คดีพลิก จับ 5 โจ๋ฆ่าสาวใหญ่ทิ้งสระน้ำ ไม่ใช่ฝีมือลุงเปี๊ยกสามีขี้เมา

14 ม.ค. 67

คดีพลิกหลักฐานกล้องวงจรปิดมัดตัว 5โจ๋ ก่อคดีฆ่าสาวใหญ่ทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียน ไม่ใช่ฝีมือลุงเปี๊ยกสามี แต่ที่รับสารภาพไปก่อนหน้านี้เพราะเมา

เมื่อเวลา12.00 น.วันที่ 14 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพบ ศพ น.ส.บัวผัน ตันสุ อายุ 47 ปี ถูกฆ่าทิ้งสระน้ำ จ.สระแก้ว เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายเป็นหญิงสติไม่ดี เดินเร่ร่อนในบริเวณละแวกใกล้กับบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นประจำ และเชื่อว่าน่าจะถูกฆาตกรรม โดยพนักงานสอบสวนได้ส่งศพไปตรวจชันสูตร ที่รพ.อรัญประเทศ และ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จ.ปราจีนบุรี เพื่อผ่าชันสูตรเพิ่มเติม พร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ

ล่าสุด พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ ได้ชี้แจงกรณีดังกล่า ระบุว่า วันที่ 12 ม.ค.2567 เวลา 15.34  นายปัญญา คงแสนคำ อายุ 54 ปี หรือเปี๊ยก สามีผู้ตาย มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่าง กาย น.ส.บัวผัน จนถึงแก่ชีวิต โดยให้การเป็นฉาก เป็นตอน และนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดต่างๆด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำรายงานสืบสวนและนำตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดสระแก้ว ในวันเสาร์ที่ 13 ม.ค.67

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นใน คดีนี้ สภ.อรัญประเทศยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายปัญญา จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนทำการแสวงหาข้อเท็จจริง ปรากฎพยานหลักฐานใหม่ในคดีดังนี้

1.ไม่พบว่านายปัญญา หรือ เปี๊ยก ปรากฏตัวในไทม์ไลน์ที่เกิดเหตุตามที่กล่าวอ้าง

2.ปรากฏภาพจากล้องวงจรปิดผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.บัวผัน เป็นกลุ่มเยาวชนจำนวน 5 คน จึงสืบสวนจนทราบตัวผู้กระทำผิดและตำรวจสามารถเข้าจับกุมตัวได้แล้วทั้้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 13-16 ปี ประกอบด้วย 1.นายบิ๊ก อายุ 16 ปี ,2.ด.ช.โก๊ะอายุ 14 ปี, 3.ด.ช.เชน อายุ 14 ปี ,4.ด.ช.กัส อายุ 13 ปี และ 5 ด.ช.แบงค์ อายุ 13 ปี โดยทั้งหมดใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ในการก่อเหตุ

สำหรับพฤติการณ์ในคดีพบว่าเวลาประมาณ 22.00 น.ของวันที่ 10 ม.ค.67 ถึงเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 11 ม.ค.67 วันเกิดเหตุกลุ่มเยาวชนผู้ก่อเหตุนั่งรวมกลุ่มกัน ที่บริเวณริมขอบสระภายในเทศบาลเมืองอรัญประเทศ มีสองคนในกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าไปแหย่ น.ส.บัวผัน ผู้ตาย ซึ่งมีลักษณะเป็นบุคคลเร่ร่อนสติไม่ค่อยดี และติดสุราเรื้อรัง ซึ่งนั่งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ทำให้ผู้ตายเอะอะโวยวายและปาขวดใส่หัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ

กระทั่งเวลาประมาณ 02.00น.ของวันที่ 11 ม.ค.67 กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขี่รถมาพบผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวก ห่างจากจุดเดิมประมาณ 800 เมตร กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงลงจากรถหลอกล่อให้ผู้ตายเดินไปหา แต่ผู้ตายไม่ยอมเดินไป กระทั่งคนร้ายอีกคนเดินเข้าไปหาผู้ตาย แล้วเตะเข้าที่บริเวณใบหน้าของผู้ตาย เป็นเหตุให้ผู้ตายหงายหลัง และนั่งร้องไห้อยู่บริเวณดังกล่าว จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้อุ้มผู้ตายขึ้นรถจักรยานยนต์ แต่ผู้ตายดิ้นรนจนตกหล่นจากรถ กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงขี่รถออกไปและวนกลับมาบังคับ อุ้มผู้ตายขึ้นรถอีกครั้ง จนสำเร็จมุ่งหน้าไปทางโรงเรียนศรีอรัญโญทัย

ต่อมาเวลา ประมาณ 02.40 น.กลุ่มผู้ก่อเหตุปรากฎตัวที่ร้านล้างรถหยอดเหรียญ ก่อนถึงเมกาโฮมอรัญประเทศ ห่างจากโรงเรียนศรีอรัญโญทัยประมาณ 2 กม.เพื่อล้างรถที่ใช้ก่อเหตุ จนถึงเวลาประมาณ 03.00 น.ห่างจากโรงเรียนศรีอรัญโญทัย ประมาณ 2.5 กม. พบกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ

ซึ่งจากการตรวจสอบพยานหลักฐานดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จึงสืบสวนจนทราบชื่อและนามสกุลที่อยู่ของเด็กวัยรุ่นผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน ตำรวจได้เชิญตัวมาที่ สภ.อรัญประเทศ เพื่อซักถามข้อมูลมูลเบื้องต้นต่อหน้าผู้ปกครองเยาวชนทั้งหมด และให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ทำร้าย น.ส.บัวผัน จริง โดยมูลเหตุในการกระทำในครั้งนี้วัยรุ่นทั้ง 5 คน ให้การว่าทำไปเพราะตามเพื่อน

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ผกก.สภ.อรัญประเทศ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นอีก โดยทางพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้นัดทีมสหวิชาชีพเพื่อทำการสอบปากคำกลุ่มเยาวชนผู้ก่อเหตุในวันจันทร์ที่ 15 ม.ค.67 เวลาประมาณ 09.00 น.ซึ่งภายหลังมีการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5 รายได้แล้ว มีทีมสื่อมวลชนจำนวนมากทั้งส่วนกลางและภูมิภาคลงพื้นที่เพื่อติดตามรายงานข่าวกรณีนี้อย่างต่อเนื่อง.

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส