ตำรวจไซเบอร์ค้นโกดังหลอกเก็บเงินปลายทาง พบของกลางกว่า 3 หมื่นชิ้น

28 พ.ย. 66

ตำรวจไซเบอร์ ค้นโกดังสินค้าขบวนการหลอก เก็บเงินปลายทาง ยึดของกลางเป็นกล่องพัสดุและสินค้าจำนวนมากกว่า 3 หมื่นชิ้น

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 พ.ย.ตำรวจไซเบอร์นำหมายค้นเข้าตรวจสอบโกดังเช่าสินค้าขนาดใหญ่ ในซอยสะแกงาม 14 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน

พบนางอารียา พิรุณสมบูรณ์สุข นายหยุน เฉิน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน จึงได้คุมตัวไว้ อีกทั้งได้คุมตัวบุคคลต่างด้าวกว่า 20 คน ขณะกำลังนั่งแพคสินค้า ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าบุคคลต่างด้าวทั้ง 20 คนบางส่วนมีหนังสือเดินทางเข้ามาอย่างถูกต้อง บางส่วนไม่มีเอกสารยืนยันตัวบุคคล นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางเป็นกล่องพัสดุและสินค้าจำนวนมากกว่า 3 หมื่นชิ้นจึงได้ทำการตรวจยึดไว้

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.กล่าวว่าจากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ประเภทคดีที่สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนมากที่สุดคือ หลอกขายของออนไลน์ โดยสถิติตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-31 ต.ค. มีการแจ้งความ 3 .5 แสนราย เป็นเรื่องของการหลอกซื้อสินค้า 1.4 แสนราย

จากแนวทางการสืบสวน พบว่าขบวนการนี้มีนายอาเพียว ชาวจีน เป็นผู้เช่า ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัว และจะใช้โกดังเป็นสถานที่แพ็กสินค้าใช้วิธีการเก็บสินค้าไว้ที่โกดัง แต่จะใช้วิธีนำสินค้ามาครั้งละ 3 หมื่นชิ้น เพื่อให้คนงานแพคสินค้าและติดลาเบล ก่อนขนย้ายเพื่อกระจายส่ง โดยเฉลี่ยแล้วในการส่งแต่ละครั้งจะมีการตีคืนพัสดุ 2.5 หมื่นกล่อง ส่งสำเร็จ 5 พันกล่องคิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ มูลค่าความเสียหาย 1 ล้านบาท โดยทำมากว่า 1 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้มีใช้โกดังย่านบางกระดี่ ก่อนย้ายที่ตั้งมาที่โกดังแห่งนี้

พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กล่าวว่า ขบวนการนี้สร้างความเสียหายให้กับประชาชนบางส่วนเข้าใจว่าตนเองไม่ได้สั่งสินค้าอะไรเลย แต่จู่ๆกลับมีสินค้ามาส่งที่บ้าน แต่ก็มีประชาชนบางกลุ่ม ประมาณ 20 เปอร์เซนต์ ที่ไม่เข้าใจไม่ทันระวังก็ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งวิธีการป้องกันมิจฉาชีพเหล่านี้คือ ถ้าเราไม่ได้สั่งสินค้าอะไรก็อย่าไปหลงเชื่อหรือ อีกกรณีถ้าไม่แน่ใจว่าได้สั่งหรือไม่ ให้ใช้วิธีอัดวีดีโอ เพื่อตรวจสอบว่าของตรงกับที่เราสั่งไปหรือไม่ถ้าของตรงตามที่สั่งก็ถือว่าจบ แต่ถ้าไม่ตรงตามที่สั่งก็ให้ส่งหรือตีกลับ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีป้องกันตัวเองที่ดีที่สุด

ส่วนการจับกุมผู้ต้องหาเราแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่1.ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่เฝ้าโกดัง จำนวน 2 ราย ส่วนที่2 คือคนงานที่ทำงานอยู่ภายในโกดังประมาณ 20 กว่าคน ซึ่งจากการตรวจสอบน่าจะไม่มีใบอนุญาตของทำงาน ส่วนจะเป็นต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าที่กำหนดหรือไม่ต้องรอการตรวจสอบพาสปอร์ต ส่วนที่ 3 คือบุคคลตามหมายจับ ซึ่งส่วนนี้ต้องตรวจสอบอีกทีว่าเป็นเจ้าของ หรือรับหน้าที่ในส่วนใดของขบวนการ

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส