คิกออฟ เงินช่วยเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท เริ่มวันนี้ถึง 2 ธ.ค. 66

28 พ.ย. 66

 

กระทรวงพาณิชย์ คิกออฟ เงินช่วยเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาทเริ่มวันนี้ ถึง 2 ธ.ค. 66 เล็งใช้เทคโนโลยีช่วยเกษตรกรเพิ่มผลผลิต 

วันที่ 28 พ.ย. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการ คิกออฟมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67ว่า ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี  (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน หรือไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท ตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/2567 ซึ่งมีเป้าหมายเกษตรกร 4,680,000 ครัวเรือน โดยจะมีการจ่ายเป็น 5 งวด ตั้งแต่วันนี้ (28 พ.ย. 66) ถึง 2 ธ.ค. 66 ซึ่งวันนี้ (28 พ.ย.66) เป็นวันแรกครอบคลุม 21 จังหวัด จนถึงวันที่ 2 ธ.ค.66 จึงจะครบทั้ง 77 จังหวัด รวมกรอบวงเงินรวมกว่า 54,300 ล้านบาท ผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 

นายภูมิธรรม ยืนยันว่า รัฐบาลตั้งใจที่จะลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร เมื่อเมื่อการโอนเงินครบกำหนด 5 วันแล้ว ในปีต่อการผลิตต่อไป ก็จะมีการเปิดให้เกษตรกรมาลงทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิต และในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงปรับเปลี่ยนวิธีการผลิต ใช้เทคโนโลยีมาเสริมให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น เพื่อนำเงินงบประมาณชดเชยที่เหลือไปแก้ไขปัญหาอื่นๆ ได้มากขึ้น 

นอกจากนั้น ยังมีรายงานด้วยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (28 พ.ย.) คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข.จะมีการเสนอโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต 2566/67 ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวในอัตรา 4% ใช้งบประมาณ 780 ล้านบาท จากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในโอกาสแรกก่อน 

ทั้งนี้ สำหรับการจ่ายเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/2567 แบ่งเป็น 5 งวด ประกอบด้วย งวดที่ 1 จ่ายวันที่ 28 พ.ย. 2566 จำนวน 21 จังหวัด คือ หนองบัวลำภู เลย นครสวรรค์พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ อุทัยธานี ตาก เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ เชียงใหม่ น่าน ลำพูน แม่ฮ่องสอน ลพบุรี และกรุงเทพฯ 

งวดที่ 2 จ่ายวันที่ 29 พ.ย. 2566 จำนวน 8 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สกลนคร อุดรธานี นครพนม หนองคาย มุกดาหารและบึงกาฬ 

งวดที่ 3 จ่ายวันที่ 30 พ.ย. 2566 จำนวน 5 จังหวัด คือ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์  ชัยภูมิและยโสธร 

งวดที่ 4 จ่ายวันที่ 1 ธ.ค. 2566 จำนวน 5 จังหวัด คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ขอนแก่นและกาฬสินธุ์ 

งวดที่ 5 จ่ายวันที่ 2 ธ.ค. 2566 จำนวน 38 จังหวัด คือ อยุธยา ชัยนาท สิงห์บุรี ปทุมธานี  สระบุรี อ่างทอง นนทบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ จันทบุรี ตราด สุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสาคร ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สุราษฎร์ธานี ชุมพร ภูเก็ต กระบี่ ระนองและพังงา 

ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่านบริการ BAAC Connect ทาง Line: BAAC Family อีกด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส