หนุ่ม 18 ร้อง เพจสายไหมต้องรอด ถูกแก๊งทรายทอง ดักรุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัส นิ้วมือขาด แจ้งความคดีไม่คืบ กลัวจะถูกดักทำร้ายอีก
วันที่ 22 ม.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เสียหายเดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากโดน “แก๊งทรายทอง” รุมทำร้ายเพิ่มเติมอีก โดยผู้เสียหายรายนี้ เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณ ซอยประชาชื่นนนทบุรี 9/1 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา ตอนนั้นตนกับเพื่อนรวมกัน 3 คน กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พักหลังจากเลิกงาน เมื่อมาถึงที่บริเวณหน้าปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ก็มีกลุ่มผู้ก่อเหตุประมาณ 7-8 คน ตะโกนหาเรื่องขึ้นมาว่า "มองหน้าพวกกูทำไม" ทำให้ตนอยู่ในอาการงง เพราะว่ายังไม่ทันได้มองหน้าใคร ก็เลยขี่รถจักรยานยนต์ต่อไป
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขับรถมาขวางหน้า พร้อมกับปืนจี้มาที่หัวตน ทำให้ตนจอดรถ จากนั้นก็มีกลุ่มผู้ก่อเหตุคนอื่นเข้ามาต่อยที่หน้าตน จากนั้นก็มีหนึ่งในผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟันมาที่ตน ตนจึงยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อป้องกัน ทำให้โทรศัพท์ของตนเกือบขาดเป็นสองท่อน เมื่อไม่มีสิ่งของป้องกัน ทำให้ตนต้องยกมือขึ้นมาป้องกัน ทำให้ผู้ก่อเหตุฟันมาที่นิ้ว ตนพยายามอ้อนวอนขอชีวิตพร้อมกับถามว่าตนไปทำอะไรผิด ถึงต้องมาทำร้ายกัน แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ไม่ฟังคำอ้อนวอนของตน ใช้อาวุธมีดฟันจนทำให้นิ้วก้อยฝั่งขวาขาดจนหมอไม่สามารถเย็บต่อได้
ผู้เสียหาย เล่าต่ออีกว่า ตนมาทำงานที่ จ.นนทบุรีได้ประมาณ 8 เดือน และใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางกลับบ้านทุกวัน ก็ไม่เคยเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุมารวมตัวกันตรงจุดดังกล่าว ซึ่งวันนั้นเป็นครั้งแรกที่ตนได้พบกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทั้งนี้หากผู้ก่อเหตุดูอยู่ก็อยากจะถามว่า มาทำไมพวกตนเพื่ออะไร ตนเป็นเด็กต่างจังหวัดที่มาทำงานในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล หวังจะเก็บเงินไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด ไม่มีเหตุผลที่ต้องมาทำร้ายกันแบบนี้ จึงอยากให้ตำรวจจับตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมารถตามกฎหมายให้ได้ และอยากให้ชดใช้ค่าเสียหายเลือกนิ้วก้อยที่ต้องขาดไป และอยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าควรแก้กฎหมายเยาวชน ควรจะได้รับโทษเทียบเท่าผู้ใหญ่
ส่วนสาเหตุที่ผู้เสียหายมั่นใจว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นแก๊งทรายทองนั้น เนื่องจากเกิดเหตุในพื้นที่ของแก๊งทรายทอง ประกอบกับเห็นข่าวตามสื่อออนไลน์
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และที่ปรึกษารมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายส่งข้อมูลของแก๊งทรายทองมาเพิ่มกว่า 10 คน บางคนยังหวาดกลัวไม่กล้ามาให้ข้อมูล และบางคนถึงกลับต้องหนีไปอยู่ต่างจังหวัด ขณะนี้ตนได้คุยกับผู้กำกับการ สภ.รัตนาธิเบศร์ ก็ได้บอกว่าได้รวบรวมข้อมูลจากผู้เสียหายไว้หมดแล้ว ยืนยันว่าจะตามล่าแก๊งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ครบทุกคน ถึงแม้ว่าจะเป็นเยาวชน แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุมีอายุเกิน 12 ปีแล้วซึ่งกฎหมายสามารถเอาผิดได้
นายเอกภพ ยังบอกอีกว่า หากตำรวจเข้าค้นบ้านบุคคลที่เกี่ยวข้อง แล้วพบอาวุธปืนหรือระเบิด ขอให้ดำเนินคดีกับผู้ปกครองด้วย เพราะถือว่าเป็นการปล่อยปละละเลยให้ลูกหลานเอาอาวุธปืนมาเก็บไว้ในบ้านก่อนจะนำไปใช้ก่อเหตุความวุ่นวายกับผู้เสียหายคนอื่น ซึ่งผู้ปกครองเจ้าอาวาสไม่รู้เรื่องก็ไม่ได้ เพราะถือว่าอยู่บ้านเดียวกัน ตำรวจควรจะเอาผิดเพราะผู้ปกครองถือว่าสมรู้ร่วมคิดกัน
ทั้งนี้มีข้อมูลจากอดีตสมาชิกแก๊งทรายทอง ให้ข้อมูลกับเพจสายไหมต้องรอดว่า แก๊งนี้จะมีการนัดรวมตัวกันในพื้นที่ อ.เมืองนนทบุรี และ อ.ปากเกร็ด หากวันไหนมีการรวมตัวกันในจำนวนมาก ก็จะใช้หมู่บ้านทรายทองเป็นที่รวมตัว จากนั้นจะมีการมั่วสุมเสพยาเสพติด ก่อนจะไปตระเวนหาผู้เสียหายมาทำร้าย หากเจอผู้หญิงที่หน้าตาดีจะฉุดไปรุมโทรม