ทหารเมียนมาในตัวจังหวัดลอยก่อว์ ต้องยอมจำนนต่อกองกำลังป้องกันประเทศกะเหรี่ยง ขณะที่ยังคงมีการสู้รบอย่างหนักในพื้นที่บริเวณโดยรอบตัวจังหวัดลอยก่อว์
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงกองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงคะยา KA เปิดเผยว่าปฏิบัติการ 1111 เมื่อระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย. 66 นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ที่กองกำลังผสมประกอบด้วย KA KNDF PDF ในเมืองลอยก่อว์ที่สามารถยึดค่ายทหารหลักของเมืองลอยก่อว์ไว้ได้ ซึ่งค่ายดังกล่าวเป็นกองบัญชาการทหารที่ควบคุมกำลังทหารเมียนมาในรัฐคะยาทั้งหมด ส่งผลให้ระบบการสั่งการและปฏิบัติการของทหารเมียนมาต้องประสบปัญหาอย่างหนัก ทั้งนี้ในการบุกเข้ายึดค่ายทหารดังกล่าว ทางกองกำลัง KNDF ได้ใช้กองพันโดรนติดอาวุธ ทำการทิ้งระเบิดโจมตีทหารเมียนมาทางอากาศ ทำให้เหล่าทหารราบของฝ่ายต่อต้านสามารถยึดค่ายทหารเมียนมาได้อย่างง่ายดาย และมีอัตราการสูญเสียที่ต่ำมาก สำหรับทหารเมียนมาที่ยอมจำนนต่อกองกำลัง KNDF ได้รับการดูแลและรักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บเป็นอย่างดี
ซึ่งกลุ่ม KNDF ได้ทำการเผยภาพทหารเมียนมาที่ยอมจำนนต่อกองกำลังป้องกันประเทศคาเรนนีKNDFและเข้ามอบตัวต่อกลุ่ม KNDF ในมหาวิทยาลัยลอยก่อว์ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ที่ ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของปฏิบัติการ 1111 โดยทหารเมียนมา กองพันทหารราบ ที่ 6 สังกัดกองพลทหารราบเบา ที่ 66 มีจำนวน 32 นาย
ทั้งนี้คณะอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยลอยก่อว์ครู,พนักงาน 134 คน และสมาชิกในครอบครัว 64 คนได้รับการช่วยเหลือจากกองกำลัง KNDF อพยพออกจากมหาวิทยาลัยลอยก่อว์ไปอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัยเนื่องจากทางการเมียนมามีการใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดทุกวัน หวั่นอันตรายต่อคนเหล่านั้น นอกจากเจ้าหน้าที่คณะอาจารย์ดังกล่าวแล้วประชาชนในเมืองลอยก่อว์กว่า 50,000 คนก็เร่งอพยพออกจากพื้นที่ในเมืองลอยก่อว์ไปอาศัยหลบภัยสงครามในพื้นที่รอบชานเมืองลอยก่อ์ และเมืองดีมอโซว์ที่อยู่ใกล้กัน
จ่อมินทุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวเมื่อ 15 พ.ย. 66 ว่ากองทัพกำลังเผชิญกับการโจมตีอย่างหนักจากทหารกบฏติดอาวุธจำนวนมาก ในรัฐฉาน ทางตะวันออกเฉียงเหนือรัฐคะยา คาเรนนีทางตะวันออกและรัฐยะไข่ทางตะวันตก”
จ่อมินทุน กล่าวว่า ที่มั่นทางทหารบางแห่งได้ถูกอพยพออกไปแล้วและกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ใช้โดรนเพื่อทิ้งระเบิดหลายร้อยลูกใส่ฐานทัพทหาร “เรากำลังดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อป้องกันการโจมตีด้วยโดรนอย่างมีประสิทธิภาพ”
