ศาลเลื่อนนัดตรวจหลักฐาน แอม ไซยาไนด์ กับตำรวจอดีตสามี คดีวางยา ก้อย จนเสียชีวิต ไป 20 พ.ย.นี้ เหตุ ทนายพัช อ้างขอตรวจพยานเอกสารที่มีจำนวนมาก
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลตรวจพยานหลักฐานคดี อ. 2084/2566 ที่พนักงานอัยการ ยื่นฟ้อง น.ส.สรารัตน์ หรือ "แอม ไซยาไนด์" จำเลยที่ 1 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น และอีกหลายฐานความผิด, พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีของ "แอม ไซยาไนด์" จำเลยที่ 2 และ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ หรือทนายพัช ทนายความของ"แอม ไซยาไนด์" จำเลยที่ 3 ในความผิดฐานร่วมกันทำลายหลักฐาน เพื่อช่วยเหลือน.ส.สรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี
หลังเสร็จสิ้นกระบวนการในห้องพิจารณาคดี ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความฝ่ายโจทก์ร่วม กล่าวว่า วันนี้ศาลได้เลื่อนนัดไปตรวจพยานหลักฐานวันที่ 20 พ.ย. 66 เพราะ ทนายพัช ได้คัดค้านหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่กล่าวหาว่าแม่ของก้อยไม่ใช่แม่ตัวจริง เนื่องจากแม่มีการเปลี่ยนชื่อก่อนหน้านี้ แต่แม่ก็มีเอกสารยืนยันได้ทุกอย่าง ซึ่งศาลเชื่อ แต่ทนายพัชไม่เชื่อ นอกจากนี้ ทนายพัชยังคัดค้านเอกสารหลักฐานทั้งหมดว่าฝ่ายโจทก์ยื่นล่าช้า จึงขอเวลาตรวจสอบก่อน
ทั้งนี้จำเลยทั้ง 3 ราย ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิด ซึ่งศาลก็ได้แนะกับทนายพัชว่าทนายความสามารถให้คำปรึกษาลูกความได้ แต่อย่าเกินเลยจนกลายเป็นการยุยงส่งเสริม
อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนได้ดูพยานหลักฐานเบื้องต้น ทราบว่า ฝ่ายโจทก์มีพยานโจทก์รวม 89 ปาก และมีเอกสารหลักฐานอื่นๆ อีกประมาณ 4-5 แฟ้ม ซึ่งหลักฐานมีความละเอียดเรียงลำดับเหตุการณ์ชัดเจนตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ โดยมีหลักฐานทั้งภาพและคลิปชัดเจน รวมไปถึงที่มาของไซยาไนด์ว่ามาจากไหน มีการสั่งซื้ออย่างไรไปจนถึงมือแอมส่วนหลักฐานในส่วนของจำเลยที่ 2-3 ก็มัดแน่นเหมือนกัน
ส่วนหลักฐานฝ่ายจำเลยที่ทนายพัชให้สัมภาษณ์ว่าจะใช้สู้คดี วันนี้ในห้องพิจารณา ทนายพัชไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ต่อศาลแต่อย่างใด ว่ามีหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตนรู้สึกแปลกใจที่ทนายพัชสวมครุยทนายความ เพราะปกติแล้วหากทนายความตกเป็นจำเลย เมื่อมาขึ้นศาลจะต้องไม่สวมครุย
ขณะที่นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีแอมไซยาไนด์ บอกว่า จากที่ได้เปิดดูพยานหลักฐานทั้งหมด ถ้าตนเป็นทนายฝ่ายจำเลย ตนคงหงายท้อง เพราะหลักฐานแน่น 99.9% และเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ค่อนข้างละเอียด หากตนเป็นทนายฝ่ายจำเลย คงถอนตัววิ่งหนีกลับบ้าน เพราะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไม่สามารถโกหกได้ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมยังยืนยันที่จะต่อสู้อยู่
ด้าน นางทองพิณ เกียรติชนะสิริ แม่ของก้อย บอกว่า ที่ได้เจอกันในห้องพิจารณาคดี แอมไม่ได้มาพูดคุยกับตนเลย แต่ตนก็ได้พูดออกไปว่า ขอให้ติดคุกให้ตาย เวรกรรมตามสนอง เพราะมาพรากลูกพรากแม่ ซึ่งแอมก็นั่งเฉย ไม่มองหน้า ทำเหมือนไม่ได้ยิน เหมือนไม่เห็นตน แต่ตนได้พูดไปก็รู้สึกโล่งใจ เพราะอึดอัดมานาน ทั้งนี้ ตนสังเกตว่าแอมมีลักษณะเปลี่ยนไปมาก โดยผอมลงเหลือตัวนิดเดียว.