ทนายแจม ออกโรงแจงแทน ครอบครัวเหยื่อ คุกคามทางเพศ ซัด สส.ปูอัด ทำลายหลักการครองตนของ ผู้แทนราษฎร ที่ดี
วันที่ 6 พ.ย. 66 น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ หรือ ทนายแจม สส.กทม. พรรคก้าวไกล ทวิตข้อความผ่าน “X” ระบุว่า “จากการแถลงข่าวกรณีคุกคามทางเพศของนาย ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ สส.ปูอัด สส.กทม. พรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา มีเนื้อหากล่าวอ้างถึงความสัมพันธ์อันดีกับผู้เสียหายและครอบครัวของผู้เสียหาย โดยคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง สร้างความทุกข์และความไม่สบายใจแก่ผู้เสียหายและครอบครัวผู้เสียหายอย่างยิ่ง”
“ดิฉันในฐานะ สส.พรรคก้าวไกล จึงขอเป็นตัวกลางนำข้อโต้แย้งของครอบครัวผู้เสียหาย แจ้งต่อสาธารณะ ดังนี้”
“1.การที่นาย ไชยามพวาน กล่าวว่า ครอบครัวของผู้เสียหาย พาไปเลือกสูท และเนคไท เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ สส. แสดงถึงความสัมพันธ์อันดี และความใกล้ชิดนั้น ครอบครัวผู้เสียหายชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะนาย ไชยามพวาน พูดกับครอบครัวผู้เสียหายอยู่เสมอว่าไม่มีเงิน ครอบครัวของผู้เสียหายให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ เพราะเห็นว่านาย ไชยามพวาน มีความตั้งใจเข้ามาทำงานการเมือง จึงต้องการมีส่วนร่วมสนับสนุน ไม่คาดคิดว่านาย ไชยามพวานจะมีพฤติกรรมคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศบุคคลในครอบครัวที่ร่วมทำงานด้วย”
“2.การที่นาย ไชยามพวาน แถลงข่าวโดยพยายามสื่อข้อความตามข้อ 1 ครอบครัวของผู้เสียหายเห็นว่านาย ไชยามพวาน กระทำโดยเล็งเห็นผลที่จะเปิดเผยว่าผู้เสียหายเป็นใคร การกระทำดังกล่าวถือเป็นการคุกคาม และทำร้ายจิตใจของผู้เสียหายซ้ำ รวมถึงหมายจะทำร้ายจิตใจคนในครอบครัว คนรอบข้าง และคนที่รักผู้เสียหายด้วย”
“3.การที่นาย ไชยามพวาน พยายามกล่าวอ้างว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เสียหาย โดยยกข้อความใดๆ ที่ผู้เสียหายส่งให้ผ่านแอปพลิเคชัน ครอบครัวของผู้เสียหายยืนยันว่าข้อความดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าผู้เสียหายมีจิตปฏิพัทธ์ หรือมีความรู้สึกที่นอกเหนือจากการเป็นเพื่อนร่วมงานต่อนาย ไชยามพวาน แต่เป็นเพียงข้อความที่ผู้เสียหายเขียน และปรับส่งให้ทีมงานทุกคน เพื่อแสดงความขอบคุณ และเป็นการรวบรวมกำลังใจในการทำงานต่อไป”
“การกล่าวอ้างของนาย ไชยามพวานทั้งหมด จึงเป็นเพียงการจงใจจับแพะชนแกะ ยกรายละเอียดหลักฐานที่ไม่เกี่ยวข้องมาอ้าง เพื่อเข้าข้างตนเอง ให้พ้นผิดจากข้อกล่าวหาการคุกคาม และล่วงละเมิดทางเพศเท่านั้น ทั้งนี้ครอบครัวของผู้เสียหายขอยืนยันว่า การคุกคามหรือการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ว่าในความสัมพันธ์รูปแบบใด เป็นเรื่องร้ายแรง และยอมรับไม่ได้ การเอื้อเฟื้อ การสนับสนุน หรือการมอบความใกล้ชิด หาใช่ใบอนุญาตให้ใครก็ตาม กระทำการคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศบุคคลอีกฝ่าย”
“พฤติกรรมเลวร้ายของนาย ไชยามพวาน ไม่เพียงทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้เสียหายและครอบครัว หากยังทำลายหลักการครองตนของ “ผู้แทนราษฎร” ที่ดี ที่นาย ไชยามพวานอวดอ้างว่าต้องการจะเป็น อย่างไม่เหลือชิ้นดี”