“เต้ มงคลกิตติ์” ร้อง DSI หลังพบขบวนการทุจริตซื้อขายข้อสอบรับราชการท้องถิ่น ปี 67 พบเงินหมุนเวียนนับ 8,000 ล้านบาทต่อปี
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นหนังสือถึง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ตรวจสอบขบวนการทุจริตซื้อขายข้อสอบ พร้อมส่งทีมมือยิงข้อสอบในการสอบเข้ารับราชการท้องถิ่น ปี 2567 มีวงเงินทุจริตประมาณ 8,000 ล้านบาทต่อปี
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ในปีนี้จะมีการบรรจุข้าราชการกว่า 6,200 อัตราและขึ้นบัญชีไว้ถึง 2 ปีด้วยกันหมายความว่าจะมีการบรรจุข้าราชการทั้งสิ้น 12,400 อัตรา โดยตำแหน่งที่จะเข้ารับสมัครการสอบในการแข่งขันทั้งภาค ก. ภาค ข. ก็จะมีทั้งในระดับอนุปริญญา และระดับปริญญาตรี ทั้งในปีนี้จะเปิดรับในตำแหน่งปฏิบัติการหรือระดับอนุปริญญา 94 ตำแหน่ง ใน 6,200 อัตราโดยแบ่งเป็นสายทั่วไป 2,950 อัตราใน 29 ตำแหน่ง และสายวิชาการ 36 ตำแหน่ง 2,109 อัตรา และสายครู ผู้ช่วย 29 สายวิชาเอก มีตำแหน่งว่างทั้งหมด 1,135 อัตรา ซึ่งรวมทั้งหมด 6,200 อัตราที่ได้ขึ้นบัญชีไว้ในปี 67
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า การทุจริตในครั้งนี้มีมานานแล้วตั้งแต่ในปี 2539 ซึ่งในปัจจุบันยังคงเป็นกลุ่มเดิมที่ทำอยู่ หากถามว่าการทุจริตในการสอบรับราชการท้องถิ่นมีกี่รูปแบบสมัยก่อนจะเป็นการทุจริตธรรมดาคือการส่งมือปืนหรือตัวแทนเข้าไปทำข้อสอบแทนข้าราชการที่จะเข้าสอบ ซึ่งกลุ่มที่ทุจริตในการสอบนั้นจะมีการเสียค่าดำเนินการสำหรับระดับอนุปริญญาจะจ่ายค่าทำข้อสอบในราคา 500,000 บาท และระดับปริญญาตรีจ่าย 600,000 บาททั้งยังต้องจ่ายค่านายหน้าเพิ่มเติมอีก 100,000 บาท ทั้งนี้ในส่วนของมือปืนนั้นโดยส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เรียนเก่ง เพื่อเข้ามารับจ้างในครั้งนี้เพื่อหาเงินโดยมือปืนคือจะเป็นคนที่เข้าไปทำข้อสอบ และส่งสัญญาณให้กับผู้จ้างวานโดยการเข้าสอบ 1 ครั้งจะได้เงินจำนวน 30,000 บาท
นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวอีกว่า ในปัจจุบันนั้นจะมีวิธีการโกงต่างกับในอดีต โดยในอดีตจะใช้วิธีการส่งสัญญาณจากมือปืน โดยมือปืนนั้นจะทำให้ตนสอบไม่ผ่านแต่ในปัจจุบันจะมีการใช้เครื่องมือที่ทำให้สั่นไหว ที่ต้องซ่อนไว้ในที่ลับ หรือผ่าตัดไว้ในเนื้อ โดยใช้วิธีการสั่น เพื่อบ่งบอกถึงชุดข้อสอบ และตัวคำตอบ
“สำหรับคนที่เข้าสอบแบบสุจริต แทบจะไม่มีโอกาสในการทำข้อสอบผ่านได้เหมือนกับคนที่เป็นมือปืน และผู้ว่าจ้าง”นายมงคลกิตติ์ กล่าว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ขบวนการเหล่านี้จะขาดสิ่งสำคัญอย่างชุดข้อสอบไม่ได้โดยการที่ได้มาซึ่งชุดข้อสอบนั้น จะทำการซื้อโรงพิมพ์ หรือคนภายในโรงพิมพ์ให้นำชุดข้อสอบออกมา เพื่อทำการเฉลย ใช้ในการทุ่นเวลาและส่งให้มือปืนเป็นผู้ท่องจำ โดยในปีนี้มีการเข้ารับบรรจุ 6,200 อัตรา แต่ครั้งนี้มีการขึ้นบัญชีไว้ถึง 2 ปีซึ่งจะมีผู้ที่สามารถบรรจุได้ถึง 12,400 อัตรา เป็นวงเงินกว่า 8,000 ล้านบาท
“ขบวนการนี้ที่ทำมาได้จนถึงปัจจุบันเพราะมีนักการเมืองใหญ่เป็นผู้หนุนหลังจึงทำให้รอดมาจนถึงปัจจุบัน”นายมงคลกิตติ์ กล่าว
สำหรับผู้ที่อยู่ในขบวนการนี้และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคือจ่า จ. และภรรยาชื่อย่อผลไม้ทางภาคเหนืออักษร ช. ทางลูกชายของทั้งสองคนได้รับราชการในระดับท้องถิ่นอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี และอีกหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการคือรายชื่อเหมือนกับ อดีตนักมวยชื่อดังที่ได้เหรียญทองในโอลิมปิค เนื่องจากการทำงานของกลุ่มนี้มีเงินหมุนเวียนจำนวนมากจึงทำให้มีบัญชีม้า ที่เกี่ยวเนื่องกันหลายบัญชี โดยมีนอมินีบังหน้า
นายมงคลกิตติ์ ยังฝากข้อความถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ในปัจจุบันมีขบวนการเหล่านี้อยู่ ซึ่งทำงานกันเป็นระบบและทำให้การสอบเข้ารับราชการของผู้ที่จะสอบแบบสุจริตนั้นพลาดโอกาสไป และจะได้แค่ข้าราชการที่ทุจริตเข้ามาทำงาน