อาหารติดคอ ข้าวติดคอ อุบัติเหตุจากการรับประทานอาหารที่พบได้บ่อย แนะ 8 วิธีป้องกัน และวิธีปฐมพยาบาลเมื่อประสบเหตุ
รู้หรือไม่แค่ อาหารติดคอ สามารถเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้ และย้อนไปเมื่อ 10 มิถุนายน 2565 จากกรณีเน็ตไอดอลชื่อดัง ประสบเหตุการณ์เศษอาหารติดหลอดลม ส่งผลให้ขาดอากาศหายใจ จนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา เป็นเวลานานกว่า 3 เดือน ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
อุบัติเหตุจากการรับประทานอาหาร หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดกั้นทางเดินหายใจ ทางเดินอาหารเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยและตลอดเวลา โดยเฉพาะในเด็กเล็ก เช่น กระดุม เหรียญ น็อต ลูกอม ติดคอ สำหรับในกลุ่มผู้ใหญ่มักเกิดจาก การกินอาหารชิ้นใหญ่ หรือเคี้ยวไม่ละเอียด จึงเกิดการติดคอ และปิดกั้นหลอดลม จนขาดอากาศหายใจได้
เมื่อพบเด็กหรือผู้ใหญ่มีอาการสำลัก หรือสิ่งแปลกปลอมติดคอ ถ้ายังไอแรง ๆ ได้ พูดได้ และหายใจเป็นปกติ ไม่ต้องทำอะไร แต่ควรรีบนำผู้ป่วยไปหาหมอทันที อย่าพยายามใช้นิ้วล้วงคอ เพื่อเอาสิ่งแปลกปลอมออก เพราะอาจดันสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดกั้นทางเดินหายใจ จนเกิดอันตรายได้
ส่วนกรณีรุนแรง หายใจไม่ได้ ไอไม่ได้ หรือผู้ป่วยหมดสติ ให้แจ้ง 1669 และรีบปฐมพยาบาล โดยให้ผู้ช่วยปฐมพยาบาลยืนด้านหลังผู้ป่วย โอบรอบใต้รักแร้ มือข้างหนึ่งกำ โดยหันกำปั้นด้านนิ้วหัวแม่มือเข้าไปด้านในหน้าท้องผู้ป่วย แล้ววางไว้ เหนือบริเวณสะดือแต่ใต้ลิ้นปี่ มืออีกข้างโอบกำปั้นไว้ และรัดกระตุกที่หน้าท้องขึ้นและเข้าพร้อม ๆ กัน แรง ๆ จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออก หรือจนกว่าผู้ป่วยจะพูดหรือร้องออกมาได้ จากนั้นนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที
การป้องกันอาหารติดคอขณะกินอาหาร มีวิธีการปฏิบัติ ดังนี้
- นั่งตัวตรงขณะกินอาหาร และหลังกินเสร็จห้ามนอนทันที ควรนั่งพักหรือเดินย่อยสัก 15 - 20 นาที
- กินอาหารช้า ๆ เคี้ยวให้ละเอียด
- อย่ากินอาหารขณะเหนื่อยหรือรีบเร่ง ควรพักก่อนสัก 30 นาที
- อาหารที่กินควรแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือพอดีคำ ไม่ใหญ่เกินไป
- ลดสิ่งรบกวนขณะกินอาหาร เช่น การพูดคุย การเดิน
- กินอาหารคำละ 1 ชนิด อาหารที่มีเนื้อสัตว์หลากหลายชนิดใน 1 คำ อาจสำลักได้ง่าย
- ควรกินอาหารสลับกัน เช่น อาหารที่บดเคี้ยว สลับกับอาหารเหลว เพื่อให้กลืนอาหารง่ายไม่ฝืดคอ และ
- หากอาหารที่กินแข็งหรือแห้งเกินไป ควรมีน้ำซอสหรือน้ำซุปช่วยให้เนื้ออาหารชุ่มและนุ่มขึ้น