ซีเกทเพิ่มศักยภาพของฮาร์ดไดรฟ์ถึงระดับ 30 TB+ มากสุดในอุตฯจัดเก็บข้อมูล

1 ก.พ. 67

ซีเกทเพิ่มศักยภาพของฮาร์ดไดรฟ์ถึงระดับ 30 TB+ มากที่สุดในอุตสาหกรรมจัดเก็บข้อมูล ศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ ให้การตอบรับ Mozaic 3+ แพลตฟอร์มการจัดเก็บข้อมูลรุ่นล่าสุด ที่มอบความหนาแน่นมากถึง 3 TB+ ต่อแผ่น

ซีเกท เทคโนโลยี โฮลดิ้งส์ (NASDAQ: STX) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นและการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ประกาศความสำเร็จในการก้าวสู่ยุคใหม่ของอุตสาหกรรมการจัดเก็บข้อมูลด้วยการเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ Mozaic 3+™ ที่นำเทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) อันก้าวล้ำของซีเกท มาใช้ การเปิดตัวครั้งนี้ซีเกทได้ประกาศว่า Mozaic 3+ ถูกพัฒนาความหนาแน่นในการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่มีใครเทียบได้ที่ 3TB+ ต่อแผ่น และมีแผนที่จะบรรลุความหนาแน่นถึง 4TB+ และ 5TB+ ต่อแผ่นในปีต่อไป

แพลตฟอร์ม Mozaic 3+ เสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ตระกูล Exos® ที่เป็นเรือธงของซีเกทด้วยจุดความจุระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมด้วยขนาด 30TB ขึ้นไป และในไตรมาสนี้ซีเกทได้เริ่มจัดส่งผลิตภัณฑ์ Exos ขนาด 30TB+ จำนวนมากให้กับลูกค้าระบบคลาวด์แบบไฮเปอร์สเกล

นวัตกรรมความหนาแน่นในครั้งนี้ได้เพิ่มจำนวนบิตที่สามารถจัดเก็บข้อมูลในจานแม่เหล็ก โดยผลิตภัณฑ์ Mozaic 3+ ช่วยให้ลูกค้าจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน การอัพเกรดจากไดรฟ์ Perpendicular Magnetic Recording (PMR) แบบธรรมดาขนาด 16TB (ความจุเฉลี่ยในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่) ไปเป็นไดรฟ์เทคโนโลยี Mozaic 3+ ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Exos ขนาด 30TB ช่วยเพิ่มความจุเป็นสองเท่าในพื้นที่ขนาดเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แพลตฟอร์มดังกล่าวผลิตขึ้นจากวัสดุแบบเดียวกับฮาร์ดไดรฟ์ PMR ในขณะที่สามารถเพิ่มความจุได้อย่างมหาศาล ช่วยให้ศูนย์ข้อมูลลดต้นทุนในการขยายพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและการดำเนินงานมากขึ้น รวมถึงการใช้พลังงานต่อเทราไบต์ที่ดีขึ้นถึง 40% ฮาร์ดไดรฟ์ Mozaic 3+ ยังสามารถช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ซึ่งเป็นความสำคัญสูงสุดสำหรับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ โดยลดคาร์บอนได้ 55% ต่อเทราไบต์ (เมื่อเปรียบเทียบฮาร์ดไดรฟ์ Mozaic 3+ ขนาด 30TB กับไดรฟ์ PMR แบบดั้งเดิมขนาด 16TB)

ซีเกทได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากลูกค้าศูนย์ข้อมูลที่คาดว่าจะผ่านคุณสมบัติของ Mozaic 3+ และมีแผนจะบรรลุการเพิ่มขนาดของไดรฟ์ภายในสิ้นไตรมาสนี้ ซึ่งผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำรายหนึ่งได้แสดงความมุ่งมั่นในการเพิ่มขนาดไดรฟ์ให้เป็น Mozaic 3+ อันเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมั่นใจในความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีของซีเกท

“ซีเกทเป็นผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์เพียงรายเดียวของโลกที่มีความสามารถในการพัฒนาไดรฟ์ที่มีความหนาแน่นสูงสุดถึง 3TB ต่อแผ่น และคาดว่าจะพัฒนาเป็นขนาด 5TB ในเร็ว ๆ นี้” เดฟ มอสลีย์ ซีอีโอของซีเกทกล่าว และเสริมว่า “เนื่องจากการใช้งาน AI ต้องการชุดข้อมูลดิบจำนวนมากในการประมวลผล บริษัทต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดที่พวกเขาสามารถทำได้ เพื่อรองรับมวลข้อมูลที่เกิดขึ้น ความหนาแน่นของพื้นที่การจัดเก็บจึงมีความสำคัญขึ้นมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน”

“แพลตฟอร์ม Mozaic 3+ เป็นมากกว่าตัวแทนของเทคโนโลยี HAMR เพราะประกอบด้วยนวัตกรรมหลายอย่างที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกของวงการซึ่งซีเกทนำมาบูรณาการให้เกิดการขยายความหนาแน่นของการจัดเก็บข้อมูลในครั้งนี้” เดฟ มอสลีย์ กล่าวปิดท้าย

และนี่คือเทคโนโลยีอันโดดเด่นของ Mozaic 3+

  1. สารประกอบซูเปอร์แลททิซ แพลทินัม-อัลลอย (Superlattice Platinum-Alloy Media): ตามหลักการฟิสิกส์พื้นฐานพบว่าการบันทึกที่มีความหนาแน่นสูงต้องใช้สารแม่เหล็กที่เล็กขนาดนาโนสเกล แต่ความท้าทายคือเมื่อสารแม่เหล็กมีขนาดเล็กเท่าไหร่ความเสถียรก็ยิ่งลดลง โลหะผสมแบบเดิมไม่ได้ให้ความเสถียรทางแม่เหล็กเพียงพอสำหรับการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ ในฮาร์ดไดรฟ์ Mozaic 3+ ได้นำโครงสร้างซูเปอร์แลททิซ แพลทินัม-อัลลอยรุ่นบุกเบิก ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บของแผ่นดิสก์อย่างมหาศาล ช่วยให้เขียนข้อมูลได้อย่างแม่นยำและมีความเสถียรอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

  2. หัวเขียนแบบพลาสโมนิค (Plasmonic Writer): เนื่องจากสารประกอบถูกทำให้ "แข็งขึ้น" ด้วยสนามแม่เหล็กเพื่อป้องกันความไม่เสถียร จึงต้องอาศัยหัวเขียนระดับปฏิวัติวงการ นับเป็นการนำเทคโนโลยี HAMR ที่เป็นเอกลักษณ์ของซีเกทมาสร้างสิ่งมหัศจรรย์ขนาดย่อส่วนและวิศวกรรมที่มีความแม่นยำสูง พร้อมด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์นาโนโฟโตนิก (nanophotonic laser)สร้างจุดความร้อนอุณหภูมิต่ำมากบนพื้นผิวจึงทำให้การเขียนข้อมูลบน Mozaic 3+ เป็นไปอย่างแม่นยำและน่าเชื่อถือ

    ซีเกทมีแผนที่จะบูรณาการเทคโนโลยีเลเซอร์นาโนโฟโตนิกในแนวตั้งเข้ากับตัวเขียนพลาสโมนิค โดยนายเดฟ มอสลีย์ กล่าวว่า “การพัฒนาเทคโนโลยีเลเซอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของซีเกทสำหรับ Mozaic 3+ จะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและการยกระดับการผลิตในจำนวนที่มากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการขยายขนาดของธุรกิจต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว”

  3. หัวอ่านสปินโทรนิค รุ่นที่ 7 (Gen 7 Spintronic Reader): การเขียนข้อมูลด้วยการใช้สารแม่เหล็กขนาดเล็กลงจะทรงประสิทธิภาพได้เมื่อมีหัวอ่านที่รองรับ เพราะ Mozaic 3+ ใช้หัวเขียนแบบพลาสโมนิคที่ก้าวหน้าขึ้น หัวอ่านจึงจำเป็นต้องพัฒนาขึ้นเช่นกัน และการนำเทคโนโลยีควอนตัมมาเป็นส่วนประกอบของฮาร์ดไดรฟ์รุ่นนี้ ดังนั้น Mozaic 3+ จึงเป็นหนึ่งในฮาร์ดไดรฟ์ที่มีเซ็นเซอร์อ่านค่าสนามแม่เหล็กที่เล็กที่สุดและไวที่สุดในโลกผ

  4. ตัวควบคุมแบบบูรณาการ ขนาด 12 นาโนเมตร (12nm Integrated Controller): เทคโนโลยีระดับสูงทั้งหมดนี้จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีตัวควบคุมแบบบูรณาการ ซึ่งเป็นระบบชิปที่ซีเกทพัฒนาขึ้นเองภายในบริษัททั้งหมด วงจรรวมเฉพาะแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนนี้ให้ประสิทธิภาพสูงสุดถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชันรุ่นก่อน ๆ 

“การปรับปรุงความหนาแน่นของพื้นที่ฮาร์ดไดรฟ์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขยายขีดความสามารถของการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากบนฮาร์ดไดรฟ์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศูนย์ข้อมูล” จอห์น ริดนิง รองประธานฝ่ายวิจัยของ IDC Global DataSphere กล่าว และเสริมว่า “ความก้าวหน้าในนวัตกรรมด้านความหนาแน่นของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของซีเกทนั้นตอบสนองความต้องการของธุรกิจต่าง ๆ อย่างทันท่วงที และจะช่วยให้ซีเกทสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ฮาร์ดไดรฟ์ที่มีความจุสูงขึ้นมากขึ้นในอนาคต”

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ Mozaic 3+ โปรดไปที่เว็บไซต์นี้ และสามารถดูรูปภาพและอุปกรณ์เสริมได้ที่นี่

advertisement

ข่าวยอดนิยม