สลด! หนุ่มใหญ่ฆ่าทุบหัวลูกเมีย ตั้งพานขอขมาก่อนผูกคอตาย ทิ้งจดหมายเครียดหนี้ 2 ล้าน

5 ม.ค. 63
วันที่ 5 ม.ค. 63 ร.ต.อ.อดุลชัย ขาวขำ รองสว.สอบสวน สภ.เพ็ญ รับแจ้งเหตุพบศพคนเสียชีวิต ที่บ้าน ม.1 ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น พบศพนายไทยสาน ซ่อนชัย อายุ 51 ปี ใช้เชือกไนล่อนสีเขียว ผูกคอตัวเองเสียชีวิต บริเวณประตูบ้านเข้าไปห้องโถงกลางบ้าน พบศพคนเสียชีวิตนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่อีก 3 ศพ ตรวจสอบทราบว่าเป็นภรรยา และลูกสาวของนายไชยสาน คือ นางวัชราภรณ์ ซ่อนชัย อายุ 50 ปี ภรรยา, น.ส.คชาภรณ์ ซ่อนชัย อายุ 24 ปี ลูกสาวคนโต และน.ส.ศศิธร ซ่อนชัย อายุ 19 ปี ลูกสาวคนเล็ก
บ้านจุดเกิดเหตุ
ในบ้านพบท่อนไม้เปื้อนเลือด ยาวประมาณ 50 ซม. ใกล้กับ 3 ศพ มีคราบเลือดบนพื้น พบถาดใส่ดอกไม้ธูปเทียน และขวดน้ำตั้งอยู่ปลายเท้าศพ คล้ายมีการขอขมาศพ ก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะออกไปผูกคอตายที่ใต้ต้นมะม่วงหน้าบ้าน จากการชันสูตรทั้ง 3 ศพ พบว่าถูกทุบด้วยของแข็ง บริเวณศีรษะ ทำให้มีบาดแผลฉกรรจ์ลึกถึงกะโหลก และนิ้วมือข้างซ้ายศพ น.ส.คชาภรณ์ แตกหัก ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย แพทย์ระบุว่าทั้งหมดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 6 ชม. นอกจากนี้ พบผ้าขาวม้าผูกกับขื่อหลังคาหน้าห้องน้ำ ชั้นวางรองเท้ากระจัดกระจาย และพบจดหมายเขียนด้วยลายมือนายไทยสาน เขียนใส่กระดาษปฎิทินวางอยู่หน้าห้องน้ำ
เชือกที่พบบริเวณจุดเกิดเหตุ
ใจความว่า "ชีวิตที่ล้มเหลว 1 ขอโทษที่ทำลำบากใจมาตลอดเป็นหนี้ทุกคน เพราะผมมันจนกว่าเพื่อน เพราะรักลูก ๆ ที่พากันตั้งใจเรียน ผมเลยกู้ยืมกู้มันทุกอย่างคิดว่ามันจะรอดจะจบมาได้ทำงานเลย จะมาช่วยน้องจู แต่มันไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ รถยนต์ติดไฟแนนซ์เหลือประมาณ 60,000 บาท ใบนาเอาไปจำนำไว้อำเภอเพ็ญทาง ห้างโลตัส 5,000 บาท ตึกสีชมพู ไปติดต่อเขาดู เผื่อเขาให้ไถ่คืน เสียดาย ขอโทษญาติทุกคน เพื่อนทุกคน ที่ติดสินใจแบบนี้ ลูกกลับมาปีใหม่จะกลับไปเรียน ไม่มีเงินให้ลูกกลับไปเรียน ขอโทษพ่อตาแม่ยายด้วยที่ต้องจบชีวิตครอบครัวแบบนี้ เพราะไม่มีทางออก...
บริเวณในบ้านที่เกิดเหตุ
2 ถึงอี๊ด พี่ไม่ใช้หนี้ และพี่เพลินรวมทั้งไปเจอปีใหม่เข้า มีแต่พูดให้ขอบคุณน้าอันที่เข้าใจ และให้กำลังใจมาตลอด เงินค่าหวยให้จวบตามเก็บให้ด้วย
จดหมายของผู้เสียชีวิต
3 เพื่อนร่วมงานมีแต่คนดี ๆ เราขอโทษที่ทำรับหนี้แทนเรา ลูกมาปีใหม่จะกลับเรียน ม.ข. มีเงินอยู่ 8,000 บาท ทอง 1 สลึง ไม่รู้อยู่ไหน ลูกเราเรียนเก่ง แต่ไม่มีงานทำ หมุนอย่างไรก็ไม่พอ เงินเดือนไม่พอรายจ่าย เพราะเราสร้างเอง และรักลูก ลูกเรียนดี ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ในการเรียนให้อี๊ดเป็นธุระงานทุกที่เหลืออยู่ โดยเฉพาะที่ให้อี๊ดแทนธุระงาน ขอโทษเพื่อนร่วมรุ่น 21 ไม่เป็นเราไม่รู้หรอก หนี้รวมกัน 2 ล้าน เงินเดือน 22,000 บาท มีแต่ดอก ไม่ได้จ่ายต้น รายจ่าย 40,000 บาท ไม่คุ้มเลย"
นางบุญร่วม ไผ่ป้อง เพื่อนบ้าน
นางบุญร่วม ไผ่ป้อง อายุ 62 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า วานนี้ช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. ตนนำวัวออกมาเลี้ยงหลังบ้านผู้ตาย ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันในบ้าน มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องของผัวเมียทะเลาะกัน หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงในบ้านอีก จนมาช่วงเช้าวันนี้ มีชาวบ้านมาเห็นนายไทยสาน ผูกคอตายอยู่ใต้ต้นมะม่วงหน้าบ้าน จึงไปบอกผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน โทรศัพท์แจ้งตำรวจ
นายบุญจันทร์ แสนแหมทอง พ่อของนางวัชราภรณ์ ผู้ตาย
นายบุญจันทร์ แสนแหมทอง พ่อของนางวัชราภรณ์ ผู้ตาย เล่าว่า ลูกสาวและลูกเขยทำงานเป็นลูกจ้างประจำ ที่ศูนย์หม่อนไหมเขต 4 ส่วนหลานสาวคนโตเพิ่งเรียนจบ คณะเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยขอนแก่น หลานคนเล็กกำลังเรียนอยู่ชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยขอนแก่น ลูกเขยเป็นคนดี รักลูกรักเมียมาก ไม่เคยให้ลูกเมียลำบาก ส่งให้ลูกเรียนสูง ๆ ซึ่งตนเคยยกมรดกเป็นที่นาให้ แต่ก็นำไปขาย เพื่อส่งลูกเรียน และกู้เงินในระบบประมาณ 2 ล้านบาท ทั้งนี้ หากดื่มเหล้านิสัยก็จะเปลี่ยนไป จะวู่วามไม่ยอมใคร แต่เคยมาบ่นให้ฟังว่ามีหนี้สินมาก ลูกจบมายังไม่มีงานทำ ไม่เคยคิดว่าลูกเขยจะคิดสั้น
พ.ต.อ.ชลิตศรี หานู ผกก. สภ.เพ็ญ
พ.ต.อ.ชลิตศรี หานู ผกก. สภ.เพ็ญ เปิดเผยว่า จากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่าเมื่อคืน เวลาประมาณ 21.00 น. ชาวบ้านเห็นผู้เป็นพ่อออกมาซื้อสุราที่ร้านขายของในหมู่บ้าน แล้วเดินกลับเข้าบ้านไป คาดว่าผู้เป็นพ่ออาจก่อเหตุหลังเวลา 21.00 น. โดยมีการดื่มสุราย้อมใจ ก่อนลงมือก่อเหตุ ใช้ไม้คานของเก้าอี้ไม้ ทุบตีเมียและลูกจนเสียชีวิต หลังฆ่าลูกเมียแล้ว ได้ทำพานขัน 5 เพื่อขอขมาศพลูกเมีย ก่อนจะใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตัวเองในบ้าน แต่ผู้เป็นพ่อมีรูปร่างสูงใหญ่ ผูกคอในบ้านไม่ได้ จึงออกมาหน้าบ้าน ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองใต้ต้นมะม่วงจนเสียชีวิต ส่วนสาเหตุ คาดว่าเกิดจากปัญหาหนี้สิน ตามที่เขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้  

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ