"รมช.ไชยา" ฟันธงอดีตข้าราชการเอี่ยวเนื้อเถื่อน ตรวจยึดกว่าหนึ่งพันตัน

"รมช.ไชยา" ฟันธงอดีตข้าราชการเอี่ยวเนื้อเถื่อน ตรวจยึดกว่าหนึ่งพันตันทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการขนเนื้อสัตว์เถื่อนข้ามมายังพรมแดนประเทศไทย ขณะลงพื้นที่ตรวจราชการในจังหวัดบุรีรัมย์ ว่า ปัจจุบันได้รายงานความคืบหน้า ขยายผลการทำงานทั่วประเทศ แต่พื้นที่ตรวจสอบ จังหวัดสมุทรสาคร เป็นส่วนที่กรมประมงได้เข้าตรวจสอบ และพบเนื้อสัตว์เถื่อน (เนื้อโค เนื้อควาย เนื้อหมู เนื้อไก่) ที่มาจากประเทศอินเดียจำนวนเกือบ 1,000 ตัน จึงต้องให้กรมปศุสัตว์สนธิกำลังเข้าตรวจสอบ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) ที่ให้กำจัดสินค้าเกษตรเถื่อน เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจทางการค้ากลับเป็นปกติ

"ผมกล้าพูดว่า ต้องมีข้าราชการ หรือนักการเมืองเกี่ยวข้องในการนำเนื้อเถื่อนเข้าประเทศแน่นอน ไม่มีทางที่ผู้ประกอบการระดับท้องถิ่นจะทำเองฝ่ายเดียว และเมื่อได้เบาะแส ต้องมีการเช็คหลายพื้นที่ เพราะมีซากเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจำนวนมาก หากนำออกจำหน่ายสู่ตลาด นอกจากทำให้กลไกราคาในประเทศเสียหายแล้ว ยังอาจก่อโรคให้กับผู้ที่บริโภคด้วย ซึ่งมั่นใจว่าสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ทั้งหมด ว่ามีการนำเข้าอย่างไร ทุกอย่างต้องผ่านด่านตรวจสอบตามเขตชายแดน หรือการชั่งน้ำหนักแน่นอน ถึงแม้กรมปศุสัตว์จะไม่มีอำนาจสืบสวน แต่ DSI สคบ.ผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ จะต้องติดตามเรื่องนี้เพื่อให้ได้คำตอบที่แน่ชัด และการทำงานจะระมัดระวังมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่จังหวัดเพชรบูรณ์"

ในปัจจุบันผู้ประกอบการห้องเย็น ยังไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา แต่ต้องแสดงหลักฐานให้ได้ว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด หากไม่สามารถหาหลักฐานได้เจ้าของห้องเย็นจะมีความผิด ในส่วนการทำลายเนื้อหมูที่จังหวัดชลบุรี มี 161 ตู้ มีการทำลายไปแล้ว 21 ตู้ และเหลืออีก 140 ตู้ หากไม่สามารถหาพื้นที่ฝังกลบได้ ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์เตรียมแผนสองไว้รองรับเพื่อการทำลาย เพราะฉะนั้นตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องหมูที่ไม่หมู ต่อกระบวนการต่างๆที่เกิดขึ้น แต่ตนยืนยันว่าจะดำเนินการตรวจค้นสินค้าเนื้อเถื่อน หากพบผู้กระทำความผิด จะดำเนินการตามกฏหมายต่อไป