ย่าเด็กป่วยโรคตับ ถูกหนุ่มอ้างเป็นนักข่าวช่วยรับบริจาค ถอนเงินเกลี้ยง 4.5 หมื่น คืนให้แค่ครึ่ง - แม่ตามชดใช้

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความต้องการความช่วยเหลือ เนื่องจากเด็กหญิงอายุ 8 เดือน ป่วยเป็นโรคตับขั้นสุดท้าย หมอบอกว่าอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน อีกทั้งพ่อของน้องก็อยู่ในเรือนจำ แม่ก็ทอดทิ้ง ให้อาศัยอยู่กับย่า อาศัยอยู่ที่ หมู่ 2 บ้านดอนตานาด ต.หนองสรวง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา และได้มีการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมบริจาคช่วยเหลือ

ล่าสุด วันที่ 7 ม.ค. 63 นางสาวสุรีย์ ศรีชมภู ย่าของเด็ก เล่าว่า หลังจากได้ประกาศลงโซเชียล เพื่อขอรับบริจาค มีอาสาสมัครกู้ภัยโคราช อ้างตัวเป็นนักข่าวช่องหนึ่ง อาสาจะช่วยเหลือ พร้อมแชร์ข้อความดังกล่าว จนมีผู้บริจาคเงินยอดรวมทั้งสิ้น 45,500 บาท หลังจากนั้นในวันที่ 4 ม.ค. อาสาได้ไปกดเงินออกมาทั้งหมด แล้วนำเงินจำนวน 20,000 บาท ไปส่งมอบให้กับกำนันในพื้นที่ โดยที่กำนันก็ไม่รู้ว่ายอดทั้งหมดมีจำนวนเงินเท่าไร จึงได้นำเงินดังกล่าวมาให้ตน จึงทราบว่าเงินขาดอีก 25,500 บาท จึงได้มีการตรวจสอบบัญชีการเบิกจ่ายเงิน พบว่ามียอดกดเงินออกทั้งหมดจำนวน 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 จำนวน 20,000 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 20,000 บาท ครั้งที่ 3 จำนวน 5,500 บาท

นายชนะ ธรณีทอง นายอำเภอขามทะเลสอ เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่อง ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที และพบว่าเงินจำนวนดังกล่าว มีการกดออกจากตู้ ATM จริง แต่ยังคืนเงินให้เจ้าของบัญชีไม่หมด หลังจากมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก อาสากู้ภัยที่อ้างตัวเป็นนักข่าวได้โอนเงินจำนวนเงิน 15,000 บาท เข้าบัญชีผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 6 ม.ค. และติดค้างยอดเงินอีกจำนวน 10,000 บาท โดยในวันนี้ได้ให้แม่นำเงินทั้งหมดมาให้กำนัน ถือว่าเป็นการคืนเงินครบตามจำนวนแล้ว ผู้เสียหายจึงไม่เอาเรื่อง

นางอุทัย เพชรโคกสูง แม่ของอาสากู้ภัย เปิดเผยว่า ตนไม่รู้ว่าลูกมีพฤติกรรมเช่นไร เพราะนาน ๆ เจอกันที ส่วนการที่ไปแอบอ้างเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ตนก็ต้องขอโทษทางสังคม และอยากขออภัย เนื่องจากลูกชายป่วยหลายโรค ส่วนเงินที่ขาดไปนั้น ได้นำมาคืนให้ทั้งหมดแล้ว โดยที่ลูกชายของตนเองไม่กล้ามาสู้หน้า อ้างว่าจะไปทำธุระในตัวเมือง นอกจากนี้ ลูกชายของตนเคยต้องคดีและติดคุกมาแล้วในคดีฉ้อโกง

ด้านนายณัฐพงษ์ อรชร ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี ประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.หนองสรวง เนื่องจากถูกอาสากู้ภัยรายหนึ่งแอบอ้างว่าเป็นนักข่าว โดยยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ