สาวร้องถูกอดีตสามีนำชื่อไปแจ้งตาย เพื่อเงินค่าทำศพ 2 แสนบาท หลังทราบเรื่องบอกสามีให้ไปยุติเรื่องดังกล่าวแต่ถูกปฎิเสธ ผ่านไป 33 ปี กลายเป็นบุคคลไร้สัญชาติ
3 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนางเอ (นามสมมุติ) ลูกสาวแจ้งกับทีมข่าวว่ามีนักข่าวสำนักหนึ่ง มารับตัวแม่เธอคือนางพัชรินทร์ สงวนนามสกุล อายุ 55 ปี ผู้เสียหาย ไปตั้งแต่ 11.00 น. เพื่อไปทำข่าวและไปทำบัตรประจำตัวประชาชน ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนล่าสุดเวลา 19:30 น. ยังไม่นำมาส่ง ซึ่งสำนักข่าวดังกล่าวแจ้งว่า จะพาแม่ไปทำข่าวด้วย ซึ่งเป็นทางผ่านแถวปทุมธานี ก่อนที่แม่จะใช้โทรศัพท์อดีตสามีโทรมาหาเธอ บอกว่าอยู่กับอดีตสามี และแจ้งจะนำแม่มาส่งหลังทำข่าวเสร็จ
นางเอ (นามสมมุติ) ลูกสาวเล่าเรื่องราวดังกล่าวให้ฟังว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 33 ปี แม่เธอคบหากับอดีตสามีตอนอายุ 22 ปี ก่อนสามีที่อยู่กินกันจะถามแม่ว่า “อยากมีเงินใช่ไหม” แม่บอกว่า “อยากมี” จนมารู้อีกทีหลังจากนั้นว่าอดีตสามีนำบัตรประจำตัวประชาชนและชื่อไปแจ้งตายกับผู้ใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หวังเงินประกันชีวิตจากบริษัทที่แม่เธอทำงานอยู่
พอแม่เธอ และพี่สาวอดีตสามีรู้ ก็ไม่ยอม บังคับให้อดีตสามีแม่ไปยกเลิก แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน ผู้ใหญ่คนดังกล่าวก็ไม่ทำเรื่องให้ เนื่องจากรอบแรกที่แจ้งตาย ยังไม่ได้เงินค่าช่วยเหลือ ครั้งนี้จะให้ถอนให้จึงปฎิเสธ จนอดีตสามีของแม่และแม่เลิกรากันไป
แม่บอกเธอว่า พยายามดิ้นรนหาหนทางเพื่อให้สามารถมีบัตรประจำตัวประชาชน และยกเลิกการแจ้งตาย สุ ดท้ายก็ไม่สามารถทำได้ เคยถูกคนที่ทำงานสมัยนั้นแถวจังหวัดลพบุรี หลอกว่าสามารถทำให้ได้ แต่ก็ถูกเชิดเงินหนีหายหลายหมื่นบาท
จนล่าสุดวันที่ 25 ตุลาคม 2566 แม่ของเธอกำลังนั่งรถตู้ไปทำธุระ ได้เกิดอุบัติเหตุมีรถมาชนจนทำให้แม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่สามารถได้รับเงินเยียวยาได้ เพราะไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ทางคู่กรณีก็ไม่จ่ายเงินค่าเสียหายให้ เธอไม่มีที่พึ่งจึงร้องไปกับเพจจ่าคิง ผู้นำย่านสะพานใหม่