พ่อเด็กอายุ 14 ที่ก่อเหตุสลดห้าง พารากอน โผล่ร่วม สวดอภิธรรม ศพเหยื่อ ชาวเมียนมา ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวเหยื่อทุกคน ยืนยันไม่ได้ประกันในชั้นศาลเพราะมองว่าลูกต้องรับผิดชอบ ไม่ขอตอบปอมลูกชายซ้อม ยิงปืน ในสนามของทหาร
เมื่อเวลา 19.30 น.คุณพ่อของเด็กชาย 14 ปีที่ก่อเหตุสลดในห้างสยามพารากอนได้เดินทางมายังศาลา 2 วัดผาสุกมณีจักร ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่สวดอภิธรรมศพของ “น้องตะวัน” ผู้เสียชีวิตชาวเมียนมา ทันทีที่มาถึงก็เดินเข้าไปพูดคุยกับนายจ้าง ก่อนจะไปนั่งสวดอภิธรรมศพที่บริเวณเก้าอี้ด้านหน้าศาลาเพียงลำพัง ด้วยท่าทีสีหน้าเศร้า
หลังจากนั้นเมื่อสวดอภิธรรมเสร็จ พ่อได้เดินไปหานายจ้างของ “น้องตะวัน” พร้อมกับยกมือไหว้กล่าวคำขอโทษกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่ลูกชายได้ก่อเหตุไว้ โดยช่วงแรกคุณพ่อได้ถามว่าครอบครัวของ “น้องตะวัน” เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วหรือยัง เพราะอยากขอโทษโดยตรง แต่เมื่อทราบว่ายังมาไม่ถึงก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษนายจ้างของ “น้องตะวัน”
โดยบอกว่าตัวเองเสียใจและอยากขอโทษกับทุกอย่างที่ลูกชายของตัวเองได้ก่อเหตุลงไปและอยากขอโทษผู้เสียชีวิต รวมถึงผู้บาดเจ็บรายอื่นด้วย รวมถึงห้างร้านที่เกิดเหตุ
ส่วนตัวรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ผ่านมาตัวเองและครอบครัวไม่ได้ออกมาชี้แจง จนทำให้เกิดคำถามจากคนในสังคมถึงความรับผิดชอบของครอบครัวผู้ก่อเหตุ
คุณพ่อของเด็กชายผู้ก่อเหตุบอกว่าทางครอบครัวเครียดและอยู่ระหว่างการจัดการเกี่ยวกับคดีความของลูกอยู่ พร้อมกับกล่าวถึงลูกชายที่อยู่ในสถานพินิจด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ บอกว่าตอนนี้ลูกชายก็ได้อยู่ในสถานพินิจ ตอนที่ศาลตัดสิน พ่อเองก็ไม่ได้ประกันตัวลูกชาย เพราะเข้าใจและรู้สึกว่าลูกชายต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้รู้สึกเสียใจมาก อยากจะขอโทษญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอีกครั้ง ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
ซึ่งวันนี้ที่ตนตัดสินใจเดินทางมาที่วัดแห่งนี้ เพื่อต้องการมากราบขอขมาศพ “น้องตะวัน” ด้วยตัวเองและอยากจะขอโทษเจ้าหน้าที่ พยาบาล แพทย์ ตำรวจที่ต้องเข้ามาจัดการดูแลเรื่องต่างๆจากการกระทำของลูกชาย
ตนในฐานะพ่อและตัวแทนของครอบครัว ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็อยากมีส่วนรับผิดชอบความเสียหาย ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผมรัก” โดยขณะที่นายจ้างของ “น้องตะวัน” ยืนฟัง ก็ถึงกับน้ำตาใหลไปด้วย
ส่วนเรื่องกระบวนการทางกฎหมาย ตนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายดำเนินการต่อไป ส่วนตัวไม่สามารถตอบรายละเอียดเกี่ยวกับคดีความได้
และเมื่อทีมข่าวถามถึงกระแสสังคมเกี่ยวกับเรื่องที่เด็กชายอายุ 14 หรือลูกชายเข้าไปซ้อมยิงปืนในสนามยิงปืนของทหาร ที่มีรายงานออกมาว่าครอบครัวรู้เห็นนั้น คุณพ่อบอกว่าขอตอบในชั้นศาลดีกว่า เพราะถ้าตอบตอนนี้ก็เหมือนเป็นการแก้ตัว ก่อนจะขออนุญาตเข้าไปกราบขอขมาศพใน
แต่ระหว่างนั้นมีเพื่อนร่วมงานของ “น้องตะวัน” ตะโกนบอกกับพ่อของเด็กอายุ 14 ปีว่า “พ่อควรจะออกมาเร็วกว่านี้” แต่พ่อไม่ได้ตอบอะไร
หลังจากขอขมาศพเสร็จ พ่อของก็ออกมาคุยกับนายจ้างของ “น้องตะวัน” อีกรอบ เพราะเจ้าตัวตั้งใจอยากจะอยู่รอพบคุณแม่ของ “น้องตะวัน” เพื่อกราบขอโทษและขอขมาด้วยตัวเอง แต่เมื่อทราบว่าคืนนี้แม่ของ “น้องตะวัน” ไม่สามารถเดินทางมางานศพทัน พ่อจึงขอตัวกลับทันที พร้อมกับยกมือไหว้ ไม่ขอตอบคำถามสื่อเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีความ.