เจ้าของปั๊ม เปิดปมก่อนเด็กปั๊มถูกฆ่าโหด 2 ศพ มีคนขับรถกู้ชีพ อบต.โทร.ข่มขู่ คาดเรื่องบิลน้ำมันผี ก่อนเกิดเหตุสยอง
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุใช้ของแข็งทุบศีรษะ นายพรหมจัก สีพาสุข หรือเซล อายุ 33 ปี ชาวลาว หลานชายภรรยาเจ้าของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม และใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดจ่อยิง น.ส.วิชุดา ศรีสุมังค์ อายุ 50 ปี พนักงานปั๊มน้ำมันเสียชีวิตเหตุ เกิดเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 29 ธ.ค. 66ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันที่ 30 ธ.ค. 66 นายชาตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมัน เปิดเผยว่า ปั๊มนี้เปิดมาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว โดยเปิดให้บริการตั้งแต่ตีห้าและปิดให้บริการ3ทุ่มทุกวัน หลังปิดปั๊ม น.ส.วิชุดาจะกลับเข้าบ้าน ที่บ.ดอนม่วงตามปกติ รถจักรยานยนต์จะจอดอยู่โรงจอดรถที่หน้าปั๊ม แต่ตอนเกิดเหตุกลับมาพบว่ารถมาจอดหน้าออฟฟิศ ซึ่งล้มคว่ำ หัวของรถมีลักษณะหันหน้าเข้าปั๊ม นอนตายกองกัน
ขณะที่ผู้ตายขา 2 ข้างยังเกี่ยวพาดที่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายเอง ซึ่งตนคิดว่าหลังเลิกงานแล้วนางวิชุดากำลังจะขับขี่รถกลับบ้าน แต่คงเห็นเหตุการณ์ผิดปกติที่ออฟฟิศจึงขี่รถจักรยานยนต์มาดูจนถูกยิงเสียชีวิตอีกราย ซึ่งเหตุการณ์จะเกิดหลังสามทุ่ม เป็นเวลาปิดปั๊มแล้ว เนื่องจากการแต่งตัวของนายพรหมจัก ผู้ตายถอดเสื้อจะอาบน้ำ นุ่งแต่กางเกงบ๊อกเซอร์ ปกติขณะปฏิบัติหน้าที่จะแต่งตัวชุดพนักงานของปั๊มและหลังตรวจสอบในปั๊มไม่มีทรัพย์สินอะไรสูญหายไป ตลอดจนไม่มีร่องรอยการรื้อค้นแต่อย่างใด เงินขายน้ำมันกะค่ำถึงดึก 30,000 กว่าบาทที่นายพรหมจัก เก็บรักษาไว้ในกระเป๋าสะพายยังอยู่ครบโดยพบถูกวางไว้ที่โต๊ะในออฟฟิศ
นายชาตรี กล่าวต่อว่า เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา มีพนักงานอบต.แห่งหนึ่ง ทำงานเป็นคนขับรถกู้ชีพได้โทรศัพท์มาหาตนบอกว่า “ผมเดือดร้อนแล้ว ตอนนี้ทางอบต.เล่นงานผมแล้ว” ซึ่งพนักงานอบต.คนนี้บอกว่าถูกตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องบิลน้ำมันที่เบิกจ่ายเกินผิดปกติ ซึ่งนายนายพรหมจัก ผู้ตายจะทำหน้าที่เติมน้ำมันและเขียนบิลให้คนขับรถกู้ชีพ อบต.แห่งนี้ทุกครั้ง
โดยปกติในการเติมน้ำมันให้กับรถที่มีเครดิตกับทางปั๊มนั้นจะมีการเขียนใบสั่งเติมน้ำมันให้คนขับรถนำมาเติมตามจำนวนที่เขียนมา แต่บางครั้งเติมเต็มก่อนจำนวนที่เขียนมาคนขับรถมักจะขอให้ทอนเป็นเงินสดคืนให้ตามจำนวนที่ขาดไป เช่นคนขับรถนำบิลมาเติมน้ำมันในบิลระบุไว้ 1,500 บาท แต่พอเติมได้เพียง 1,200 ก็เต็มถังแล้วแทนที่จะแก้บิลให้เป็น 1,200 บาท คนขับรถกลับให้เด็กปั๊มทอนเป็นเงินสด 300 บาทให้แทน ซึ่งเรื่องนี้ตนได้กำชับเด็ดขาดว่า ถึงแม้บิลสั่งเติมจะเขียนมาเท่าไหร่หากเติมเต็มถังก่อนก็ให้แก้ไขตัวเลขให้เท่ากับยอดเงินตามมิเตอร์ที่ได้เติมไปจริง ห้ามทอนคืนเป็นเงินสดเด็ดขาด เนื่องจากตนทราบมาว่าบางครั้งรถที่นำใบสั่งมาเติมน้ำมันในถังยังเหลือเยอะอยู่ แต่มีการซิกแซกเอาบิลน้ำมันทำทีมาเติมน้ำมันแล้วขอรับเป็นเงินสดจากเด็กปั๊มแทน ซึ่งตนไม่ทราบเหมือนว่ากรณีคนขับรถกู้ชีพรายนี้ที่ถูกตั้งกรรมการสอบเป็นเรื่องดังกล่าวหรือไม่
แต่คนขับรถกู้ชีพอบต.รายนี้ได้โทรศัพท์มาหาตนในลักษณะฝากข่มขู่นายพรหมจัก ที่เป็นผู้เติมน้ำมันโดยบอกกำชับว่า “ให้ดูแลลูกน้องดีๆ หน่อยและอย่าสร้างความเดือดร้อนให้ผมอีก” เจ้าของปั๊มน้ำมันกล่าว
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่าก่อนที่นายพรหมจัก จะเสียชีวิตช่วง 2 ทุ่มครึ่ง ผู้ตายยังทักไลน์ครั้งสุดท้ายคุยกับญาติคนหนึ่งว่า “มีคนใจดีเอาเบียร์มาให้กิน 2 ขวด” แต่ในที่เกิดเหตุไม่พบขวดเบียร์ คาดว่าผู้ตายน่าจะเก็บไว้ในตู้เย็น แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ
ขณะที่กล้องวงจรปิด 1 ใน 16 ตัว พบว่ามีกล้องวงจรปิดที่หันไปทางด้านหน้าออฟฟิศจุดพบศพนั้นพบว่ามีรังต่อขนาดใหญ่มาทำรังปิดกล้องจนมิด
สำหรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่รพ.ศรีนครินทร์จ.ขอนแก่น เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงประกอบในสำนวนคดีพร้อมเรียกพยานแวดล้อมมาสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียด เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายจอมโหดรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญในพื้นที่