จีนยืนยันผู้ป่วยโรคปอดบวมปริศนา เพิ่มเป็น 44 ราย - ประชาชนหวั่น "โรคซาร์ส" กลับมาระบาด

จีนยืนยันผู้ป่วยจากโรคปอดบวมจากไวรัสปริศนาเพิ่มขึ้นอีก สร้างความตระหนกว่า "โรคซาร์ส" ที่เคยคร่าชีวิตผู้คนหลายร้อยคนอาจกลับมาระบาดอีก โดยการระบาดของไวรัสปริศนาดังกล่าว เกิดขึ้นในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ทางตอนกลางของจีน โดยวานนี้(3 ม.ค.) ทางการประกาศว่ามีผู้ติดเชื้อแล้ว 44 ราย โดยมีอาการสาหัส 11 ราย หลังเพิ่งระบุว่ามีผู้ติดเชื้อ 27 คนในวันที่ 31 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา การระบาดดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนก หลังทางการยังไม่สามารถบอกสาเหตุที่แท้จริงของการติดเชื้อ บอกเพียงว่าไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก การติดเชื้อไวรัสอะดีโน หรือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจทั่วไป แต่ไม่ได้พูดถึงโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง หรือโรคซาร์ส อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ดำเนินคดีกับประชาชน 8 รายที่เผยแพร่ข่าวลือการติดเชื้อดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นพบว่าผู้ป่วยหลายรายทำงานในตลาดอาหารทะเล และยังไม่มีหลักฐานว่ามีการติด่อจากคนสู่คน โรคซาร์สเคยระบาดรุนแรงใน 30 ประเทศทั่วโลกเมื่อปี 2546 มีผู้ติดเชื้อกว่า 8,000 คน โดย 5,000 คนเป็นชาวจีน มีชาวจีนเสียชีวิต 349 คน ชาวฮ่องกง 299 คน คาดว่าโรคนี้มีต้นกำเนิกจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน โดยองค์การอนามัยประกาศว่าจีนปลอดไวรัสซาร์สในเดือน พ.ค. 2547 โรคซาร์ส (Severe Acute Respiratory Syndrome: SARS) หรือโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตระกูลโคโรนาไวรัส (Coronavirus)ผู้ติดเชื้อจะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส วิงเวียน อ่อนเพลียมาก ไอแห้ง เจ็บบคอ หายใจลำบาก มีความเสี่ยงต่อการขาดออกซิเจนในเลือกจนอาจเสียชีวิตได้