ถ้าทำแล้วไม่สุดอย่าเล่น! "นิว วงศกร" ไร้ปัญหาเลิฟซีนทะเลแปร “นาว” ไฟเขียวให้จัดหนัก

พระเอกคนล่าสุดของอมรินทร์ทีวี "นิว วงศกร" ในละครเรื่อง "ทะเลแปร" ละครดราม่าเข้มข้นเรื่องที่สามของอมรินทร์ทีวี เสิร์ฟความสนุกให้คุณผู้ชมในช่วงเดือนแรกต้อนรับปีใหม่ วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ในเรื่องนี้ "นิว วงศกร" รับบทเป็น "จารณ" นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่ถูกเลี้ยงมาแบบเอาแต่ใจ ที่สำคัญเขาเป็นเสือผู้หญิง ที่เห็นภรรยาเป็นแค่เครื่องเชิดหน้าชูตาทางธุรกิจ เรื่องนี้ "นิว วงศกร" ต้องเข้าฉากเลิฟซีนหลายฉากกับนักแสดงหญิงหลายคน ซึ่งต่างจากชีวิตจริงของเจ้าตัวมาก ๆ ที่ออกจะรักและหวานกับแฟนสาวอย่าง "นาว ทิสานาฏ" แบบนี้แล้วการเข้าฉากเลิฟซีน ต้องขออนุญาตกันยังไงเอ่ย แล้วหวานขนาดนี้ขอถามพ้วงไปเลยแล้วกันว่าวี่แววงานแต่งจะมีเมื่อไร

"ทะเลแปรก็เป็นละครเรื่องแรกของผมกับช่องอมรินทร์ทีวี แล้วก็เป็นเรื่องที่สองกับค่าย CHANGE  คือเรื่องแรกที่ร่วมงานกับทาง CHANGE ว่าเราจะได้ร่วมงานกันอีกไหม คือเรื่องแรกมันประสบความสำเร็จมาก ๆ ก็คิดว่าอยากร่วมงานกับที่นี่อีกจังเลย ก็ไม่คิดว่าโอกาสที่สองมันจะมาเร็ว ดีใจมาก ๆ เราก็รีบคว้าโอกาสนั้นไว้ ก็ได้มาเล่นละครเรื่องนี้ครับ" เรื่องแรกประสบความสำเร็จมาก เรื่องนี้เราคาดหวังมากแค่ไหน? "ผลงานที่ผ่านมาของ CHANGE กับ อมรินทร์ทีวี เขาก็การันตีไว้อยู่แล้วว่าเขามีคนดูมีแฟนคลับ กลุ่มที่ติดตามละครของเขาอยู่แล้ว เรารู้สึกว่ากระแสของละครผมเป็นห่วงแค่หน้าที่ของตัวเองว่าเราจะเล่นบทนี้ได้ดีแค่ไหน สุดท้ายคนจะเชื่อในสิ่งที่เราเล่นไหม คนจะยอมรับหรือชอบกับสิ่งที่เราทำหรือเปล่า" บทนี้ไกลตัวเราเองมั้ย ทั้งเจ้าชู้ หลายอย่าง? "ผมเชื่อว่าผู้ชายทุกคนมันมีสัญชาตญาณอยู่ในตัวนะ บางคนควบคุมตัวเองได้ดีมาก บางคนควบคุมตัวเองไม่ได้ หรือบางคนไม่ควบคุมมันเลย มันเป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตของโลกใบนี้ คือมนุษย์ทุกคนมีสัญชาตญาณที่มันอยู่ใต้จิตสำนึก แล้วตัวละครตัวนี้เป็นคนที่ถูกเลี้ยงด้วยความสปอยล์ตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะฉะนั้น การควบคุมสิ่งเหล่านี้มันไม่จำเป็น มันรู้สึกยังไง มันก็แสดงออก สามารถมีความสัมพันธ์กับคนที่ไม่ได้รักได้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ไม่ใช่เพราะความรักครับ เป็นความต้องการ แบบฉันไม่ได้ต้องการรักผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันถึงจะมีความสัมพันธ์กับเขาได้" ชีวิตจริงควบคุมความเจ้าชู้ได้? "ต้องควบคุมให้ได้ครับ ถามว่าเราเจ้าชู้ไหม ไม่นะ พี่เจ้าชู้หรอ" บทค่อนข้างจะเข้มข้น นาวว่าอย่างไรบ้าง? "เขารู้อยู่แล้ว หลัง ๆ ที่ละครติดต่อมาเป็นละครแนวนี้หมด ซึ่งสมัยก่อนเราจะเล่นเป็นพระเอกคนดีมาก ที่ไม่เคยทำผิดพลาดอะไรเลยในชีวิต แต่พอเราได้เจอบทที่มันโตขึ้น มันท้าทายขึ้น มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ทุกคนสามารถทำผิดพลาดในชีวิตได้ ขึ้นอยู่ที่ว่าเขารู้ตัวเร็วแค่ไหน ยอมรับในความผิดไหม แล้วแก้ตัว ปรับปรุงตัวหรือเปล่า นี้ก็เหมือนกัน มีเลิฟซีนเยอะจริง ๆ แล้วมีนักแสดงที่ต้องเข้าฉากด้วยกันหลายคน ผมรู้สึกกังวลนิดหนึ่ง ถามว่าน้องรู้ไหม น้องรู้อยู่แล้วเราก็บอกน้องไว้แล้วว่ามันเป็นอย่างนี้นะ ซึ่งมันเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับที่เราคิดนะ คือน้องเป็นคนชอบดูซีรีส์ฝรั่ง แล้วเวลาพระเอกนางเอกมีเลิฟซีนอยู่ด้วยกัน น้องบอกเขาเชื่อว่าตัวละครรักกันจริง ๆ ไม่รู้สึกติดขัด เขาเลยบอกผมว่าสมมุติว่าพี่นิวมีโอกาสที่จะเล่นเลิฟซีน ต้องทำให้คนเชื่อ ต้องทำให้สุดครับ ถ้าทำแล้ว ทำไม่สุดอย่าเล่น” น้องไฟเขียว ? “ใช่ครับ ไฟเขียว แต่มันขึ้นอยู่กับความเหมาะสมด้วยนะ ด้วยความที่มันเป็นละครทีวี มันก็มีลิมิตของมันอยู่ ผมก็เลยรู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลแล้ว มันขึ้นอยู่กับผู้กำกับ ขึ้นอยู่กับบทประพันธ์ด้วย ก็ผมก็ขึ้นอยู่กับผู้กำกับครับ และความเหมาะสมที่สามารถออนแอร์ได้ในช่วงที่ต้องออนแอร์” พอน้องโอเค เรารู้สึกเกรงใจไหม ? “เกรงใจไหม ถ้าน้องไม่ได้ทำอาชีพนักแสดงเหมือนกัน เราคงรู้สึกมาก แต่พอน้องเป็นนักแสดง เขารู้อยู่แล้วว่าเบื้องหลังการทำงานเป็นยังไง เวลาเข้าฉากเลิฟซีนยังงี้จริง ๆ คือกล้องถ่าย ไม่ได้มีคนสองคนอยู่ในห้อง มีทีมงาน บางทีต่ำกว่าเอวเราไปก็มีคนนั่ง เพราะฉะนั้นเป็นการทำงานจริง ๆ น้องเข้าใจสภาพแวดล้อมของการทำงาน และเขารู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร” ต้องทักไปขออนุญาตทุกเลิฟซีนไหม ? “บอกครับ รู้ว่าวันนี้มีเลิฟซีน ถ้าเลิฟซีนปกติจะไม่ได้บอกอะไร ถ้ามีจูบจริง ผมจะบอกว่าวันนี้มีจูบจริงนะ แค่นี้ เขาก็จะอ่านและรู้แหละ ทางน้องก็เหมือนกัน บอกก่อน ดีกว่ารู้ทีหลัง รู้ทีหลังเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ” ความรักแฮปปี้มาก มีแพลนแต่งงานไหม ? “ยัง เหมือนจะมีใช่ไหม คือยังครับ ผมไม่ได้รู้สึกว่า มันถึงเวลา หรือยังไม่ถึงเวลานะครับ ตัวน้องยังเด็กอยู่ เขายังสนุกกับการทำงาน เขายังไม่พร้อม ผมก็โอเคไม่ได้เร่งรัดอะไร” อย่างตัวเราพร้อมหรือยัง ? “ผมรู้สึกมันไม่มีความพร้อม ถ้าเราไม่เริ่มต้นนะ มันบอกไม่ได้หรอกว่าปีนึง สองปี สามปีพร้อมมันไม่มีตรงนั้น แต่เมื่อถึงวันที่รู้สึกว่ามันใช่แล้ว มันคงมีสิ่งที่บอกเราได้ว่าถึงเวลาแล้ว มันติดขัดอะไร คือ ผมไม่ได้ติดขัดอะไร แต่น้องยังเด็กอยู่ เขายังสนุกกับการทำงาน ซึ่งเราเข้าใจเขาตรงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานในวงการ ผู้ชายไม่เท่าไหร่ แต่ผู้หญิงที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว มันจะถูกมองไปอีกแบบหนึ่ง มันเปลี่ยนไป แล้วเขามีความต้องการที่ทำงานตรงนี้อยู่ ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของกันแหละกัน” อีกกี่ปี ? “นั่นสิ ปีหน้าพี่ก็จะ 30แล้วใช่ไหม (ยิ้ม) ครอบครัวไม่ได้ถาม มีหลานแล้ว” ลุ้นกันไปก่อน ? “ฝากด้วย ผมก็ลุ้นเหมือนกันครับ”