อย่างนี้ก็ได้เหรอ ! หนุ่มหาปลาจอดรถ จยย.เสียบกุญแจคาไว้เผลอแป๊บเดียว รถหาย ตำรวจไล่จับตัวคนขี่ไปได้ อ้างรถเก๋งติดหล่ม ฉก จยย.ขี่ไปหาคนมาช่วยไม่ได้ตั้งใจ ขโมย
เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.( 2 พ.ย.66) พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ พรหมหมื่นไวย ผกก.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากนายไพรัตน์ ขอกรดสำโรง อายุ 32 ปี ว่ารถจักรยานยนต์สีขาว-แดง หมายเลขทะเบียน 1กข-5681 มหาสารคาม ถูกคนร้ายขโมยไป ซึ่งเจ้าตัวจอดไว้แล้วลงไปหาปลาในคลอง บริเวณริมถนนเลียบคลองชลประทานสายพิมาย – ดงใหญ่ เขตพื้นที่ หมู่ 11 ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา
ซึ่งห่างจากจุดที่จอดจักรยานยนต์ไปประมาณ 100 เมตร พบรถเก๋งสีดำ หมายเลขทะเบียน 8ว – 3487 กทม.จอดติดหล่มอยู่ โดยภายในรถไม่มีคนอยู่ ประตูทั้ง 4 ด้านก็ถูกล็อก แต่เครื่องยนต์ยังติดอยู่ ตรวจสอบบริเวณนั้นก็ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ จึงสันนิษฐานว่าคนที่ขโมยจักรยานยนต์ไปอาจจะเป็นบุคคลในรถเก๋งคันดังกล่าว
ตำรวจ สภ.พิมาย ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยนายไพรัตน์ เจ้าของรถเล่าว่าตนได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจอดไว้แล้วลงไปหาปลาในคลองชลประทาน โดยเสียบกุญแจคารถไว้พร้อมกับเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ใต้เบาะรถ จนเมื่อช่วงประมาณ 16.00 น.สังเกตเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวมาจอดดูตนหาปลาอยู่นาน แล้วก็ขับออกไป แต่ตนไม่ได้สนใจก็หาปลาตามปกติ จนถึงเวลาที่จะกลับบ้านไม่เห็นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ ตอนแรกคิดว่าเพื่อนมาแกล้งเอารถไปซ่อน เดินตามหาก็ไม่เจอ จนมีพลเมืองดีบอกว่าเห็นมีคนขับไปมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองพิมาย จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
หลังจากแจ้งเหตุประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถตามจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ได้พร้อมรถจักรยานยนต์ของนายไพรัตน์ คันดังกล่าวได้ที่บริเวณถนนโรงฆ่าสัตว์เก่า หมู่ 16 ต.ในเมือง อ.พิมาย โดยห่างจากจุดที่รถหายประมาณ 10 กม.
โดยผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายสมฤทธิ์ อายุ 34 ปี ให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวมาตามถนนเลียบคลองชลประทานเพื่อจะไปทุ่งนาของเพื่อน แต่ระหว่างทางรถเกิดติดหล่มไม่สามารถไปต่อได้ จึงเดินไปเพื่อจะไปหาคนมาช่วยจนไปเจอรถจักรยานยนต์ของนายไพรัตน์ฯที่จอดอยู่ จึงถือวิสาสะขับไปเพื่อจะไปตามรถไถมาช่วยดึงรถขึ้น แต่ไม่ได้บอกเจ้าของรถจักรยานยนต์ระหว่างทางมีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถไล่ตามและเรียกให้จอด พร้อมนำตัวมาที่เกิดเหตุ
หลังเจ้าของรถจักรยานยนต์พบหน้าผู้ก่อเหตุเกิดความโมโหจึงเข้าทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแยกตัวออกไป เบื้องต้นนายสมฤทธิ์ฯยอมรับว่าเพิ่งเสพยาบ้ามาแต่ไม่ได้ตั้งใจจะขโมยรถ อย่างใดก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาลักทรัพย์และเป็นผู้ขับขี่รถเสพยาบ้าผิดกฎหมายเพื่อดำเนินคดีต่อไป.