ฆ่าโหด 2 เด็กปั้ม ฟันหัวกะโหลกเปิดสมองกระจาย อีกรายจ่อยิงท้ายทอย

สุดโหดฆ่า 2 เด็กปั้ม ฟันหัวกะโหลกเปิดสมองกระจาย อีกรายจ่อยิงสาวทะลุท้ายทอย ตร.ตั้ง 4 ปมประเด็นสยอง เช็กกล้องวงจรปิดล่าฆาตกร 

เมื่อเวลา 22.15 น. วันที่ 29 ธ.ค. 66 ร.ต.อ.พิชานน ปลื้มสุด รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุฆ่ากัน มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ที่หน้าออฟฟิศสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม จึงประสานแพทย์ รพ.นครพนมเดินทางไปพร้อมกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม พ.ต.อ.(หญิง) จีรนันท์ธ นะสิงห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐานฯชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม และชุดสืบสวนภ.จว.นครพนมกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม กู้ภัยศรีสัตตนครพนม รถกู้ชีพอบต.บ้านผึ้ง 

ปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุตั้งริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 สายสกลนคร-นครพนมฝั่งขาออกตัวเมืองพบศพ นายพรหมจัก สีพาสุข  หรือเซล อายุ 33 ปี พนักงานปั๊มเป็นชาวลาว แขวงบอลิคำไซย สปป.ลาว นอนตะแคงซ้ายในสภาพสวมกางเกงลายขาสั้นเพียงตัวเดียว เสียชีวิตอยู่หน้าออฟฟิศ สภาพศพคล้ายถูกมีคมฟันที่ศีรษะกะโหลกเปิดออกไปทั้งแถบ มันสมองกระจายเกลื่อนพื้นเคียง ข้างกันพบศพ น.ส.วิชุดา ศรีสุมังค์ หรือ นัน อายุ 50 ปี พนักงานปั๊มด้วยกัน เป็นชาวบ้านดอนม่วง หมู่ 9 ต.บ้านผึ้ง สภาพนอนหงายขายังคร่อมรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดที่แก้มทะลุท้ายทอย 1 นัด บริเวณใกล้เคียงยังพบเศษกะโหลกชิ้นเนื้อตกเกลื่อนลานปั๊ม เจ้าหน้าที่ต้องกั้นบริเวณดังกล่าวไว้ 

สอบถามนางสุพิรม สีพาสุข น้องสาวของนายพรหมจัก ผู้ตายให้การว่า หลังตนเลิกจากทำงานที่ปั๊มน้ำมันอีกแห่ง ตั้งอยู่ปากทางเข้าบ้านนามูลฮิ้น ต.นาทราย ในช่วงเวลา 4ทุ่มก็จะขับรถจักรยานยนต์ เพื่อจะมานอนที่ออฟฟิศกับพี่ชาย แต่มาพบเห็นศพทั้งคู่นอนอยู่ใกล้กัน โดยประตูออฟฟิศยังเปิดอ้า ไฟก็สว่างจ้า รู้สึกตกใจและกลัวมาก จึงโทรศัพท์ไปแจ้งนายจ้าง ก่อนที่จะโทรแจ้งศูนย์วิทยุ 191 ให้มาตรวจสอบ 

ด้านนายชาตรี หม่อมบ่าว อายุ 61 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมัน กล่าวว่า ปั๊มแห่งนี้เปิดมา 4 ปี มีลูกจ้าง 4 คน เป็นคนไทย เป็นหญิง 3 คน รวม น.ส.วิชุดา ผู้ตาย แบ่งทำงาน 2 กะ กะละ 2 คน เปิดปั๊มตอน 05.00 น. และปิดบริการ 21.00 น. ทุกวัน โดยนายพรหมจักผู้ตายเป็นหลานภรรยาจะเข้ากะช่วงเย็น คือ 15.00 น. ถึงช่วงค่ำ โดยทุกวันจะให้ลูกชายหรือภรรยามาเก็บเงินได้กะละประมาณ 40,000 บาท 

ส่วนกะค่ำนายพรหมจักจะเก็บเงินให้ครั้งละ 30,000-40,000 บาท โดยช่วง 4 ทุ่มของทุกวัน นางสุพิรมน้องสาวผู้ตายจะมานอนที่ปั๊มแห่งนี้ด้วย มาพบทั้งคู่นอนเสียชีวิตใกล้กันจึงได้แจ้งให้ตนทราบ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่ทราบต้องรอให้เจ้าหน้าที่สอบสวนเสียก่อน 

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นพบว่า ในบริเวณปั๊มมีกล้องวงจรปิด 13 ตัว แต่ปลั๊กเซิฟเวอร์กล้องวงจรปิดถูกดึงออกบนโต๊ะในออฟฟิศ พบเงินเก็บค่าน้ำมันราว 30,000 บาท อยู่ในกระเป๋าคาดเอวนายพรหมจักผู้ตาย และก่อนที่ น.ส.วิชุดาหรือนัน จะเสียชีวิต มีสายโทรศัพท์เข้ามา ตำรวจอยู่ระหว่างเช็กสายที่โทรเข้าและตรวจสอบกล้องวงจรปิดช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสเชื่อมโยงฆาตกรรมโหดครั้งนี้ 

ขณะที่ญาติ น.ส.วิชุดา หรือนัน กล่าวว่า ผู้ตายได้หย่าร้างกับสามีมานานกว่า 20 ปี มีบุตร 1 คน และแยกไปมีครอบครัวแล้ว เบื้องต้นตำรวจตั้งปมสังหารอาจเป็นเรื่องชู้สาว หรือขัดผลประโยชน์โกรธแค้นส่วนตัว หรือเรื่องหนี้สิน ซึ่งจะได้สืบสวนสอบหาตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญมาดำเนินคดีต่อไป