ถั่วแระ เชิญยิ้ม เปิดใจเข้าไปเรียนศาสตร์พลังจิตกับ อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต เพราะตั้งใจช่วยเหลือคนยากไร้ให้หายเจ็บป่วย
จากกรณีที่ถั่วแระ เชิญยิ้ม หรือ นายศรสุทธา กลั่นมาลี อายุ 70 ปี ได้เข้ามาเรียนศาสตร์พลังจิตกับอาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต หรือนายกีรติ สมคิด อายุ 53 ปี หมอเทวดาคนดังในโซเชี่ยล ที่นำศาสตร์พลังจิตรักษาผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ แขนขาอ่อนแรง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปวดคอปวดหลัง ปวดหัวไมเกรน หายหรืออาการทุเลาได้ พร้อมเผยเป็นทางเลือกที่นำการรักษาด้วยการปรับธาตุสมดุลร่างกาย รักษาคนตาบอดให้กลับมามองเห็น รักษาผู้ป่วยและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จนอาการดีขึ้น โดยไม่มีการเรียกเก็บค่ารักษามีเพียงค่าครูเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดสิงห์ ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เพื่อเดินทางไปพบกับถั่วแระ เชิญยิ้ม หรือ นายศรสุทธา กลั่นมาลีที่กองถ่ายละคร
ซึ่งทางถั่วแระ เชิญยิ้ม ได้กล่าวถึงเรื่องของ หมอเอกฝ่ามือพลังจิต ที่กำลังโด่งดังอยู่ในโลกโซเชี่ยว ว่าตนเองเคยดูคลิปในโซเชียล และมีผู้ใหญ่สายการเมืองสายบันเทิงไปรักษา เราก็เลยอยากรู้อยากเห็น พวกพ้องน้องพี่จึงให้ช่วยพาไปหน่อย เพื่อรักษากับอาจารย์เอกฝ่ามือพลังจิตก็แค่นั้นเอง
ที่รู้ที่เห็นคือไปแล้วพูดคุยกัน ญาติผู้ใหญ่ที่ไปรักษาก็หาย มันจะอุปทานหรือไม่ ตนเองไม่รู้ แต่รู้ว่าญาติผู้ใหญ่หาย จากการที่เดินไม่ได้ ขึ้นบันไดไม่ได้ หลังจากที่รักษาไปแล้วอาการก็ดีขึ้น เดินขึ้นบันไดสบายๆ ระหว่างรักษาก็คุยกับอาจารย์เอก โดยอาจารย์เอกบอกว่า พี่ถั่วแระมาเรียนสิ เดี๋ยวกลับไปจะได้ไปรักษาผู้ที่เจ็บป่วยได้ เราก็เออก็ดีนะ มาเรียนแล้วมารู้เห็นแล้ว ลองไปไหนไปเจอใครเจ็บป่วยลองรักษาดู มันได้บุญทานบารมี ที่เราทำให้เขาหาย
หลังจากที่ตนเองเรียนมา ตนเองก็เคยไปรักษาคนป่วย โดยคนป่วยก็บอกว่าดีขึ้น คือลักษณะอาการคือหนักเป็นเบาๆ หลุดพ้นด้วย หัวใจตนเองไม่มีหมอวิเศษ ขนาดมะเร็งยังต้องฉีดคีโม ทุกอย่างอยู่ที่หัวใจ บางทีเป็นโรคกรรมเวรจนกว่าจะหมดลมหายใจ
ถามว่าเรื่องอาจารย์เอกตนเองเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ ตนเองก็ไม่ได้เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ คนเราต้องมีนัยยะในการับรู้รับฟัง ตนเองไปเรียนแล้ว ตนเองไม่ได้อุตริ ยังคิดวิเคราะห์แยกแยะอยู่ว่าใช่หรือไม่ใช่ ตนเองทำแล้วไม่เคยไปถามแบบบีบหัวใจว่าหายหรือไม่หาย
อาจารย์เอกไม่มีใบอนุญาตทางการแพทย์ก็เป็นเรื่องของเขา ขนาดร้านหมูปิ้งยังไม่มีใบอนุญาตให้ขายยังขายได้เลย กระแสตอนนี้คือมันดัง ทำไม่ไม่รักษาแบบเงียบๆไป แต่ด้วยจิตใจของมนุษย์ที่อยากจะรักษาอยากทำให้จริงจัง อยากให้มันถูกกฎหมายจึงเกิดการงัดกันขึ้นมา เพราะสาธารณะสุขไม่ยอมรับ วิทยาศาสตร์ไม่ยอมรับก็ไม่รู้จะพูดยังไง ไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆแล้วก็ไม่หาย แต่พอมารักษาอาจาร์เอกฝ่ามือพลังจิตมันหาย ตนเองจะนับถือต่อไปอีกหรือไม่มันก็อีกเรื่อง เพราะเขาไม่ได้ทำร้ายอะไรตนเอง แต่ถ้าอาจารย์เอกทำร้ายตนเอง มาหลอกลวงด้วยคำพูดวาจาสิ่งของ ตนเองหก็ไม่นับถือ อาจารย์เอกไม่ได้ทำให้ตนเองเดือดร้อน.
