บุกจับผู้จัดการสินเชื่อแอบนำเอกสารลูกค้าทำบัตรกดเงินสดขโมยถอนเกือบ 3 แสนอ้างติดหนี้นอกระบบ
ตำรวจชุดสืบสวนภาค 3 ร่วมกับชุดสืบภูธร จ.บุรีรัมย์ และสืบ สภ.เมือง นำหมายศาลบุกจับ ผจก.บริษัทสินเชื่อ แอบนำเอกสารลูกค้าที่มาใช้บริการกู้ยืมเงินกับทางบริษัท ไปสวมรอยซื้อซิมมือถือทำบัตรกดเงินสดก่อนขโมยถอนเงินลูกค้า 3 ราย รวมเกือบ 3 แสน อ้างนำไปใช้หนี้นอกระบบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้นำหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าทำการจับกุมนายอนุรักษ์ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการบริษัทสินเชื่อแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์
เนื่องจากได้มีประชาชนซึ่งเป็นลูกค้าเข้าไปใช้บริการกู้เงินที่บริษัทสินเชื่อ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่ามีคนแอบสวมรอยทำบัตรเงินสดไปขโมยกดเงินของตนเองที่ชำระหนี้คืนบริษัท ทำให้ยอดหนี้คงเหลือไม่ตรงตามความเป็นจริง โดยมีผู้เสียหายถูกขโมยถอนเงินจำนวน 3 ราย เฉลี่ยรายตั้งแต่ 5 หมื่นถึงกว่า 9 หมื่นบาท รวมเป็นมูลค่าความเสียหายว่า 2แสนบาท เมื่อช่วงเดือน ธ.ค. 2566 ทั้งที่ผู้เสียหายทั้ง 3 คนไม่มีบัตรกดเงินสด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.เมือง และชุดสืบภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ประสานชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมลงพื้นที่หาข้อมูลเบาะแสหาตัวผู้กระทำผิด จนพบพยานหลักฐานว่าผู้ที่แอบถอนเงินของลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการบริษัทสินเชื่อเป็นผู้จัดการบริษัทสินเชื่อเอง จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ออกหมายจับนายอนุรักษ์ และเข้าทำการจับกุมตัวนายอนุรักษ์ ขณะทำงานอยู่ที่บริษัท ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ให้ดูพยานหลักฐาน นายอนุรักษ์ จึงยอมรับสารภาพว่าได้ขโมยถอนเงินของลูกค้าจริง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวนายอนุรักษ์ ไปตรวจค้นห้องพักก็พบเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันที่ไปถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มทั้งในตัวเมือง และห้างสรรพสินค้า ตามภาพวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้ จึงตรวจยึดเสื้อผ้าไว้เป็นหลักฐาน พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รถกระบะที่ใช้ประกอบการกระทำผิด 1 คัน ส่วนบัตรกดเงินสดนายอนุรักษ์ อ้างว่าหลังก่อเหตุได้โยนทิ้งไปแล้วแต่จำสถานที่ทิ้งไม่ได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้นำตัวนายอนุรักษ์ ไปชี้จุดที่ถอนเงินและร้านที่แอบนำเอกสารของลูกค้าไปซื้อซิมโทรศัพท์มือถือ เพื่อสวมรอยทำบัตรเงินสดใช้ในการกดถอนเงินของลูกค้า
จากการสอบถามนายอนุรักษ์ บอกว่า ได้ทำงานที่บริษัทสินเชื่อแห่งนี้มาตั้งแต่เปิดบริษัท พอทำไปสักระยะก็เริ่มรู้ช่องทางที่จะเอาเงิน จากนั้นก็ไปซื้อซิมโทรศัพท์มือถือ แล้วโทรไปแจ้งเปลี่ยนเบอร์และข้อมูลของลูกค้าในระบบ ก็สามารถเปิดบัตรเงินสดได้ แล้วก็ใช้บัตรเงินสดดังกล่าวไปถอนเงิน พอก่อเหตุเสร็จก็เอาบัตรทิ้ง โดยจะเลือกลูกค้าที่ส่งชำระมาหลายงวดและมีเงินหมุนเวียนในบัตรเยอะ ก็รู้สึกผิดและยอมรับในผลที่ตัวเองทำ รู้อยู่แล้วว่าสักวันจะถูกจับได้ แต่ที่ทำเพราะเป็นหนี้นอกระบบหาทางออกไม่ได้
โดยนายอนุรักษ์ถูกแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกเงินสด”
หากประชาชนรายใดตกเป็นเหยื่อในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลได้กับ พ.ต.ท.อิทธิพล เพ็ญเดิมพันธ์ สว.กก.สืบสวน1 บก.สส.3 เบอร์ 0934647453 (ชุดจับกุม) หรือ ร.ต.อ.ปรฉัตร รักษาวงษ์ พนักงานสอบสวน 0883754028 พร้อมกันนี้ก็ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่ไปใช้บริการสินเชื่อ ควรหมั่นตรวจสอบยอดที่กู้ และการส่งชำระคืนเป็นระยะว่ายอดตรงตามที่ชำระและคงค้างว่ามีความผิดปกติหรือไม่