สาวรอดตายเล่านาทีชีวิต ต้องซ่อนตัวในซากศพ ใช้เลือดทาตัวแกล้งตายถึงรอดมาได้
10 ต.ค.2566 สาวแชร์เรื่องราวนาทีชีวิตรอดตาย จากเหตุร้ายในเทศกาลดนตรีอิสราเอล หลังจากกลุ่มติดอาวุธ "ฮามาส" บุกก่อเหตุกราดยิง และจับตัวประกันหลายคน โดยที่เธอรอดมาได้นั้นเพราะเธอได้เอาเลือดจากศพมาทาตัว และแกล้งตายนานกว่า 3 ชม. ก่อนที่กองกำลังของอิสราเอลจะเข้ามาให้การช่วยเหลือ แต่เพื่อนสนิทของเธอไม่รอด ถูกกลุ่มฮามาสฆ่าตาย
เจ้าของไอจีชื่อ may_hayat คือคนที่รอดชีวิตจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายฮามาส โดยเธอเล่าว่า เธอและเพื่อนสนิทชื่อ Liron ได้ไปทำงานที่งานปาร์ตี้ Nova ภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่แล้วค่ำคืนที่แสนสนุกก็จบลง แทนที่ด้วยเช้าที่โกลาหลและจำไปจนวันตาย
เธอได้ยินเสียงการโจมตีจากด้านนอก และเพื่อนโทรมาบอกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ ที่ขับรถหนีออกไปถูกยิง ทำให้เธอตกใจและรีบวิ่งไปหาตำรวจที่ใกล้ที่สุดเพื่อขอความช่วยเหลือ ตำรวจให้พวกเธอเข้าไปหลบในศูนย์บัญชาการ ผู้คนที่เข้าไปหลบซ่อนอยู่ต่างตกใจ ร้องไห้หวาดกลัว พวกเธอนั่งลงที่พื้นและช่วยเหลือปลอบคนที่แพนิก และช่วยทำแผลคนที่ได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นไม่นาน มีเสียงปืนดังเข้ามาใกล้ที่ๆ พวกเธอหลบซ่อนอยู่เรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถืออาวุธอยู่หน้าประตูมองหน้ากันด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะตะโกนให้พวกเธอวิ่งหนีไป ก่อนถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายยิงถล่ม ผู้คนที่หลบซ่อนต่างวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต ทว่าโชคร้ายที่ Liron เพื่อนของเธอไม่ได้หนีออกมาด้วย
The accounts coming out from the music festival are horrific. They need to be shared. The world needs to know the evil that innocent people faced this weekend.
— AG (@AGHamilton29) October 9, 2023
Here is one account from one of the survivors May Hayat (part 1/2):
So I went to work with my girlfriend Liron at… pic.twitter.com/fxmzdXxohk
เธอและเพื่อนๆ วิ่งหนีอย่างสุดกำลัง และไปหลบซ่อนอยู่ที่หลังรถกู้ภัย ขณะที่กระสุนปืนมาจากทุกทิศทาง มีผู้ชายตะโกนเรียกให้ไปอีกทางบอกว่าปลอดภัยกว่า เธอจึงวิ่งไปหาเขา แต่ไม่มีคนอื่นไปกับเธอ ทำให้ต้องวิ่งหนีไปด้วยกัน แล้วมาเจอรถผู้ร่วมงานที่กำลังหนีเหมือนกัน ทันทีที่รถออก ผู้ก่อการร้ายยิงใส่รถไม่ว่าจะขับหนีไปทางไหนก็ไม่พ้น ในที่สุดล้อรถก็ติดหล่มทราย เมื่อลงจากรถพบว่าคนขับหายไปแล้ว
เธอเจอหลุมหลบภัยจึงได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ และเอาทรายมาถมแกล้งตาย ต่อจากนั้น 1 ชั่วโมง เธอได้ยินเสียงฝีเท้าของกลุ่มก่อการร้ายเดินเข้ามาใกล้ๆ ในที่สุดเธอและเพื่อนในหลุมถูกจับได้ และคิดว่าตัวเองไม่รอดแน่ๆ พวกก่อการร้ายได้ส่งสัญญาณวิทยุว่า “พบเจอตัวประกันอีก 2 คน” ผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งเริ่มพูดคุยกับเธอ แต่เธอบอกกับมันว่าไม่เข้าใจ เธอพยายามมีสติ ไม่ตะโกนหรือแสดงความรู้สึกใดๆ แต่แปลกที่ผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งได้เอาแจ็คเก็ตมาคลุมให้เธอ
เธอสังเกตเห็นว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายทั้ง 8 คน มองหาของบนพื้นอย่างบุหรี่ ขวดเครื่องดื่มไปด้วย เธอจึงแกล้งทำเป็นช่วยพวกเขา ให้อีกฝ่ายตายใจว่าเธอไม่ได้ต่อต้าน ขณะที่เพื่อนร่วมชะตากรรมกลับสติแตกส่งเสียงร้องไห้ดัง เธอพยายามเตือนแต่ชายคนที่ถูกจับกลับสติแตกยิ่งกว่าเดิมร้องไห้เสียงดัง ผู้ก่อการร้ายจัดการสังหารชายคนดังกล่าวทันที ต่อหน้าของเธอ
Part 2/2:
— AG (@AGHamilton29) October 9, 2023
The guy who was with me didn’t stop crying and begging for his life. I tried to explain to him that he needs to stop crying, “It annoys them, stop crying and everything will be fine.” They had knives and hammers. I realized we were in danger.
At first he listened to…
เธอถูกตีหัวและใช้มีดข่มขู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเดินไปถึงรถคันหนึ่ง แต่จู่ ๆ รถกลับสตาร์ทไม่ติด ทำให้คนที่ใช้มีดขู่เธอหันมาพูดกับเธอว่า ถ้าหนีฉันจะฆ่าเธอ ผู้ก่อการร้ายคนที่ให้เสื้อเธอในตอนแรก ลากเธอมาบนทางเดินและบอกให้เธอหนีไป เมื่อเธอสังเกตว่าไม่มีปืนจ่อมาที่เธอ เธอจึงวิ่งหนีสุดกำลัง
เธอวิ่งหนีไปที่งานดนตรี และตัดสินใจหลบซ่อนอยู่ในซากศพคนตาย โดยใช้เลือดของคนตายทาไปทั่วร่างและหลบซ่อนอยู่อย่างนั้นโดยไม่รู้ว่าจะรอดออกไปได้ไหม เพราะกลุ่มก่อการร้ายได้กลับมาสำรวจที่งานดนตรี ทั้งขีปนาวุธที่ถูกยิงอยู่เหนือหัวเธอ เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง เธอได้ยินเสียงคนพูดเป็นภาษาฮีบรู ซึ่งเป็นภาษาที่ชาวอิสราเอลใช้ เธอจึงตะโกนขอความช่วยเหลือ และกองกำลังของอิสราเอลได้เข้ามาให้การช่วยเหลือเธอ