พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เตรียมคุมตัว “ดาบแป๊ะ” ปืนดุ ตำรวจ สน.สุทธิสาร ยิงหนุ่มวัย 25 ดับคาที่ หลังถูกแจ้งข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" ฝากขังศาล
จากกรณีตำรวจ สน.ห้วยขวาง เข้าตรวจสอบ บริเวณบ้านเลขที่ 1159/58 ภายในซอย รัชดาภิเษก 3 แยก 14 แขวงเขตห้วยขวาง ภายหลังได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันเสียชีวิต จากการตรวจสอบพบศพ นายธิติวัฒน์ อ่วยกลาง หรือ หมอก อายุ 25 ปี นอนเสียชีวิตบนถนนหน้าบ้านหลังดังกล่าว เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา
จากการสอบถามแม่ของผู้ตาย เล่าว่า บ้านหลังนี้พักอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คนพ่อแม่ลูก มีตน สามีและลูกชาย คือนายหมอกผู้ตาย กระทั่งลูกชายพาลูกสะใภ้ชื่อแอนเข้ามาอยู่ในบ้าน โดยที่ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นลูกใคร เข้ามาพักอาศัยกับพวกตนนานกว่า 1 เดือนแล้ว ไม่ทำงานอะไร
จนกระทั่งช่วงค่ำวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะกำลังอยู่ล้างจานอยู่หน้าบ้าน ส่วนสามีนอนดูโทรทัศน์ภายในบ้าน มีรถเก๋งขับเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้าน ตนจึงเดินออกมาถามคนภายในรถ ซึ่งนั่งมาด้วยกัน 2 คนว่ามาหาใคร ซึ่งคนขับบอกว่า เป็นพ่อของแอนจะมารับลูกสาวกลับบ้าน ตนจึงวิ่งขึ้นไปยังบริเวณชั้น 2 ซึ่งลูกชายกับลูกสะใภ้พักผ่อนอยู่ แต่ลูกชายตนถือมีดวิ่งออกมา พร้อมคว้าขวดภายในบ้านเขวี้ยงใส่รถ จากนั้นคนในรถ ซึ่งนั่งมาคู่กับคนขับที่อ้างตัวเป็นพ่อของแอน ใช้อาวุธปืนยิงใส่ลูกชาย กระสุนเจาะบริเวณลำคอลูกชายล้มลงทันที ตนกับสามีรีบวิ่งเข้าไปประคอง และพยายามร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน แต่ไม่ทัน ลูกชายสิ้นใจตายในอ้อมแขนของผู้เป็นพ่อ
แม่นายหมอก ระบุอีกว่า สำหรับมือปืน เป็นตำรวจชื่อดาบแป๊ะ เป็นตำรวจสืบสวน สน.ห้วยขวาง หลังเกิดเหตุยืนรอมอบตัวกับตำรวจท้องที่
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพี่นิด ผกก.สน.ห้วยขวาง ระบุว่า มีพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด 6 ปาก ขณะนี้ได้เชิญตัวทั้งหมดไปให้ปากคำที่ สน.ห้วยขวางแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจชั้นประทวน ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร ไม่ใช่ตำรวจ สน.ห้วยขวางตามที่แม่ระบุ ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่ได้หลบหนี ยืนรอมอบตัว กับตำรวจสายตรวจที่มาถึง
ขณะที่ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อัฏธพร วงค์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ผกก.สน.ห้วยขวาง และผกก.สน.สุทธิสาร ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.อัฏธพร เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นดาบตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร ให้การว่าหลังออกปฎิบัติภารกิจในพื้นที่หัวหมากพร้อมสายลับ และกำลังกลับ สายลับแจ้งว่าขอไปเอาโทรศัพท์ที่ลูกสาว ซึ่งอาศัยอยู่กับแฟนหนุ่มภายในซอยรัชดา 13 นายดาบตำรวจเห็นว่าเป็นทางผ่านจึงได้พาขับรถไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ตามที่ลูกสาวบอก
เมื่อไปถึงก็ได้พบกับแม่ผู้เสียชีวิตกำลังนั่งล้างจานอยู่ จึงถามหาลูกสาวว่าอยู่ที่นี่หรือไม่ จากนั้นนายหมอกก็ไปเขวี้ยงปาขวดน้ำลงมาจากชั้นสอง และพยายามใช้มีดเข้าทำร้ายคนในรถ ก่อนที่ดาบตำรวจที่นั่งมาด้วยตัดสินใจใช้อาวุธยิง 1 นัด ถูกบริเวณลำคอก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากหลักฐานจากภาพวงจรปิด และพยานที่เกิดเหตุรวมแล้ว 6 คนที่ถูกสอบปากคำ พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยมีและใช้อาวุธ ตามมาตรา 288 ไว้ก่อน ส่วนข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงทั้งที่ไม่จำเป็น ทางผู้ก่อเหตุยังไม่ได้ให้การในส่วนนี้
ส่วนอาวุธที่ผู้ก่อเหตุใช้เป็นอาวุธประจำตัวใช้ในราชการ ขณะนี้ตำรวจได้เรียกตรวจสอบเอกสารทั้งหมด และยึดไว้เป็นของกลางในคดี ส่วนอาวุธที่ผู้เสียชีวิตใช้เป็นมีดปลายแหลมยาว 13 นิ้ว ตำรวจได้รวบเอาไว้เป็นหลักฐานประกอบในสำนวนด้วยเช่นกัน ส่วนผู้ก่อเหตุที่เป็นนายดาบตำรวจ ขณะนี้ทาง ผกก.สน.สุทธิสารได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน พร้อมส่งเรื่องให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 พิจารณาบทลงโทษอีกครั้ง
ส่วนเพื่อนผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า นายหมอกได้นำ น.ส.แอนและเพื่อนอีกคนหนึ่งมาอยู่ภายในบ้านพักด้วย โดยนายหมอกเคยมีความสัมพันธ์กับ น.ส.แอน ในฐานะคนรักเก่า แต่ผู้หญิงทั้งสองคนได้ขอมาอาศัยอยู่ด้วย และนายหมอกมักจะไปส่งที่ทำงานอยู่บ่อยครั้ง เบื้องต้นทราบแค่ว่าคนที่มาตามหา น.ส.แอนเป็นพ่อ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทราบมาว่า น.ส.แอนไม่อยากกลับไปอยู่ด้วย อาจจะเป็นปมเหตุให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น
ล่าสุดวันที่ 25 ม.ค. 67 พล.ต.ต.อัฎธพร เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีอัตราโทษทางคดีสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ส่วนรายละเอียดต่างๆ จะให้ทาง สน.เป็นผู้ชี้แจง
ส่วนบรรยากาศเช้านี้ที่ สน.ห้วยขวาง มีข้าราชการตำรวจจาก สน. สุทธิสาร พร้อมบุตรสาวได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหา รวมทั้งเตรียมหลักทรัพย์ยื่นประกันตัว โดยจะใช้เป็นเงินสดในการติดต่อผ่านบริษัทรับประกันในการดำเนินการ
ขณะที่นายนิ้ว (นามสมมติ) พ่อเลี้ยงของ น.ส.แอน ซึ่งเป็นคนขับรถพาดาบแป๊ะไปก่อเหตุยิงนายหมอก โดยวันนี้ได้มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมดาบแป๊ะได้ไปทำงาน แต่ลืมโทรศัพท์ ซึ่งมีข้อมูลสำคัญไว้กับ น.ส.แอน จึงได้โทรประสาน เพื่อที่จะเข้าไปเอาโทรศัพท์ เมื่อพอไปถึงที่เกิดเหตุ ก็สอบถามแม่ของคนตายบริเวณหน้าบ้าน จากนั้นคนตายก็มีการขว้างขวดเครื่องดื่มชูกำลังลงมาจากชั้น 2 ลงมาที่รถ พร้อมกับวิ่งลงมาโดยใช้มีดยาวประมาณ 1 ฟุต ไล่ฟันตน จนหนีเข้าไปภายในรถ ระหว่างนั้นคนตายก็ได้วิ่งไปจ้วงแทงดาบแป๊ะที่นั่งรออยู่ภายในรถผ่านกระจกรถ
จากนั้นดาบแป๊ะก็ได้มีการถามคนตายว่า มีอะไรให้พูดคุยกันดีๆ แต่คนตายยังไม่หยุดแทง จึงทำให้ดาบแป๊ะใช้อาวุธปืนยิง ซึ่งเหตุการณ์นี้หากเป็นตนก็คงตัดสินใจเหมือนกับดาบแป๊ะ
ส่วนเรื่องที่ยังไม่ขับรถหนีนั้น นายนิ้วชี้แจงว่า ตนยังไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะสามารถขับรถได้ พร้อมกับรู้สึกผิด และยอมรับว่าตนเป็นต้นเหตุของการสูญเสียในครั้งนี้
นอกจากนี้นายนิ้วยืนยันว่า ตนและดาบแป๊ะไม่เคยรู้จักและเห็นคนตายมาก่อน ไม่เคยมาบ้านหลังนี้ ซึ่งวันเกิดเหตุได้โทรสอบถามข้อมูลจาก น.ส.แอน และ น.ส.มิ้นท์ที่อยู่ด้วยกัน พร้อมกับยืนยันว่า ตนมีสถานะเป็นพ่อเลี้ยงของ น.ส.แอน โดยที่ไม่มีความสัมพันธ์อื่นอย่างแน่นอน