นายตำรวจยิง อดีตทหารสาหัส กลางงานกฐินในวัด จ.ปราจีนบุรี

11 พ.ย. 66

 

นายตำรวจยิง อดีตทหารสาหัส กลางงานกฐิน เกือบลั่นไกซ้ำ ญาติพร้อมคนในงานช่วยกันห้าม พี่สาวลั่นไม่ยอม เดินหน้าเอาผิด  

วันที่ 11 พ.ย. 66 พ.ต.ต. อิทธิศักดิ์ ภิรมย์ราบ พนักงานสอบสวน สภ.นาดี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันที่วัดบูรณราษฎร์ศรัทธาทำ ต.สัมพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ญาติและคนในวัดรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลนาดีเป็นการด่วน  เนื่องจากมีอาการสาหัสหมดสติ 

หลังรับแจ้งได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ พบญาติและชาวบ้านกำลังเตรียมสถานที่ เพื่อจัดงานกฐินประจำปี ในวันพรุ่งนี้  (12 พ.ย.66 ) บริเวณเต้นท์หน้าศาลา เป็นเต้นท์สำหรับจัดเครื่องเสียง ที่เก้าอี้มีกองเลือดของคนเจ็บอยู่เป็นจำนวนมาก ห่างจากจุดพบเลือดไปประมาณ 10 เมตร พบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 ปลอก 

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือ ร.ต.ณัฐกิฐ อายุ 63 ปี ชาวกาญจนบุรี ญาติๆ นำตัวส่งโรงพยาบาลนาดี และแพทย์ได้ทำการรักษาเป็นการด่วน จากการที่ผู้บาดเจ็บถูกกระสุนเสียเลือดเป็นจำนวนมากจนหมดสติ ทางแพทย์ต้องเร่งทำการ CPR  หลายครั้งจนฟื้นคืนชีพ จากการตรวจสอบพบถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ที่บริเวณหน้าออกซ้าย จำนวน 1 นัด  

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ร.ต.ณัฐกิฐ เป็นทหารเกษียณอายุราชการ อยู่ที่จ.กาญจนบุรีและได้เดินทางกลับมาบ้านเกิด เพื่อทำบุญกฐินที่วัดบูรณราษฎร์ศรัทธาทำ โดยนำเครื่องเสียงมาช่วยงานที่วัด เมื่อติดตั้งเครื่องเสียงเสร็จแล้วก็ได้นั่งคุยกับญาติๆ และเพื่อนบ้าน ต่อมา ร.ต.ต.พงษ์เพ็ชร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาดี เดินเข้ามาในบริเวณวัด แล้วตรงเข้าไปหา ร.ต.ณัฐกิฐ จากนั้นใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ จำนวน 1 นัด ร.ต.ณัฐกิฐ ล้มลง ก่อนที่จะเตรียมยิงซ้ำ เพื่อนบ้านและคนในงานได้เข้ามาทำแย่งปืนและจับตัวออกมา ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไป ส่วนคนเจ็บญาติและคนในงานเร่งนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน 

นางบุญโสม เกตุเพ็ง อายุ 65 ปี พี่สาวคนเจ็บ กล่าวว่า ที่วัดเตรียมงานกฐิน  และเปิดเพลงกันอยู่ คนก็เยอะ ตัวเองได้ยินเสียงปืนก็หันมาดูเห็นน้องชายล้มลงก็วิ่งกันมาดู  เพื่อนของน้องก็เข้ามาห้าม ผลักมือออก คนก่อเหตุก็เป็นญาติกัน และเป็นตำรวจอยู่ที่นี่ และก็หนีไปแล้ว คือหมวดพงษ์เพ็ชร ยังรับราชการอยู่ ตนไม่ยอมแน่นอน  น้องชายของตนมาจากเมืองกาญจนบุรี เพื่อเอาเครื่องเสียงมาช่วยงานวัด

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส