"กวาง เอบี นอร์มอล" เปิดใจสาเหตุเลิก "น้ำหวาน" ไม่เคยอยู่ด้วยกัน 2 คน ช้ำต้องขายเรือนหอ

กวาง เอบี นอร์มอล เปิดใจที่แรก จุดระเบิดเลิก น้ำหวาน ซาซ่า ไม่เคยอยู่ด้วยกัน 2 คน ช้ำแทบร่วงต้องขายเรือนหอ

 
“กวาง เอบี นอร์มอล” เปิดใจครั้งแรก หลังสาเหตุเลิก “น้ำหวาน ซาซ่า” พร้อมประกาศขายเรือนหอ 16 ล้าน เผยหมดเปลือกสาเหตุเกิดจากแม่ฝ่ายหญิงจริงหรือไม่ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow 

 
สภาพจิตใจ?
“กวางกับหวานไม่ได้เกลียดกัน ทะเลาะกัน ก็ยังได้คุยกันอยู่ ถามสารทุกข์สุขดิบ ยังเป็นห่วงเป็นใยอยู่ เหมือนจะปกติ หลังเลิกก็ยังคุยกับเขาอยู่เรื่อยๆ ยังเป็นห่วงเป็นใยเขา ส่วนตัวกวางเองสภาพเป็นยังไง กวางไม่ใช่คนร้องไห้ฟูมฟายอยู่แล้ว ของกวางจะออกมาในรูปของร่างกายหมือนไม่มีแรง กลับบ้านนั่งดูหนังแป๊บเดียวหลับเลย หลับบนโซฟา สมองอ๊องๆ ช้าๆ นิดนึง”
 
อยู่ดีๆ บอกเลิก ง่ายอย่างนั้นเลยเหรอ?
“ไม่ง่ายครับ ครั้งนี้ไม่ใช่มีเรื่องตู้มเราเลิกกันดีกว่า มันเป็นปัญหาสะสมมานานมากๆ แล้ว แต่จุดแตกหักมันเป็นลูกระเบิดที่ซ่อนอยู่มันระเบิดออกมา”
 
เคยคุยมั้ยว่าไม่สามารถไปด้วยกันได้ เคยคุยเรื่องเลิกมั้ย?
“มีแต่ทะเลาะกัน แล้วลั่นพูดอารมณ์แฟนงอนกัน ไม่ได้จริงจัง แต่ว่าระหว่างทางเหมือนมีปัญหาแรกๆ ที่เรามองไม่เห็นว่าไอ้ก้อนเล็กๆ นี้จะงอกมาเป็นปัญหาใหญ่ได้ มีอยู่แล้วมาเรื่อยๆ เคยคุยกัน ทะเลาะกัน พยายามแก้กันเรื่องไอ้ก้อนนี้มานานมากๆ แล้ว เพราะปัญหาทั้งหมดส่วนใหญ่ๆ ก็ลงมาสู่รากก้อนเล็กๆ นี่แหละ”

 
สาเหตุเลิกกันจริงๆ คืออะไร?
“ถ้าสรุปสาเหตุเลย คือเข้ากับทางครอบครัวไม่ได้ แต่กวางต้องอธิบายก่อน วันนี้ไม่ได้จะมาต่อว่าใคร ไม่ได้จะบอกว่าตัวเองถูก ฝั่งโน้นผิด ความคิดทางโน้นไม่ใช่ความคิดที่ผิด เพียงแต่เป็นความคิดที่ฝั่งกวางไม่เห็นด้วย ไม่เข้าใจ ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกันจะเรียกอย่างนั้นก็ได้ เหมือนหุ้นส่วนบริษัทที่คุยกันแล้วไม่ลงตัว ก็แยกกัน”
 
เคยคิดมั้ยว่าแต่งแล้วเขาจะซอฟต์ลง?
“หวานคิดตลอด แต่กวางไม่คิดครับ มันเลยเป็นสิ่งที่เถียงกันมาโดยตลอด หวานคิดว่าแบบนั้นคือทางออก แต่กวางไม่คิดว่าการแต่งงานจะแก้ปัญหานี้ได้”
 
ต้องเจออะไรที่หนักมากในฝั่งกวาง จนรู้สึกว่าอยู่คนเดียวก็ได้?
“แยกดีกว่า ใช่ครับ ถามว่าหนักขนาดไหน เคยเจอปัญหาที่มันแก้ไม่ได้มั้ยครับ มันไม่เห็นทางแก้มันเลย ซึ่งมันผ่านการพยายามแก้มาแล้วนะครับ ต่างฝ่ายต่างพยายามแล้ว กวางถึงบอกว่าการเลิกครั้งนี้ไม่ใช่อารมณ์ปุบปับ เลิกไปเลย มันผ่านการพยายามแก้มาหลายรอบ ไม่ใช่รอบเดียว พยายามคุยดีๆ คุยทะเลาะ หลายวิธีมากแล้ว มันดูไม่มีวี่แววจะดีขึ้น”
 
อีกฝั่งก็ไม่เปลี่ยน?
“ก็มีบางเรื่องเปลี่ยนไม่ได้ บางเรื่องเปลี่ยนได้”
 
กวางพยายามเปลี่ยนมั้ย?
“กวางพยายามครับ กวางเพิ่งคุยกับเพื่อนๆ ไม่นาน เวลาเลิกกันเพื่อนจะรีบมาบ้าน เขาพูดมาคำนึงว่ามึงแหกกฎชีวิตมึงไปเยอะมาก กวางจะมีกฎในชีวิตหลายอย่างเหมือนกัน เช่น กับแฟนกวางจะไม่ทำธุรกิจเด็ดขาด อันนี้ก็ทำ กับแฟนจะไม่ซื้อหมาด้วยกันเด็ดขาด อันนี้ก็ทำ ยอมในเรื่องบางอย่างที่กวางชอบทำ ยอมไม่ทำก็ได้ แหกกฎไปหลายอย่าง เราก็พยายามแก้ฝั่งเรานะ เราไม่ได้หัวรั้นขนาดนั้น กวางโตกว่าเมื่อก่อน ถ้าเมื่อก่อนอาจไม่ยอม แต่ตอนนี้ยอมไปเยอะ”
 
เรื่องที่มีปัญหากับครอบครัว อะไรพอเล่าได้บ้าง?
“เป็นเรื่องหลักเลย กวางก็แหกกฎตัวเองเหมือนกัน กวางเล่าเป็นไกด์ไลน์ หรือตัวอย่าง ประสบการณ์ให้ฟังกับคนอื่นๆ แล้วกัน ไม่ได้มาต่อว่าใคร คือการไปไหนมาไหนด้วยกัน 3 คนบ่อยๆ คือแม่หวาน หวาน กวาง ซึ่งเยอะครับ”

 
อย่างเราจะไปเดตกัน แต่แม่มาด้วย ทุกมื้อเหรอ?
“ไม่ถึงขนาดทุกมื้อ แต่บ่อย จะว่าเขาผิดก็ไม่ได้ผิด แต่เป็นปัญหาตั้งแต่แรกๆ ซึ่งเราทั้งคู่เมเมทไม่ดีเอง ทำให้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว”
 
แล้วปัญหาเกิดขึ้นตอนไหน?
“สามคนไม่ใช่เรื่องกินข้าวหรือเรื่องอะไร แต่พอรีเลชั่นชิฟเป็น 3 คน ห้องมันแคบไป สำหรับเวลาเรามีปัญหา เราต้องการแยกไปคนละมุมห้อง แต่กลายเป็นห้องมันแน่นไปหมด”
 
สมมติสามคนไป มีปัญหากันทะเลาะกัน แทนที่จะจบเองได้ง่าย มันไม่ง่ายหรือเปล่า?
“ถึงแม้บางทีเขาไม่ได้เข้ามาในอินเตอร์วีดเราในเรื่องนั้นๆ แต่ความอึดอัด ความสบายใจที่เราจะงัดกันสองคน บางทีก็ไม่สามารถปล่อยออกมาได้เต็มที่”
 
เป็นนานเท่าไหร่ จนถึงวันนี้?
“ประมาณ 5 ปี ทุกปัญหาเคยได้รับความพยายามแก้แล้ว เคยเข้าไปคุยกับแม่ตรงๆ แล้ว บางเรื่องเขาก็เบาให้ เขาบอกเดี๋ยวไปเจอกันน้อยลงก็ได้ แต่ก็มีบางเรื่องที่ฝั่งเขายังไม่โอเค ซึ่งกวางก็โอเคที่เขาจะไม่โอเค เพราะกวางก็เข้าใจว่าความคิดเขาไม่ได้ผิด เพียงแต่เป็นความคิดที่เราไม่เห็นด้วยเท่านั้นเอง”
 
แม่เขามีลูกคนเดียวเลยหวง?
“กวางถึงเข้าใจว่าฝั่งเขาไม่ได้ผิดเลยที่คิดแบบนี้”
 
บางทีเราต้องการพื้นที่ส่วนตัวบ้าง  5 ปีเลยเหรอ?
“ใช่ครับ
 
หวานเป็นยังไง?
“เขาเป็นคนแคร์คนอื่นมากๆ ยอมอุทิศชีวิตแทนคนอื่นได้เลยเขาก็ใช้วิธีคอมโปรไมซ์เอา พอมีปัญหาจริงๆ กวางก็ไปคุยกับเขาตรงหน้าเลย ก็เป็นแบบนี้ ฝ่ายหนึ่งเบา ฝ่ายหนึ่งหนัก ปึ๊บๆ ไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายเรื่องมันก็เกินจะคอมโปรไมซ์ได้”

 
สุดท้ายถึงจุดแตกหัก คนขอเลิกคือ?
“หวานครับ แต่เรื่องใครพูดก่อนไม่ได้มีส่วนสำคัญในเรื่องนี้ จริงๆ ทั้งสองคนพลังจิตสื่อสารกันแล้วว่ามันคือใช่แหละ มันคือเลิก แต่ใครพูดก่อนไม่ได้มีส่วนสำคัญในเรื่องนี้เลย”
 
ถึงจุดมองตาแล้วเลิกดีกว่า?
“ใช่ครับ มันแก้ไม่ได้จริงๆ และไม่มีวี่แววว่าจะแก้ด้วย กวางไม่ต้องการให้คนๆ นึงต้องมาเลิกระหว่างครอบครัวกับแฟน กวางว่ามันเป็นวิธีที่เลวมากที่เราจะเป็นอย่างนั้น”
 
กวางโอเคมั้ย?
“ก็ไม่ได้รู้สึกดีครับ แต่กวางไม่ได้ล้ม ไม่ไหว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีที่เกิดขึ้นในชีวิต”
 
สู้มาตลอด อะไรทำให้ถึงจุดที่โอเค พอก็พอ?
“เห็นตรงกันเลยว่ามันแก้ไม่ได้จริงๆ นั่งคุยกัน จุดที่เกิดเหตุคืออยู่บนเรือ นั่งคุยกันอยู่ข้างๆ กัน มันแก้ไม่ได้จริงๆ แล้วยิ่งนับวันมันยิ่งถี่ขึ้น ยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยเห็นตรงกันจริงๆ ว่าไม่ไหวแล้ว”
 
การบอกเลิกเกิดขึ้นบนเรือ ที่กวางและน้ำหวานลงเรือเพื่อสอนดำน้ำ?
“เรื่องทำให้ระเบิดมันเล็กมากๆ เรื่องไม่มีสาระใดๆ ทั้งสิ้น แต่มันระเบิดเพราะรีแอ็กชั่นหลังจากนั้นมากกว่า ที่มีการโพสต์ว่ากัน หวานมาบังคับให้กวางขอโทษ คือทุกอย่างเป็นแค่จุดเล็กๆ ที่เป็นตัวจุดไฟให้ระเบิดขึ้นมา จริงๆ วันนั้นไม่มีเหตุการณ์อะไรร้ายแรง ถ้าวันปกติก็คงทะเลาะกันแล้วลงไปดำน้ำด้วยกัน”
 
ระหว่างเคลียร์ คิดมั้ยน้ำหวานจะพูดคำว่าเลิก?
“คิดครับ เพราะเรื่องนี้มองหน้ากันก็รู้สึก..”
 
ในในคิดว่าถ้าเปิดเราก็เลิก?
“ไม่ได้คิดแบบนั้น แต่คิดว่าหวานเขาก็ตันเหมือนกัน หวานเขาดูหน้าตาไม่ไหวเหมือนกัน มันตันมากๆ”
 
มองหน้าแล้วรู้สึกเหนื่อยล้ากับเรื่องนี้มานานมากแล้ว?
“ใช่ครับ กวางถึงไม่ได้รู้สึกว่าใครเป็นคนบอกเลิกก่อนแล้วคนนั้นผิด”

 
ดำน้ำมี 5 วัน เลิกกันวันที่ 2 แล้วอีก 3 วันมองหน้ากันยังไง?
“คุยกันถึงวันที่ 3 มีเรื่องวันที่ 2 ครับ วันที่ 3 ไม่ได้คิดว่าจะดีขึ้น ไม่ได้คิดเรื่องจบ แต่กับที่ทะเลาะกับคุณแม่ดูไม่มีวี่แววจะจบ คืนวันที่ 3 ถึงเป็นวันที่เป็นจุดแตกหัก วันที่ 4-5 ไม่ได้คุยกัน”
 
ยื้อมั้ย?
“ไม่ได้ยื้ออย่างนั้นแล้วครับ ทั้งคู่รู้ตัวจริงๆ ว่าเราทั้งคู่ไม่ไหว”
 
ดำน้ำ 5 วัน วันที่ 2 มีเรื่องแล้วบอกเลิกกัน วันที่ 3 ก็คุยกันปกติ?
“ไม่ปกติครับ หวานพยายามให้สองคนไกล่เกลี่ย เป็นตัวกลาง เรื่องนี้หวานน่าสงสาร พยายามเป็นตัวกลาง วิ่งขึ้นลงเรือชั้นสองชั้นสาม กวางอยู่ชั้นสอง แม่อยู่ชั้นสาม คุยๆ แล้วเคลียร์กันไม่ได้สักที สงสารเขามากๆ หน้าตาเขาพร้อมระเบิดทุกนาทีแล้ว”
 
โพสต์น้ำหวานที่ออกมาประกาศ เป็นการโพสต์โดยที่ไม่ได้บอกกันก่อนว่าจะโพสต์?
“ไม่ได้โกรธเขาเรื่องนั้น พอเลิกกันก็ยังมีอารมณ์ กรุ่นๆ กันเบาๆ วันที่กลับมากรุงเทพฯ แยกย้ายกัน บังเอิ๊ญมีข่าวคู่รักดาราเลิกกันเพราะนักศึกษา ในคอมเมนต์ก็เป็นกวางพรึ่บเลย วันชนกันพอดี หวานก็แคปข่าวนี้มา เขาก็กึ่งๆ โจมตีนิดๆ สไตล์เขา (หัวเราะ) เขาเข้าใจว่าที่เลิกกับเขาง่ายเพราะเรื่องนี้ใช่มั้ย”
 
เขาคิดว่าเรามีนักศึกษา?
“ก็เลยโกรธ และเป็นเรื่องที่ทะเลาะกับหวาน”
 
มีนักศึกษามั้ย?
“ไม่มีจริงๆ ล้านเปอร์เซ็นต์ รอบนี้ไม่มีมือที่สามใดๆ มาเกี่ยวข้องเลย”
 
แต่กลายเป็นเรื่องซวยซ้ำซ้อน?
“อันนี้กวางเข้าใจว่าทำไมหวานถึงทำแบบนั้น เพราะหวานเขาอยู่ในสภาวะที่พังมากๆ ฟีลเตอร์ไม่มีแล้ว พังทุกอย่าง ยิงใส่เขา เขาระเบิดตู้มๆ แหลกเลย คงเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ก็เลยไลน์มาหาตอนกลางคืนเรื่องนี้ เขาก็บอกว่าถ้ากวางไม่มีจริงๆ ก็โพสต์เคลียร์สิ กวางก็เลยโพสต์ออกไปแบบนั้นว่ามันเป็นเรื่องอะไร”
 
นักศึกษาไม่มี?
“ไม่มีครับ (หัวเราะ)”
 
พอกวางโพสต์ตามที่เห็น ไม่มีเรื่องมือที่สาม แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับครอบครัวจริงๆ น้ำหวานได้มีฟีดแบ็กกับเรื่องนี้มั้ย?
“หลังจากนั้นแป๊บเดียวเอง หวานได้มีโอกาสออกรายการแฉ เพราะเขาล็อกคิวกันอยู่แล้ว เขาก็เลยพูด เขาบอกให้กวางรอฟังด้วยนะ เขาก็ขอโทษในสิ่งที่ผิดพลาดกัน ขอโทษไปถึงคุณพ่อคุณแม่กวางด้วย ก็อย่างที่บอกสงสารเขามากๆ”

 
ฟังเหมือนรักเขาอยู่?
“รักมันรักอยู่แล้ว เราไม่ได้เกลียดกัน แต่รู้ตัวว่ามันไม่สามารถเป็นอย่างนั้นได้จริง”
 
ถ้าครอบครัวน้ำหวานเปลี่ยนไป มีโอกาสกลับมามั้ย?
“ณ วันนี้บอกไม่ได้จริงๆ ณ วันนี้ไม่เห็นภาพ”
 
รักกันอยู่แต่ไปต่อไม่ได้แล้ว?
“ไม่ได้จริงๆ”
 
คนอ่านข่าวอย่างแรกเลยด่ากวางก่อนเลย แต่จริงๆ มันยากกว่ากวางแอบไปมีใคร หรือน้ำหวานมีใคร เพราะนี่คือเรื่องครอบครัว คือพ่อแม่ ถ้าเราเข้ากับเขาไม่ได้ มันไปต่อไม่ได้?
“ไม่ได้จริงๆ เป็นประสบการณ์แรกของกวางเหมือนกัน ไม่เคยเจอปัญหานี้เหมือนกัน ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่เหมือนกัน”
 
มีอะไรจะทำให้เปลี่ยนความรู้สึกมั้ย ถ้าแม่เดินมาจับมือว่ากวาง แม่ขอโทษ จากนี้ไปจะดีขึ้น?
“บอกไม่ถูกเหมือนกันครับ ไม่คิดว่าอะไรจะเปลี่ยนไปในทางนั้น”
 
ถ้าเขารักลูก?
“ก็เป็นเรื่องในอนาคตครับ”
 
รักแต่ไปต่อไม่ได้ เพราะสถานการณ์บังคับ หลังจากนั้นโดนถล่มยับเลย?
“ชาวเน็ตถล่มโอเคมากๆ มันเป็นความคิดของเขา กวางแคร์คนรอบๆ มากกว่าว่าเขาคิดกับเรายังไง เห็นเรื่องนี้เป็นยังไง ก็แล้วแต่ ถามว่าโดนเยอะมั้ย ไม่ค่อยนะ สำหรับกวาง เคยโดนหนักกว่านี้ (หัวเราะ) รอบนี้ไม่ค่อยเท่าไหร่”
 
ติดใจคอมเมนต์เมนต์ไหน?
“ส่วนใหญ่คอมเมนต์เป็นลบ เพราะเขาไม่เข้าใจเรื่องราวว่าเราเจออะไรมากกว่า ก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไรเขา”
 
เขาบอกว่าเรื่องที่มาถึงตรงนี้ เป็นเพราะไม่ได้แต่งงานจริงจังซะที?
“เอาจริงๆ พอจะมีส่วน หลายเรื่องที่มันเคลียร์ไม่ได้ เพราะหวานเขาคิดว่าการแต่งงานจะเป็นทางออกของปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่กวางไม่คิดอย่างนั้น ไม่เห็นด้วยว่าแต่งงานแล้วมันจะจบ”
 

เคยจับมือเคลียร์จริงจังสามคนถึงปัญหา?
“เคยครับ มากกว่า 1 ครั้ง ถึงบอกว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่มีปัญหา”
 
ภาพที่ใส่ชุดไทย?
“อันนั้นเหมือนงานไปหาพระ ทำบุญ ประมาณนั้น แต่บังเอิญของกวางมีสปอนเซอร์ที่เป็นร้านชุดแต่งงาน เขาเลยชุดเต็มมาก แต่จริงๆ ตามแพลน หลังจากวันนั้นอีกเดือนนึงหรือสองเดือนจัดงานแต่ง แต่โควิดเข้า พอโควิดเข้า เราก็คาดว่าเวลาเกิดเรื่องอะไรกระทบวงการเพลงหรือวงการบันเทิง เจอหนักสุดก็ครึ่งปี ก็เดี๋ยวว่ากันก็ได้ แต่ปรากฏว่าลากยาว 3 ปี ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในช่วงชีวิตกวางมาก่อน แล้วโหดมาก จากที่เคยแพลนไว้ มันก็ทำไม่ได้จริงๆ เราเริ่มสร้างภาระก่อนโควิดจะมาแล้ว ทั้งเรื่องบ้าน รถ คนงาน เด็กในวงสารพัดเลย กลายเป็นแผนการด้านการเงินพังพินาศ เพี้ยนหมด”
 
ตอนนั้นคุยกันมั้ย จะจัดงานเมื่อไหร่?
“กวางกับหวานเข้าใจมาก ทั้งคู่เข้าใจว่ามันไม่สามารถจริงๆ ว่าจะมาจัดงานเลี้ยงใครในตอนนี้ด้วยสภาพการเงินเศรษฐกิจไม่คล่องแบบนี้ ก็เข้าใจดีว่าเป็นไปไม่ได้ ก็มีการคุยกับบ้านหวานด้วยเหมือนกัน บ้านเขาก็เข้าใจ ไม่ได้เร่งรัดใดๆ ทั้งสิ้น บ้านกวางก็ให้กวางเป็นคนตัดสินใจ”
 
ตอนนั้นเคลียร์กันสองคนหรือสามคน?
“เคลียร์กันสามคน”
 
ผลต่อยอดเคลียร์สามคนเป็นยังไง?
“แล้วแต่เรื่องครับ บางเรื่องก็จบ บางเรื่องก็ไม่จบ”
 
ซื้อเรือนหอแล้ว?
“ซื้อบ้าน แล้วที่อยู่ทุกวันนี้ เกือบ 20 ล้าน”
 
ทำไมขาย?
“ไม่มีเหตุผลต้องอยู่กับภาระนี้แล้ว”

ไม่เผื่ออนาคต?
“ไปสตาร์ทใหม่ดีกว่า ไปทำอย่างอื่นให้สบายใจก่อนดีกว่า เรือนหอซื้อก่อนโควิดจะเข้า”
 
ค่าใช้จ่ายยังไง?
“อันนี้แหละถึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงจัดงานแต่งไม่ได้ กวางเพิ่งลองมาคำนวณดูว่ากวางใช้เงินไปเท่าไหร่ตอนรายได้เป็นศูนย์ 7-8 ล้านกว่า จ่ายบ้าน จ่ายรถ ยังงงว่ารอดมาได้ยังไง ก็รอดมาถึงทุกวันนี้ ก็ถึงเวลาไม่เอาภาระนี้แล้ว”
 
เสียดายมั้ย?
“เสียดาย รู้สึกแปลกมากที่ต้องเปิดบ้านให้คนมาดู แล้วพรีเซ็นต์บ้านตรงโน้นตรงนี้ มันเหมือนหมดแรงมาก แม้แค่ 20 นาทีคนเดินรอบบ้าน พอคนดูเสร็จ สวัสดีครับ ร่วงทุกที ไม่รู้เป็นไร”

 
ทำไมไม่ให้ทีมงานทำ?
“ถ้าช่วงนี้อยู่บ้านก็เป็นคนพาเดินเอง เพราะส่วนใหญ่คนติดต่อมา ก็อยากให้เราเป็นคนพาเดิน บางทีกวางก็บอกนะว่าถ้าไม่อยู่ก็ให้แม่บ้านหรือผู้ช่วยพาเดินนะ แต่เขาขอเป็นวันที่กวางอยู่”
 
บ้านที่เป็นเรือนหอ ก่อนเลิกกัน คุณทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกัน?
“ไม่เคยอยู่ด้วยกันครับ”
 
ก่อนหน้านี้อยู่ด้วยกันที่ไหน?
“ไม่เคยอยู่ด้วยกัน เรื่องแต่งงานไม่คอมพลีท ก็เลยแยกบ้านกันอยู่ บ้านกวางกับหวาน ห่างกันแค่ 10 นาที มาเจอกันทุกวัน แต่ไม่เคยอยู่ด้วยกัน”
 
เพิ่งรู้ว่าไม่เคยอยู่ด้วยกัน?
“อันนี้ก็เป็นสิ่งที่กวางเคยคุยกับทางโน้นเหมือนกัน กวางถึงบอกว่ามันไม่ได้ผิดที่เขาคิดว่าไม่ควรอยู่ กวางไม่ได้เถียงเขาเลยนะ แต่กวางแค่ถามว่าทำไมเราอยู่ด้วยกันหรือไปเที่ยวด้วยกันไม่ได้เหรอ ซึ่งเขาให้เหตุผลมา เหตุผลเขาก็ไม่ผิดเลย เพราะยังไม่ได้แต่ง ถ้ากวางอยู่กับหวาน กวางก็ต้องตามเขา กวางก็โอเค แต่เขาถามคุณพ่อกับคุณแม่ว่ากวางเข้าใจมั้ย กวางบอกตรงๆ ว่าบอกเออ ออ ไม่ได้ อันไหนกวางไม่โอเค ไม่เข้าใจก็จะบอกตรงๆ ว่าไม่เข้าใจ มุมความเป็นแม่กวางเข้าใจดี ฝั่งโน้นไม่ได้คิดผิดเลย ไม่ใช่บอกว่าใครคิดผิด แค่สองคนเห็นไม่ตรงกัน”
 
ปัญหาทั้งหมดเกิดจากความคิดไม่ตรงกันแค่นั้น?
“แค่นั้นจริงๆ ครับ”
 
ที่เขาเม้าธ์กันเรื่องต้องเลิกกันเพราะไม่มีค่าสินสอด?
“ไม่เกี่ยวนะครับ รวมๆ มันคือแต่งงานไม่ได้ มันจัดงานแต่งไม่ได้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของปัญหายุกยิกทั้งหลาย ไม่ใช่เรื่องหลัก”
 
ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้เร่ง?
“ไม่มีเร่งเลย ทั้งพ่อแม่หวานก็ไม่ได้เร่ง หวานเองก็ไม่ได้เร่ง เพราะทุกคนเข้าใจหมดว่าสถานการณ์คืออะไร”
 
ทั้งหมดไม่เกี่ยวกับเงิน บ้าน รถ ที่ดิน?
“ไม่เกี่ยวเลย แค่เรื่องความคิดเลย เงินทองไม่เกี่ยวทั้งสิ้น ในเน็ตมีบางประเด็นว่าไม่มีตังค์แต่งงาน กวางไม่ได้ขอเงินพ่อแม่ตั้งแต่อายุ 18 แล้ว พ่อแม่มี เขาเป็นคุณหมอ มีบ้านมีอะไรของเขา แต่กวางไม่ไปยุ่งอะไรกับเงินเขาอยู่แล้ว ไม่เคยเลย การแต่งงาน ใช้ชีวิตใหม่ ซื้อบ้าน ซื้อเรือนหอของตัวเอง กวางคิดว่ายิ่งไม่เมคเซ้นส์ใหญ่ที่จะเดินไปหาพ่อแม่แล้วบอกว่าขอเงินแต่งงานหน่อยพ่อ กวางเลยไม่ทำแบบนั้น และไม่คิดจะทำด้วย”

 
หวานเปิดโรงเรียนสอนดำน้ำ เราก็มีอยู่แล้ว?
“ตอนแรกเราทำด้วยกัน ตอนนี้หวานไปเปิดใหม่”
 
ให้ไปเลยได้มั้ย?
“มันให้กันไม่ได้ เพราะโรงเรียนดำน้ำไม่เหมือนเปิดร้านขายของ เปิดโรงเรียนดำน้ำ มันเป็นศิลปะอย่างนึง เขาขายวิธีการสอน กวางไม่สามารถยกวิธีการสอนแบบกวางให้เขา เหมือนอย่างการร้องเพลง กวางยกวงเอบีนอร์มอลให้ไม่ได้ มันเป็นรูปแบบอย่างนั้น มันก็เลยต้องแยกกัน ซึ่งกวางดีใจมากๆ ที่เขาไม่ทิ้งเรื่องดำน้ำ ก่อนหน้านี้เขาเสียน้ำตา ร้องไห้ เหนื่อย นอนไม่ได้มานานมากกกว่าเขาจะจบ เพิ่งรู้เขาเพิ่งเปิดโรงเรียนใหม่เมื่อวาน ก็เลยส่งไปหาเขาว่ามีอะไรส่งมาปรึกษาได้เลยเต็มที่”
  
ถ้าฝั่งบ้านน้ำหวานดูอยู่ ไม่แปลกที่แม่รักลูก แต่หวังว่าจะเจอจุดกลางที่คุยกันได้ มีโอกาสมั้ยในอนาคต?
“มันบอกไม่ได้จริงๆ โลกจะหมุนก็ต้องปล่อยให้มันหมุนไป อะไรจะเกิดขึ้นก็ค่อยว่ากัน”
 
เหมือนยังรักเขาอยู่?
“เลิกครั้งนี้ไม่ใช่ไม่อยากเจอกันแล้ว หรือโกรธกันแล้ว อีกคนทำเรื่องไม่ดีใส่ แล้วตัดฉึบไปเลยมันก็แปลก ก็ยังเป็นห่วงเป็นใยกัน เราก็มีโอกาสคุยกันอยู่เรื่อยๆ”
 
มีคนสงสัยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นมั้ยถ้ารักกันมากพอ เป็นเพราะรักกันไม่มากพอหรือเปล่าเลยก้าวข้ามไปด้วยกันไม่ได้?
“โลกความจริงใช้ตรรกะนี้ไม่ได้ รักกันก็เรื่องนึงนะครับ มันก็รักกันจริงๆ แหละ แต่บางอย่างมันไม่ใช่เอาความรักมาแก้ไขได้ มันใหญ่เกินกว่าที่เราจะใช้แค่ว่าเหมือนในละคร มันต้องฝ่ากันไปได้สิวะ อะไรแบบนี้”
 
กลางคืนยังนอนหลับมั้ย?
“กวางร่วงทั้งวันเลย (หัวเราะ) อาการกวางคือนั่งอยู่ก็จะง่วงทั้งวัน มันไม่ใช่อาการปกติของกวาง”
 
ถ้าแม่เดินมาจับมือ?
“น่าจะแปลกมากครับ ไม่น่าจะ...”

 
ถ้าเขาเดินมาจับมือ แล้วบอกว่าอยากให้ลูกสาวมีความสุข ไปต่อมั้ย?
“ก็ค่อยว่ากันดีกว่า บอกไม่ได้จริงๆ”
 
ถ้าน้ำหวานดูอยู่?
“ก็ขอโทษหวานจริงๆ ที่มันไม่เวิร์กอย่างที่เราคาดหวังกันไว้ เหตุการณ์กระทบกระทั่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ระหว่างกวางกับบ้านหวานก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วย ที่มันเป็นจุดแตกหัก ทำให้ลูกระเบิดที่อยู่ข้างในระเบิดขึ้นมา อะไรที่ดีก็อยากให้หวานและที่บ้านหวานจำไว้ อะไรไม่ดีกวางก็ขอโทษกับสิ่งที่ผ่านมาทั้งหมด”