชุดปราบจลาจลประมาณ 70 นาย ได้ควบคุมตัว 3 ผู้ต้องหา ทั้ง อส.เพลินชัย สุวรรณรัตน์ อายุ 41 ปี หรือจ่าแรม อส.ประดิษฐ์ จุลนวล อายุ 33 ปี และจ.ส.อ.ทรงวุฒิ บุญรัตน์ อายุ 33 ปี ทหารสังกัดฝ่ายสรรพาวุธ มทบ.42 ที่ก่อเหตุยิงพ่อค้าหัวปลาเสียชีวิตคารถกระบะ ออกจาก สภ.คูเต่า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังจุดเกิดเหตุ บนถนนสายบ้านโหนด-ท่านางหอม หมู่ 2 บ้านโหนด ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีการวางกำลังตำรวจชุดปราบจลาจลปิดหัวปิดท้ายจุดเกิดเหตุระยะห่าง 500 เมตร ห้ามไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ โดยเฉพาะญาติของผู้ตายและชาวบ้าน เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น
โดยการทำแผนมีขึ้น 2 จุด โดยจุดแรกบริเวณริมถนนหน้าร้านค้าที่ทั้ง 3 คน ไปตามหาลูกชาย อส.สำรองคนหนึ่ง ที่ขโมยไซดักปลาของ อส.เพลินชัย และเดินไปภายในซอยที่อยู่ติดกับร้านค้า เพื่อไปสอบถามลูกชาย อส.ที่ขโมยไซดักแต่ไม่พบตัว และมีปากเสียงกันขึ้น และ อส.เพลินชัย ได้ขึ้นลำปืนลูกซอง 1 ครั้ง และเดินออกมาที่ถนน ก่อน อส.เพลินชัย จะใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงขึ้นฟ้า 1 นัด
จุดที่ 2 เป็นจุดที่ก่อเหตุยิงพ่อค้าหัวปลา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 500 เมตร หลังจากที่ขับรถไล่ตามมาและปาดหน้า โดย อส.เพลินชัย เป็นคนใช้อาวุธปืนยิง ส่วน อส.ประดิษฐ์ ลงมาคุมเชิง และ จ.ส.อ.ทรงวุฒิ ขับรถจักรยานยนต์ตามมาทีหลัง ซึ่งการทำแผนทั้งสองจุดนี้ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีเหตุวุ่นวาย แต่ขณะทำแผนทางเจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้ นางมารีย๊ะ เขปัน ภรรยาของผู้ตายเข้ามาสังเกตการณ์การทำแผนเพียงคนเดียว และให้ยืนดูอยู่ห่าง ๆ เพื่อลดกระแสกดดันจากชาวบ้านที่มารอดูการทำแผน
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา บอกว่า จากการสอบสวนอส.ทั้ง 2 นาย รับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุตามภาพที่ปรากฏในกล้องหน้ารถ ส่วนทหารยังปฏิเสธว่าแค่ขับรถผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่มีพยานและหลักฐานชัดเจน จึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีทั้ง 3 คน รวม 3 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาติ ปลอมเอกสารราชการเนื่องจากเครื่องหมายทะเบียนถูกลบ และในส่วนของทหารก็จะส่งดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดสงขลา เพราะทำความผิดร่วมกับพลเรือน โดยผบ.มทบ.42 ห้ดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง
สำหรับคดีนี้จะมีสาเหตุอื่นหรือบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีกหรือไม่นั้นหากผลการสอบสวนสาวไปถึงก็จะดำเนินคดีทุกคน ส่วนเรื่องที่ไปมีเรื่องและยิงปืนข่มขู่อส.สำรองนั้น หากผู้เสียหายเข้าแจ้งความก็จะดำเนินคดีเพิ่มอีก 1 คดีเช่นเดียวกัน สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวไปผลัดฟ้องฟากขังที่ศาลจังหวัดสงขลาผลัดแรก และคัดค้านการประกันตัวเพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์