"สันธนะ"เสนอ"บิ๊กรอย"รับตำแหน่ง ผบ.ตร.ลั่นนายกฯอย่าเลือกเพื่อตอบแทนใคร หากไม่เป็นไปตามนี้จะเกิดทวีคูณความขัดแย้งวงการตำรวจ
ก่อนการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจที่วันนี้มีวาระการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเคลื่อนไหวของนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ที่ได้ทำหนังสือเสนอแนะถึงนายกรัฐมนตรี โดยเสนอให้พลตำรวจเอกรอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่มีอายุราชการอาวุโสอันดับหนึ่ง เป็น ผบ.ตร.
โดยวันนี้ (27ก.ย.66) เวลาประมาณ 10:00 น.นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ทำหนังสือข้อเสนอแนะด่วนที่สุดมายื่นให้กับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เกี่ยวกับ 4 แคนดิเดต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลังทราบว่าการประชุม ก.ตร.วันนี้ เกี่ยวกับวาระการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเอกสารหนังสือที่นำมาเป็นการเสนอแนะการพิจารณาผู้ที่เหมาะสมจะเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะต้องคำนึงถึงความอาวุโสและความรู้ความสามารถ ประกอบกับประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวนและงานป้องกันปราบปราม โดยมี 4 ข้อเสนอดังนี้
1.เห็นควรแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อาวุโสอันดับที่หนึ่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยมีการประเมินผลงานภายใน 6 เดือน ว่าสมควรให้ดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่ หากไม่ผ่านต้องพิจารณาสับเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ทันทีโดยให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.แทน
2.เห็นควรแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติโอนไปรับราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 1 ปี
3.พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อาวุโสลำดับที่สาม ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่อไปเพื่อให้แสดงความรู้ความสามารถในงานสืบสวนสอบสวนหรือป้องกันปราบปราม
4.พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ลำดับอาวุโสลำดับที่ 4 ให้โอนย้ายไปรับราชการเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติและหากท้ายที่สุดพล.ต.อ.รอย ไม่ผ่านการประเมินก็ขอให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแทน
หากไม่เป็นไปตามที่ตนเองกล่าวตนเองมองว่าความขัดแย้งในเกมการเมืองก็จะยิ่งทวีคูณหนักไปมากกว่าเดิม อีกหน่อยการประชุมคณะกรรมการตำรวจก็คงจะต้องพกปืนเข้าห้องประชุมกันทุกคนแล้ว เพราะมันอาจจะเกิดความขัดแย้ง โดยตำรวจยิงกันก็ได้ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็หาคนรับผิดชอบด้วย
โดยการยื่นหนังสือวันนี้นายสันธนะ บอกว่าหากหนังสือเสนอและของตัวเองไม่ได้ ถูกส่งไปอยู่ในห้องประชุมก็วอนให้สังคมช่วยพิจารณา ในฐานะที่ตัวเองเป็นตัวแทนประชาชนแต่งตั้งตัวเองเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีนอกทำเนียบ เพื่อจะยุติปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นขนาดนี้ มองว่าตำแหน่ง ผบ.ตร ไม่ใช่ตำแหน่งที่ใช้ในการตอบแทน ดังนั้นตำรวจที่จะขึ้นเป็น ผบ.ตร.ต้องคำนึงว่าจะต้องรักเกียรติ รักศักดิ์ศรี รักประชาชน อย่ารักแต่ตัวเอง ซึ่งการยื่นหนังสือครั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้มีวาระใดซ่อนเร้นใดๆ
ขณะที่การประชุมวันนี้มีรายงานว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.จะมาเป็นประธานการประชุม ก.ตร.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 13.30 น.
โดยวาระประชุมมีด้วยกันหลายวาระ ซึ่ง 1 ในวาระที่จะมีการเสนอเข้าที่ประชุม ก.ตร.วันนี้แน่นอนแล้ว คือวาระการประชุมเพื่อพิจารณาแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ให้ที่ประชุม ก.ตร.พิจารณา
แต่ทั้งนี้ต้องจับตาดูว่าวาระดังกล่าวนี้จะมีการพิจารณาแต่งตั้งได้หรือไม่ เพราะนายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน ก.ตร.มีอำนาจถอนวาระฯนี้ออกได้ หากที่ประชุม ก.ตร.มีการถกเถียงหรือหารือกันแล้วไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการแต่งตั้งนายตำรวจที่จะมาดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ที่จะขอถอนหรือเลื่อนวาระการประชุมเลือก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกไปก่อนได้
พร้อมกันนี้ยังมีรายงานว่าวันนี้อาจจะมีการเสนอที่ประชุม ก.ตร.เพื่อขอขยายเวลาการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงผู้บังคับการออกไปอีกอย่างน้อย 30 วัน ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ที่มีการขอขยายเวลาในการแต่งตั้งโยกย้ายรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติถึงผู้บังคับการ.
.jpg)
