"ปีเตอร์ คอร์ป" เล่าโมเมนต์รักครั้งใหม่ขอแต่งงานแล้ว อยากให้เป็นรักครั้งสุดท้าย

19 ม.ค. 67

คลั่งรักหนักมาก ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล เล่าโมเมนต์หวานรักครั้งใหม่ขอแต่งงานแล้ว ลั่น! อยากให้เป็นรักครั้งสุดท้าย พร้อมเตรียมมีลูกเพิ่ม


นักร้องนักแสดงหนุ่ม ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ที่ตอนนี้คลั่งรักหนักมาก ล่าสุดออกมาเล่าโมเม้นท์หวานๆ กับแฟนสาวนอกวงการที่ไม่ยอมเปิดหน้าออกสื่อให้เห็นแถมตอนนี้ยังหมั้นกันแล้วอีกด้วย ? ลั่นความรักครั้งนี้อยากให้เป็นรักครั้งสุดท้าย เผยเตรียมมีลูกเพิ่ม !! ทุกประเด็นในรายการ คุยแซ่บshow 

ปีเตอร์ คอร์ป

พี่เตอร์หมั้นแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วย?
ปีเตอร์ : ขอบคุณครับ

ทำไมไม่เปิดหน้าแฟนสักที?
ปีเตอร์ : จริงๆ แฟนเขาเป็นคนนอกวงการ อยากให้เกียรติเขา เขาทำหลายอย่าง เป็นนักธุรกิจ จริงๆ เรารู้อยู่แล้วการที่จะเปิดหน้า เปิดตัว ถ้ามันดี มันก็ดีไป แต่ความวุ่นวายมันก็จะเข้ามาได้ง่ายๆ เหมือนกัน ซึ่งเขาก็อาจจะไม่ได้เตรียมพร้อมการรับมือสิ่งเหล่านี้ เลยมีความรู้สึกว่าอยากให้เกียรติเขา ให้ความเป็นส่วนตัวเขา แล้วรูปก่อนหน้านี้ผมลงแล้วเป็นสติ๊กเกอร์แปะหน้า แล้วทุกคนก็บ่นว่าทำไมต้องแปะสติ๊กเกอร์ ผมก็เลยเอาใจแฟนคลับโอเค ไม่แปะสติ๊กเกอร์ก็ได้

ปีเตอร์ คอร์ป

แสดงว่าไปข้างนอกก็เปิดตัวปกติ?
ปีเตอร์ : จริงๆ ไม่ได้ปิดบัง ไม่ได้หลบซ่อนอะไร ไปเดินห้างก็เดินจับมือปกติ

ตอนนี้คนเลยเรียกแฟนพี่ว่าน้องคิตตี้ไปแล้ว?
ปีเตอร์ : ใช่ครับ เขาเป็นคนที่ชอบฮัลคิตตี้ มีความมุ้งมิ้งสูงเหมือนกัน แต่จริงๆ เป็นสาวมุ่งมั่น แข็งแกร่ง เขาจบจากอเมริกาแล้วมีธุรกิจของตัวเอง

ล่าสุดไปทริปไหนกันมา?
ปีเตอร์ : ไปเชียงราย ผมไปช่วยโครงการหนึ่งทำการกุศล จัดคอนเสิร์ต เอาเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ศิลปินมาช่วยร้องเพลง ได้รวบรวมทุน 2 ล้านกว่าบาทไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ทริปนี้ไปมอบให้กับโรงพยาบาลที่เชียงของ

อายุมากหรือย้อยกว่าเรา?
ปีเตอร์ : เป็นน้องผม

ชื่อก็ไม่ให้รู้ อายุก็ไม่บอก แล้วพี่เรียกแฟนว่าอะไร?
ปีเตอร์ : ที่รัก บางทีก็เรียกน้องอย่างนั้น น้องอย่างนี้ มันน่ารักนะ ความเป็นไทย เรียกพี่ เรียกน้อง

เจอกันได้ยังไง?
ปีเตอร์ : ตอนแรกบังเอิญได้คุยกัน แต่ยังไม่เห็นหน้า แต่รู้สึกว่าคนนี้ทำไมแบบมีเสน่ห์น่ารักมาก จนวันนึงเลยได้วีดิโอคอล พอเห็นหน้าปุ๊บ น่ารัก นิสัยเขามีเสน่ห์มากอยู่แล้ว คุยกันถูกคอ ไปๆ มาๆ ชวนกันไปดูหนัง ก็คงเป็นเดทแรก หลังจากนั้นก็เจอกันบ่อยขึ้น ชอบกัน

ปีเตอร์ คอร์ป

เขาคุยยังไงกับพี่ปีเตอร์?
ปีเตอร์ : เขาเป็นคนเรียบร้อยมาก จริงๆ มันเป็นเรื่องของนิสัยที่มันจูนเข้าหากัน เป็นคนที่น่ารักมาก มีมารยาทสูง ไม่ใช้คำหยาบเลย เชื่อไหมตั้งแต่รู้จักมาผมยังไม่เคยได้ยินเขาใช้คำหยาบเลย ต้องชมพ่อ แม่ เขานะว่าสอนดีมากเลย

หยาบสุดคืออะไร?
ปีเตอร์ : ผมชอบแกล้งเขาเวลาขับรถ แล้วมีใครปาดหน้า ที่รักด่าเลย ไอ้บ้า

ปีเตอร์โสดมากี่ปี ก่อนจะพบน้องคิตตี้?
ปีเตอร์ : ผมออกจากบ้านมาก็โสดมายาว แล้วไม่ได้คิดว่าจะมีแฟนอีก แต่งงานมาแล้ว มีลูกแล้ว ทีนี้โฟกัสทุกอย่างผมต้องนึกถึงลูกก่อน ไม่ได้คิดว่าจะมีแฟน แล้วก็ระวังตัวด้วยซ้ำ พยามไม่คุยกับใคร ถ้ามันใกล้ชิดเกินไป ผมก็ถอยห่าง ถ้าคนแปลกหน้าคุยแล้วกันเองเกินไป ผมก็ถอย

มันเหมือนเข็ดกับความรักไหม?
ปีเตอร์ : ก็คงเรียกเข็ดได้แหละ มันมีความรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้มีอยู่ในชีวิต แล้วสร้างกำแพง ไม่อยากโฟกัสด้วย มันมุ่งมั่นกับการทำงานมากกว่า ในช่วงที่ผ่านมา คิดแล้วก็แพลน ช่วงนี้กำลังขึ้นโปรเจกต์หลายอย่างมาก ซึ่งอีกไม่กี่เดือนก็จะเริ่มเปิดตัวโปรเจกต์ แต่เรื่องของความรักผมสร้างกำแพงใหญ่มาก แต่ไม่รู้ยังไง อยู่ๆ มีคนทะลุกำแพงมาได้

ปีเตอร์ คอร์ป

สมัยก่อนตอนที่เลิกกับภรรยาเก่าก็เป็นข่าวใหญ่พอสมควร?
ปีเตอร์ : ก็ชุลมุนวุ่นวายมากพอสมควร

ตอนนั้นทำไมเราเลือกที่จะไม่พูดอะไรเลย?
ปีเตอร์ : มันเป็นเรื่องที่อยู่ระหว่าง 2 คน ผมมีความรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ควรจะคุยกันเองมากกว่า ไม่ใช่ว่ามาคุยผ่านกล้อง มาคุยผ่านสื่อ จริงๆ ขอบคุณแฟนคลับด้วย หลายๆ คนเป็นห่วง ทักมาเป็นกำลังใจหลังบ้าน แต่จริงๆ ในช่วงนั้น หลายคนก็หลายความ เราพูดอะไรไป มันเกิดการตีความทุกอย่าง ซึ่งจะไปในทางที่ดี หรือแย่ เราไม่รู้ผมก็เลยไม่พูดดีกว่า ในที่สุดพูดออกไป ทุกอย่างมันก็จะอยู่ในยูทูบ ลูกโตขึ้นมาก็จะมานั่งดู ซึ่งผมไม่อยากพูดอะไรที่เป็นการว่ากันผ่านสื่อ

ภาพลักษณ์พี่ตอนนั้นที่ไม่ออกมาแก้ข่าว มันเป็นลุคแบดไปเลย เพราะคนไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
ปีเตอร์ : มันเป็นเรื่องปกตินะ ถ้าลองคิดดู ถ้าไม่มีคำอธิบายคนจะเดากันเอง แล้วพออธิบาย บางทีถ้าคนไม่อินก็จะฟังเป็นข้ออ้าง หรือว่าอะไร มันก็จะเกิดการตีความไปเรื่อยๆ เอาจริงๆ ในช่วงแรกที่ผมไม่พูด เอาสักพักจะออกไปพูดก็ไม่ได้อยู่ดี ไม่มีประโยชน์ เพราะว่าทุกอย่างจะถูกตีความเป็นลบ

เหมือนทุกคนตัดสินไปแล้ว ตอนที่เราเห็นคอมเมนต์ เห็นข่าวที่เป็นเชิงลบกับเรา ตอนนั้นเรารู้สึกยังไง?
ปีเตอร์ : ตัวผมรู้อยู่แล้วว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นยังไง

มันมีข่าวมาว่าคบซ้อน เจ้าชู้ เยอะแยะไปหมด?
ปีเตอร์ : ทุกคนก็ต้องเดาอยู่แล้ว ทุกคนพยายามหาเหตุผล แล้วต้องเดาว่าทำไมมันเกิดขึ้นแบบนี้ ที่เคยพูดการที่ออกจากบ้านมันไม่ได้มีมือที่สาม แต่ว่ามันเข้ากันไม่ได้จริงๆ เรื่องราวที่มันวุ่นวายภายในบ้าน เอาจริงๆ ผมคิดว่ามันไม่มีดีกว่าสำหรับลูก ยังไงอย่าคิดว่าเด็กไม่รู้ ตอนนั้นเลยเลือกที่จะเดินออกจากบ้าน และมันไม่มีวี่แววว่ามันจะดีขึ้นในที่สุดก็หย่ากัน

ใช้เวลานานไหมกว่าจะลงตัว เคลียร์กันเรื่องลูกแล้วกลับมาเป็นเพื่อนกัน?
ปีเตอร์ : นานครับ กว่าจะเคลียร์ทุกอย่างประมาณ 2 ปี

ปีเตอร์ คอร์ป

พี่เตอร์โสดมากี่ปีกว่าจะเจอคนนี้?
ปีเตอร์ : หลายปีอยู่ ตั้งแต่หย่า กว่าจะเจอ 7 ปีได้ไหม

พอมีแฟนคนนี้เขามีคุยถึงเรื่องอดีตของเราไหม?
ปีเตอร์ : เขาเป็นคนดำเนินชีวิตด้วยเหตุและผล เขาบอกเขาไม่ได้สนใจว่าในข่าวที่ผ่านมามันจะเป็นยังไง มันอยู่ที่ว่าปัจจุบันนี้เราเจอกันมันลงตัวไหม เราเข้ากันได้ไหม

โสดมาเกือบ 10 ปี ทำไมถึงเปิดใจคุยก้บคุณคิตตี้?
ปีเตอร์ : อาจจะเป็นเพราะว่า จริงๆ มันไม่ได้เป็นความตั้งใจ แล้วก็ไม่ได้มีความตั้งตัว แต่ว่าบังเอิญได้คุยกัน รู้สึกว่าคนนี้มีแรงดึงดูดบางอย่าง ที่แบบมีความน่ารัก มันดี ความคิดคล้ายๆ กัน ทุกอย่างมันคล้ายกันมากจริงๆ ชอบไปโดยไม่รู้ตัว

เห็นว่าพอคุยไปเรื่อยๆ เหมือนเรารู้จักคนนี้มานานทั้งชีวิต?
ปีเตอร์ : ใช่ครับ คือใช้เวลาอยู่ด้วยกันไม่นานมาก เหมือนคุยกับตัวเอง เลยมีความรู้สึกว่าเหมือนรู้จักเขามานานมาก ก็คิดว่าคงเป็นพรหมลิขิต

รีวิวความน่ารักของแฟน?
ปีเตอร์ : เขาเป็นคนเอาใจใส่ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน งานอดิเรก เขาก็ทำจริงจังทุกอย่าง รวมถึงความรักด้วยเขาจะเอาใจใส่ แล้วก็การที่ทุกอย่างมันเข้ากันได้ดี เวลาคุยไม่เคยเบื่อ คุยได้ทั้งวันเลย แล้ว 2 ปีที่ผ่านมาไม่เคยทะเลาะกันเลย เขาไม่ได้มีความห่วงใยให้ผมคนเดียว เขาเป็นคนทีาฃ่รักครอบครัวมาก ผมมองว่ามันเป็นเรื่องที่น่ารัก เขากตัญญูมาก ดูแลแม่ตลอด เป็นห่วงน้องสาวตลอด คือมันไม่ใช่สิ่งที่เขาทำกับผม แต่สิ่งที่ผมเห็นเขาทำกับคนอื่น มันเป็นอะไรที่แบบ อยากอยู่กับเขา

ปีเตอร์ คอร์ป

พี่เตอร์กับแฟนใครโรแมนติกกว่ากัน?
ปีเตอร์ : จริงๆ ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองโรแมนติกหนักหนาหรอก แต่จริงๆ แล้วเนี่ยด้วยความรู้สึกที่มันเกิดขึ้น ก็เอาใจใส่ เพราะเป็นห่วงเขาตลอดเวลา และอยากดูแลเขาตลอดเวลา เขาจะเดินทั้งวัน บางทีก็เมื่อยขา ผมก็นวดขาให้ นวดบ่าให้ ตรงกันข้ามสมมติเขารู้ว่าผมเหนื่อย ต้องหิวข้าวแน่ๆ เขาก็ทำกับข้าว เขาทำอร่อยมาก

อนาคตข้างหน้าจะได้เห็นไหม มีโอกาสจะเปิดตัวไหม?
ปีเตอร์ : ไม่ได้มีแผนจะเปิดตัวอะไร แต่วันนึงไม่แน่

วันนึงแต่งงาน จะปิดหน้าไว้ไหม?
ปีเตอร์ : อาจจะถ่ายรูปจากข้างหลัง ยังไม่รู้ จริงๆ ต้องให้เกียรติแฟน ต้องถามเขาว่าสะดวกเขาหรือเปล่า เพราะอย่างที่บอกมันเป็นการเปิดประตูที่จะสามารถวุ่นวายได้มาก ซึ่งมันไม่ใช่แค่ผมกับเขา ทีนี้มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับแม่เขาด้วย ครอบครัวเขา ญาติๆ เขา ซึ่งบางทีคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงอาจจะไม่เข้าใจว่าความวุ่นวายมันจะวุ่นวายได้แค่ไหน แรงกดดันที่มันจะเกิดขึ้น สมมติมันลบไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมรับมือกับมันโดยเฉพาะคนที่เพิ่งเข้าวงการหรือไม่ได้อยู่ในวงการ

ปีเตอร์ คอร์ป

อันนี้คือเขาเองที่ไม่อยากเปิดตัวต่อสื่อ ไม่อยากเปิดตัวต่อโซเชียล หรือว่าคุยกัน?
ปีเตอร์ : 2 อย่างครับ คุยกัน ซึ่งเขาก็รู้ตัวดีว่าอะไรคืออะไร เขาก็มีการทำธุรกิจของเขาทุกอย่างมันราบรื่นอยู่ แต่ความวุ่นวายที่มันจะสามารถพาไปที่เขาได้ มันอาจจะมีผลต่อธุรกิจที่เขาทำด้วยหรือเปล่า เลยมีความรู้สึกว่ามันก็ไม่จำเป็น เพราะเราอยู่ด้วยกัน มันก็แฮปปี้อยู่

เหมือนกลัวแฟน?
ปีเตอร์ : กลัวครับ กลัวไม่รัก

เด็กๆ เจอหรือยัง?
ปีเตอร์ : เจอแล้ว เขาก็แฮปปี้ คือต้องบอกว่าแฟนผมเขาเป็นคนรักเด็กอยู่แล้ว เขาก็จะเล่นกับเด็กทุกคน ส่วนลูกผมเขาจะเป็นเด็กง่ายๆ อยู่แล้ว พอเจอกัน ก็ไม่ได้เกร็งอะไรหรอกว่าจะเข้ากันได้หรือไม่ได้ มั่นใจว่าเข้ากันได้อยู่แล้ว เข้ากันได้ดีมาก เขาก็เล่นเกมกัน

แนะนำกับเด็กๆ ว่ายังไง?
ปีเตอร์ : บอกว่านี่คือ auntie พูม่าแสบมาก บอกว่า auntie สวยจังเลย ผมเลยบอกว่าสอนลูกไว้หรือเปล่า

คิดว่า 2 หนุ่มรู้ไหมนี่คือแฟนพ่อ?
ปีเตอร์ : รู้ครับ ล่าสุดฮันเตอร์ถาม ปาป๊านั่นแหวนอะไร ซึ่งเขารู้อยู่แล้ว ผมก็อธิบาย แล้วบอกว่าจริงๆ ลูกรู้อยู่แล้วใช่ไหม ปาป๊ารู้ว่าฉลาดกันทั้งคู่ ใช่ครับผมรู้อยู่แล้ว

ปีเตอร์ คอร์ป

เขามีอารมณ์ห่วงพ่อไหม?
ปีเตอร์ : ผมว่าไม่ได่หวงนะ เพราะเคยคุย เคยแซวกันเล่นๆ ถามว่ามีแฟนกันหรือยัง เขาก็เผากันเองยับเลย แล้วผมก็เคยถามว่าแล้วปะป๊ามีแฟนได้ไหม เขามองหน้ากันแป๊บนึงได้ครับ

กับประโยคที่บอกว่าไม่ได้มาแทนแม่ ในที่นี่คือหมายถึงแฟนของปีเตอร์?
ปีเตอร์ : ใช่ๆ เนื่องจากว่าผมกับแฟนทุกอย่างมันเข้ากันได้ดี ก็อยากจะอยู่ด้วยกันนานๆ จริงๆ อยู่ด้วยกันตลอดไป ก็คุยทุกอย่าง การที่แต่งงานไม่ใช่ว่ารักกันแล้วแต่งงาน มันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ ใครที่จะแต่งงานรู้ไว้เลยว่าเรื่องของครอบครัวสำคัญ เงิน ทอง ใครมีภาระยังไงบ้าง เพราะพอรวมกันเสร็จทุกอย่างก็อยู่ในที่เดียวกัน รายละเอียดทุกอย่างมันต้องคุย เรื่องที่ผมมีลูกอยู่แล้วก็คุย ซึ่งเขาเป็นคนที่รักเด็กมาก แล้วเขาก็รักลูกผมด้วย แต่เขาไม่ได้พยายามเป็นแม่ของเด็ก เด็กมีแม่อยู่แล้ว เขารักลูกผม แต่ไม่ได้พยายามมาแทนที่แม่

ปีเตอร์ไม่ได้คิดที่จะอยากมีลูกเพิ่ม?
ปีเตอร์ : คือไม่ได้คิดจะมีแฟนด้วยซ้ำ

แต่ ณ ตอนนี้ที่เรามีแฟนและคลั่งรักมาก เริ่มมีความคิดที่อยากมีลูกเพิ่มใช่ไหม?
ปีเตอร์ : ตอนนี้ลูกชาย 2 เห็นเพื่อนมีลูกสาวเป็นลูกครึ่ง น่ารักมาก อยากมีแบบนั้น

เริ่มวางแผนหรือยัง?
ปีเตอร์ : ก็เคยคิด เคยคุยว่าสักวันถ้ามีลูกก็ดีเหมือนกัน

คบกัน 2 ปี ตัดสินใจขอแต่งงานเลย?
ปีเตอร์ : ไม่ได้มีความอลังการอะไรเลย เป็นแบบโก๊ะๆ แค่คิดว่ามันถึงเวลา เราเคยคุยกันว่าเราอยู่ด้วยกันไปตลอดมันก็ดีนะ

อะไรที่ทำให้ตัดสินใจวันนี้แหละ ต้องขอแล้ว?
ปีเตอร์ : มันเป็นจังหวะแบบสบายๆ ไม่ได้เป็นทางการอะไรเลย รู้สึกว่าจังหวะนี้แหละที่ใช่

ปีเตอร์ คอร์ป

ขอที่ไหน?
ปีเตอร์ : ที่บ้าน ง่ายๆ เลย ผมใส่กางเกงขาสั้น แล้วก็คุกเข่า มันมีมุกที่เราเคยเล่นกันเรื่องการนับดาว ผมก็คุกเข่าลงไป แล้วถามเขานั่นแหละ ว่าที่รักอยากนับดาวกับพี่จนหมดท้องฟ้าไหม เขาก็เยส

เขามีน้ำตาไหม แบบซึ้ง ร้องไห้?
ปีเตอร์ : มีทั้งคู่นิดนึง คือมันดีใจ เราเจอ ที่ผ่านมาไม่ใช่ไม่เคยมีแฟน แต่เรามีแฟน ถ้ามันเข้ากันไม่ได้ก็เลิก แล้วมีความรู้สึกว่ามันคงเป็นอย่างนี้ไปตลอด มันจะมีธงที่ฟ้องอยู่ตลอดว่าไม่ใช่ๆ แล้วมันก็ไม่ใช่จริงๆ พอถึงวันนึงมันก็อยู่กันไม่ได้ แต่ก็ดีใจที่กับคนนี้แบบไม่มีธงอะไรเลย

ดีใจไหมที่วันนึงเราได้มาเจอคนคนนี้แล้ว?
ปีเตอร์ : ดีใจมาก จริงๆ ประสบการณ์ชีวิตมันก็สอน ในช่วงโสดที่ผ่านมา เราก็รู้แล้วว่าอะไรคืออะไร ชีวิตมันนิ่ง เราอยู่กับตัวเอง เรามีความสุข พอใจกับชีวิต ไม่ได้โหยหาเรื่องของความรัก แล้วไปเจอคนนึงโดยบังเอิญที่มันเข้ากันได้มากๆ มันก็รู้สึกแฮปปี้

คุ้มค่าไหมกับเวลาที่เราถนอมเนื้อ ถนอมตัวมาจนมาเจอคนที่ใช่?
ปีเตอร์ : คุ้มค่าครับ เอาจริงๆ การที่เราเรียนรู้ที่จะใช้เวลาอยู่กับตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเราจะรู้ว่าสิ่งที่เราต้องการจริงๆ มันคืออะไร บางคนอยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องออกไปหาแฟนให้ได้ ซึ่งมันจะทำให้ส่วนใหญ่เลือกผิด เพราะต้องการแค่ใครสักคน แต่ไม่ได้สกรีนจริงๆ ว่าเข้ากันได้ไม่ได้

เรารู้สึกเลยไหมว่านี่จะเป็นรักครั้งสุดท้าย?
ปีเตอร์ : รู้สึกครับ เหมือนกับว่าประสบการณ์ชีวิตที่เคยมีมา รู้แล้วว่าอะไรคืออะไร อะไรที่มันใช่ไม่ใช่ กับคนนี้ทุกอย่างมันเข้ากันได้มาก เลยมั่นใจว่าคนนี้แหละที่รอคอยมาตลอด

ถ้าตอนนี้เขาดูอยู่อยากบอกอะไรเขาไหม?
ปีเตอร์ : รักนะ

ปีเตอร์ คอร์ป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส