วงการหมอดูสั่นสะเทือน ! ปมดราม่าปีชง ล่าสุดหมอดูชื่อดัง “หมอช้าง ทศพร” เผยมุมมองส่วนตัว ตอบชัดในตำราปีชงมันมีอยู่จริงไหม
โดย วันที่ 17 มกราคม 2567 “หมอช้าง ทศพร” ได้มาร่วมงานฉลองตรุษจีน รับปีมังกร และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า "สำหรับผมเองล่ะกันนะ ถ้าใครไปดูย้อนหลังในช่วง 5 ปี ผมแทบไม่ลงเรื่องปีชงเลย เหตุผลคือ มันจะมีกระแสชงช่วง 3-4 ปี คนมาบ่นกับผมว่า โหอาจารย์ปีที่แล้วเพิ่งชง ปีนี้ยังชงอีก ชงจนเมื้อยมือเลย ทำไมมันชงบ่อยแบบนี้ ซึ่งมันเป็นความเข้าใจผิดและมันเป็นกระแสที่เกิดขึ้น เราเองคนเดียว ไปเปลี่ยนเรื่องนั้นลำบาก ก็เลยแก้ปัญหาด้วยการไม่พูดเรื่องนั้นเลย ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา"
"ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า โดยหลักการ ชงมันมีแค่ปีเดียว และจะเกิดขึ้นกับเรา ทุก 12 ปี เกิดขึ้นกับเรา 1 ครั้ง และจะแบ่งเป็นชง 25% 50 % ไม่ได้ เพราะไม่ได้ชงชาไข่มุก ก็ต้องย้ำว่า ที่สำคัญไม่ใช่ไม่ดี เพราะถ้าไม่ดีต้องใช้คำว่า ปีซวย คำว่า ชง หมายถึง การเปลี่ยนแปลง มีสิทธิ์ที่จะดีหรือไม่ดีก็ได้"
"ถามว่าในตำราปีชงมันมีอยู่จริงไหม แต่ละคนมันมองไม่เหมือนกันหรอก ในโหราศาสตร์จีน มันเป็นทฤษฎีโหราศาสตร์จีน เป็นความเชื่อของศาสนาเต๋า แต่ผูกพันกับศาสนาพุทธในแบบมหายาน เราจะเห็นได้ตามวัดต่างๆ"
"ซึ่งเทพที่เห็น ก็ไม่ใช่เทพปีชง แต่เป็นเทพที่เกี่ยวกับดวงชะตา เหมือนบ้านเรามีไหว้สวดนพเคราะห์ ก็คือ ดางดาวทั้ง 9 ดวง จีนเขาก็จะมี "ไท้ส่วยเอี้ย" ซึ่งเป็นเทพคุ้มครองดวงชะตา บางคนเข้าใจก็ไปเรียกทับศัพท์ว่า เทพปีชง"
"บางคนก็มาบ่นกับผมว่า ไปแก้ชงโดนไปหลายพัน อันนั้นคุณชงของจริงแล้ว (หัวเราะ) คือโดยหลักการ จริงๆ มันคือการสวดมนต์ ไหว้พระ ทำบุญ และของจีนคือการไหว้บรรพบุรุษ คนจีนเชื่อคนกตัญญูจะเจริญรุ่งเรือง การไหว้เจ้า คนกตัญญูไม่ว่าจะเกิดปีไหนก็จะเจริญก้าวหน้า"
"จะเรียกแก้ชงไม่ได้ด้วย เพราะถ้าชงแล้วดีไปแก้ก็จะกลายเป็นร้าย แต่ที่บอกว่าอันนี้เป็นคำศัพท์ของสำนักอื่นๆ เราก็ไม่ไปเปิดสงครามกันนะ ในเชิงของผมนะ ผมมองว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเฉยๆ และการดูดวงจริงๆ มันดูแค่ปีไม่ได้ ไม่งั้นมันจะมี วันที่เกิด เดือนเกิดมาเพื่ออะไร ถ้าไปดูแค่ปี แล้วคนเกิดปีหนึ่งก็มีเยอะแยะ แต่ถ้ามีคนถามคนเกิดปีนี้จะเป็นยังไง ในการพยากรณ์เขาก็ต้องพยากรณ์ในเชิงภาพที่ทุกคนจะเสพได้"
"สุดท้ายแล้วมันก็คือศาสตร์หนึ่ง เราไม่ได้แก้ปีชงชีวิตเราไม่ได้จะชิบหา* (หัวเราะ) ไม่แก้ก็ไม่ได้แย่ มันยังมีศาสตร์อื่นๆ อีก แต่ที่สำคัญคือ ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ ต้องไปศึกษา ถ้ามีหลักการมีเหตุผล และไม่เดือดร้อนกับทรัพย์สินของเรา"
