เบนซ์ เปิดหน้าโต้กลับ หญิงลี หนังคนละม้วน เล่าหมดเปลือกตั้งแต่เริ่มแรก จับได้ฝ่ายหญิงไปคุยกับคนเก่า และเคยมีการเอาปืนจ่อหัวจริง
จากกรณีที่ หญิงลี ศรีจุมพล ได้ให้สัมภาษณ์ เรื่องนักร้องลูกทุ่งหญิงมีโลก 2 ใบ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า เรื่องเกิดตั้งแต่วันที่ 16-18 เมษายนที่ผ่านมา ตนได้ขอแยกย้ายกับคู่กรณี ซึ่งเขาก็อาละวาดไม่ยอมไป ตนก็ได้ไปคุยกับแม่ของเขา เขาก็ไม่ยอม อีกทั้งยังถูกคุกคามและใช้ความรุนแรง ตามข่าวตนก็รู้ว่าเป็นตนแต่ยังไม่ได้ออกมาพูดเพราะยังไม่มีหลักฐาน โดยตนได้ไปเห็นโทรศัพท์มือถือเขา เพื่อนผู้หญิงเขาพูดให้เขากอบโกนมาเยอะๆ ซึ่งเขาถ่ายรูปกล้องไปและกล้องก็หายไป ตนเลยไปแจ้งความ โดยมูลค่าความเสียหาย 3 แสน 8 หมื่นกว่าบาท ตนไม่หวังได้คืนแต่ที่ไปแจ้งความนั้นก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง พร้อมกับเผยว่าตนได้แต่งตั้งทีมทนายเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เพื่อให้ดูคดีความต่อไป
ล่าสุดวันที่ 13 ธ.ค.66 รายการข่าว เที่ยงวันทันเหตุการณ์ เบนซ์ หนุ่มที่เคยคบหากับลูกทุ่งสาว ได้เปิดใจว่า วันนี้ผมขอเปิดหน้าพูดเลย ผมบริสุทธ์ใจและ มันไม่ได้เป็นอย่างที่หญิงลีพูดแม้แต่นิดเดียว เนื่องจากว่าผมไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกแล้ว สิ่งที่ผมจะเล่าในวันนี้คือความจริง เนื่องจากก่อนหน้านี้นักข่าวหลายสำนักติดต่อผมมา ผมไม่เคยออกมาพูดเลยเพราะไม่อยากพูดอะไรทั้งสิ้น
ซึ่งเมื่อวานนี้ฝ่ายหญิงออกมาพูดก่อน มีสิ่งที่พาดพิงผมเยอะแยะมากมาย ผมเองรู้สึกไม่ดีเลย ทำให้คนรอบข้างรวมถึงคนที่รู้จักผมมองผมในแง่ลบ ผมนอนไม่ได้เลย จริงๆแล้วไม่อยากเปิดเผยทางสื่อเลยนะและไม่อยากจะออกมาพูดอะไรอีกเลย หากผมจะทำผมทำไปตั้งนานแล้ว แต่เลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลใดๆกับใครเลย แต่วันนี้ครอบครัวเห็นผมถูกหมายเรียกจากตำรวจ ทำให้ตอนนี้แม่ตายายนอนไม่หลับ การที่หญิงลีออกมาพูดแบบนี้เหมือนไปทับถม
เบนซ์ บอกรู้จักกับหญิงลีมาประมาณ 3 ปีแล้ว ผมทำอาชีพฟรีแลนซ์รับถ่ายภาพในวันนั้น จากนั้นเวลาจะผ่านมาไม่ได้เจอกันอีกเลย หลังจากรู้จักกันมา 3 ปีก่อน ต่อมาช่วงปีที่แล้วผมไปเก็บภาพ คอนเสิร์ตบรรยากาศงาน ไปเจอฝ่ายหญิงลี เราก็ยกมือสวัสดีเขา จากนั้นตัวเขาเองก็ให้ผู้จัดการมาบอกว่าให้ไปรอหลังเวทีนะ หลังจากฝ่ายหญิงถ่ายภาพแฟนคลับเสร็จแล้ว ผู้หญิงคนนี้เขาเดินมากอดผม กอดอยู่สักพักหนึ่ง จนผู้จัดการมา สะกิดบอกว่ามันดูไม่ดีแล้วนะ เค้าเลยบอกให้ทางผู้จัดการมาขอเบอร์และขอไลน์ผมเอาไว้
ซึ่งตอนนี้ผมไม่ได้คิดอะไรเลยคิดแค่ว่าเผื่อมีงาน มีคอนเน็คชั่นอะไร ผมก็เลยให้เบอร์และไลน์ทางฝั่งผู้จัดการไป วันรุ่งครึ่งฝ่ายหญิงมีการทักแชตไลน์มาหามาสอบถามว่าผมทำงานอะไร ทำอาชีพอะไร ผมก็เล่าให้ฟังจากนั้นผมก็ถามผมว่าเงินใช้ไหม ผมก็บอกไปว่า พอที่จะประคองตัวได้ครับ
จากนั้นเค้าโอนเงินมาให้ผม 5,000 บาท หลังจากวันนั้นเค้าติดต่อให้ผมไปหาเพื่อจะไปคุยงานเนื่องจากเขาจะต้องขึ้นคอนเสิร์ต พอ ผมไปถึงโรงงานจบเขาก็ชวนผมไปทานข้าวผมก็รู้สึกเอะใจว่าทำไมถึงชวนไปทานข้าวผมก็ไปจากนั้นก็พูดคุยกันมากขึ้น ต่างคนต่างมีใจให้กันและฝ่ายหญิงบอกว่าตามหาคนแบบผมมานานแล้ว การที่ เราได้มาเจอกันถือว่าเป็นพรมลิขิต
จากนั้นเพียง 2-3 วันฝ่ายหญิงได้ชวนผมไปอยู่ที่บ้านกับฝ่ายหญิงไหม ในฐานะคนรักแต่ช่วยเหลือในการทำงานให้ด้วย โดยให้ผมดูแลเรื่องของการขับรถให้ดูแลเรื่องที่พักรวมถึงการเดินทางไปคอนเสิร์ต ฝ่ายหญิงให้เงินเดือนผม 20,000 บาท ซึ่งคน คนในบ้านรวมถึงทีมงานรับรู้ความสัมพันธ์ของคุณกับฝ่ายหญิงทั้งหมด
ตอนนั้นผมรู้อยู่แล้วว่าฝ่ายหญิงเคยมีคนคุยมาก่อนซึ่งผมเองก็ได้สอบถามกับฝ่ายหญิงแล้วว่าฝ่ายผู้ชายคนอื่นที่เคยคบหากันเนี่ยคืออะไรฝ่ายหญิงบอกว่าจบไปแล้ว ผมจึงมั่นใจว่าจะเข้าไปอยู่ในบ้านเขาได้โดยที่ไม่ต้องปิดบังอะไรกัน ผมก็ไปอยู่แล้วจะได้คบหากันสักพักหนึ่ง
มีอยู่วันหนึ่งฝ่ายหญิงเดินทางไปเที่ยวรีสอร์ทบ่อยมากผมจึงเกิดความสงสัยทำไมต้องไปรีสอร์ทรีสอร์ทอยู่ที่บุรีรัมย์ไปบ่อยมาก ฝ่ายหญิงบอกว่าไปเคลียร์ปัญหากับคนเก่า สาเหตุที่ไปเพราะเรื่องของการทำงาน ซึ่งตอนนั้นผมยอมรับหึงหวงจริงๆนะ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะผมไม่มีหลักฐานอะไรเลย จากนั้นมีปากเสียงกันทะเลาะกันมาตลอด
หลังจากฝ่ายหญิงก็บินกลับมาที่กรุงเทพผมไปรอรับเขา ฝ่ายหญิงบอกว่าวันนี้เราไม่เข้าบ้านดีกว่าไปนอนที่บ้านของคนสนิทของเขา ผมเองกับเขาก็ไปนอนที่บ้านของคนสนิทได้หนึ่งคืน ตื่นเช้ามาฝ่ายหญิงทำท่ากังวลใจ ผมก็เลยถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เขาก็เลยบอกว่าไม่เป็นอะไร วันรุ่งขึ้นเขามีการคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องนานถึง 2 ชั่วโมง ผมก็ไม่ได้เข้าไปรบกวนอะไรสักพักเขาเดินออกมาหน้าตาตื่นแล้วก็บอกว่าผู้ชายคนหนึ่งจะเข้ามานะค่อยๆคุยนะใจเย็นๆ
ผมก็บอกไปว่าผมไม่อยากจะมีปัญหาคุณบอกว่าคุณเคลียร์ไปแล้วคุณก็ต้องเป็นคนไปคุยเอง หลังจากนั้นฝ่ายชาย(ไม้)มาถึงบ้านตนเองก็อยู่ในบ้านด้วย ก็เลยมีปากเสียงมีการปะทะคารมกันอีกฝ่ายพูดขึ้นมาว่ามึงจะหยุดไหมถ้าไม่หยุดเดี๋ยวกูจะหยุดเล่นเองแล้วก็ชักปืนขึ้นมาจ่อที่หัวผมหลังจากนั้นเจ้าของบ้านโทรศัพท์ไปหาตำรวจตำรวจมาฝ่ายชายเอาปืนไปแอบบนบ้านพอตำรวจไปคุณก็พบปืนพร้อมกระสุนเต็มแม็กซ์
สาเหตุที่ผมไม่ดำเนินคดีเนื่องจากตอนนั้นฝ่ายหญิงขอร้องเอาไว้ หลังจากวันนั้นผมก็จับได้ว่าฝ่ายหญิงไปคุยกับผู้ชายคนเก่า ในทำนองว่าให้ฝ่ายชายรกำลังเคลียร์กับผมอยู่ แต่สิ่งที่ฝ่ายหญิงคุยกับผมบอกว่าเคลียร์กันไปแล้ว ทำให้ผมรับไม่ได้และตกลงกันว่าผมจะออกจากบ้านไปวันที่ 19 เมษายน
แต่สุดท้ายผมอยู่บ้านหลังนั้นไม่ได้ มันรู้สึกอึดอัดและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นผมตัดสินใจออกจากบ้านมาในวันที่ 16 เมษายน ฝ่ายหญิงเข้ามาถามผมบอกว่าทำไมผมรีบไปทำไมไม่อยู่เก็บเกี่ยวความสุขขึ้นก่อนแต่ผมบอกว่าไม่แล้วผมรู้สึกอึดอัด
หลังจากนั้นฝ่ายหญิงบอกให้เอาโทรศัพท์ของผมไปให้เขา ซึ่งผมไม่ยอมให้ฝ่ายหญิงจึงเรียกคนในบ้านออกมาผมเห็นว่าไม่ปลอดภัยผมให้หยิบโทรศัพท์มือถือมาไลฟ์เอาไว้ แต่ไม่ได้ต้องการจะเสียอะไร ยืนยันที่ทำไปเป็นการปกป้องตัวเองเพราะฝ่ายหญิงเรียกคนมาหลายคนกลัวจะไม่ปลอดภัย
ขณะเดียวกันเขาก็ให้คนในบ้านสองคนมาทำร้ายผมมาทุบผมที่ท้ายทอยแล้วก็แย่งโทรศัพท์มือถือไปจากนั้นฝ่ายหญิงไปแจ้งความผมในข้อหาผมบุกรุกบ้านเขาทั้งที่ผมเองพยายามจะออกมา แต่กลับกลายเป็นว่าถูกฝ่ายหญิงแจ้งว่าบุกรุก และผมอยู่บ้านหลังนั้นมาหลายเดือน
ส่วนเรื่องกล้องที่หายไปฝ่ายหญิงบอกว่าผมถ่ายรูปเก็บเอาไว้แสดงว่าผมต้องเป็นคนขโมย แต่ฝ่ายหญิงเคยบอกผมว่ากล้องวิดีโอทั้งหลายทำให้ใช้งานสามารถเอาไปปล่อยเช่าหารายได้ได้เลยนะ ซึ่งบางทีผมก็นำกล้องไปปล่อยเช่านะแต่สาเหตุที่กล้องหายไปผมไม่ทราบจริงๆ และยืนยันว่าผมไม่ได้เป็าคนเอาไป ก่อนหน้านั้นผมเคยบอกกับฝ่ายหญิงไปแล้วกล้องหายแบบนี้ไปแจ้งความเลยนะ ยังไงก็ต้องแจ้งความ เพราะคนในบ้านเดินเข้าออกหลายตัวหลายคนไม่รู้ใครเอาไป ให้ไปแจ้งความเอาไว้ก่อน แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมไปแจ้ง แต่พอเวลามีปัญหากันกลับมาบอกว่าผมเป็นคนเอากรงไป ถ้าหญิงลีมีหลักฐานว่าผมออกลงไปเอามาจับผมได้เลย ผมยินดีให้จับ
ส่วนข้อความที่หญิงลีบอกเห็นในโทรศัพท์ให้กอบโกยได้กอบโกยไป เบนซ์ ได้ชี้แจงว่าเป็นแชทที่ผมแต่เป็นประเด็นที่ผมคุยกับแฟนเก่า แล้วแฟนเก่าผมเหมือนประชดผมมาว่าเป็นแมงดา กอบโกยอะไรได้ก็กอบโกยไปเลย และมีหลักฐานทั้งหมดที่คุยกัน