เปิดคลิปหนุ่ม 21 ไปดูหมอลำ ถูกแก๊งโจ๋ใช้หมวกกันน็อกตีล้มทั้งยืน

เปิดคลิปหนุ่ม 21 ไปดู หมอลำ ขากลับถูก แก๊งโจ๋ รุมตี ก่อนถูก หมวกกันน็อก ตีหัวล้มทั้งยืน 


วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 เวลา 15.00 น.ที่สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.กุศลสิทธิ ขันแก้ว สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้นัดหมายวัยรุ่นชายกับหญิงสาว 3 คน ประกอบด้วยนายเอ นามสมมุติ อายุ 21 ปี น.ส.บี นามสมมุติ อายุ 23ปี แฟนสาวนายเอ และนายซี นามสมมุติ อายุ 22 ปี เพื่อนนายเอ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม และนำหลักฐานคลิปวงจรปิดเหตุการณ์ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายหน้าวัดทิพย์สันติวัน ถ.อำเภอเทศบาลนครอุดรธานี เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.40 น.วันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 โดยมีการเข้าแจ้งความไว้แล้วหลังเกิดเหตุ

จากคลิปวงจรปิดจะเห็นกลุ่มผู้บาดเจ็บ 3 คน ยืนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ที่หน้าวัด ไม่นานกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 16–18 ปี ประมาณ 4–5 คน ได้กรูกันเข้ามาทำร้ายกลุ่มผู้บาดเจ็บ มีการชุลมุนต่อสู้กัน ซึ่งในภาพจะเห็นจังหวะนายเอ ถูกหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นใช้หมวกกันน็อกฟาดเข้าที่ศีรษะ 1 ครั้งจนล้มทั้งยืน ก่อนที่จะถูกเตะซ้ำเข้าที่ใบหน้าและลำตัวอีกหลายครั้ง หลังก่อเหตุจนหนำใจกลุ่มวัยรุ่นได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยทิ้งหมวกกันน็อกสีขาวแบบเต็มใบ 1 ใบ และได้ทำกุญแจรถจักรยานยนต์ตกไว้ 1 ดอก

นายเอ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนพากันออกมาเที่ยวงานบุญ มาดูหมอลำที่วัดดังกล่าว หลังจากดูเสร็จได้เดินกลับออกมาที่หน้าวัด จุดที่พวกตนจอดรถทิ้งเอาไว้ ต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์แล้วตะโกนด่า น.ส.บีแฟนตน ขณะกำลังจะกลับ ก็พบกลุ่มวัยรุ่นรออยู่ฝั่งตรงข้าม จึงถามแฟนว่าใช่คนที่ตะโกนด่าหรือไม่ แฟนบอกว่าไม่ใช่ แต่จังหวะหันหลังกลุ่มวัยรุ่นได้เข้ามาตีนายซีเพื่อนของตน ก่อน ตนจึงเข้าไปช่วยเพื่อนแล้วก็ถูกกลุ่มวัยรุ่น 4-5 คน เข้ารุมชกต่อยกัน แล้วก็ถูกหมวกกันน็อกของกลุ่มวัยรุ่นตีเข้าที่ท้ายทอยและบริเวณปากจนสลบไป จากนั้นแฟนและเพื่อนจึงได้นำตนไปส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าโชคดีที่ไม่ถูกจุดสำคัญ

ด้าน น.ส.บี เล่าว่า พวกตนไม่รู้จักกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีมาก่อน และไม่ใช่กลุ่มที่ตะโกนด่าตนก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง กลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีได้ขี่รถวนมาจอดแล้วถีบนายซีล้มลง จากนั้นก็เริ่มเข้าชกต่อยกัน พอแฟนตนถูกชกและตีจนล้มลง กลุ่มวัยรุ่นก็ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตอนอยู่ในงานหมอลำก็ไม่มีเรื่องอะไรกัน คนมาทำร้ายก็ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน ไม่คุ้นหน้ากลุ่มที่มาทำร้ายมากัน 5 คนขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน

ด้าน พ.ต.ท.กุศลสิทธิ ขันแก้ว สว.(สอบสวน) เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะสอบปากคำฝ่ายคู่กรณีที่ถูกทำร้ายและผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างละเอียด ซึ่งผู้บาดเจ็บได้นำหลักฐานกล้องวงจรปิดมาให้เพิ่มเติมพร้อมกับนำหมวกกันน็อคสีขาวเต็มใบกุญแจรถจักรยานยนต์ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุและเอกสารการรักษาจากโรงพยาบาล ซึ่งจะได้ประสานตำรวจชุดสืบสวนเพื่อหาเบาะแสกลุ่มวัยรุ่นที่ลงมือทำร้ายผู้บาดเจ็บมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.