ตำรวจเมาปลิ้นขับกระบะเฉี่ยว จยย. ฉุนพลเมืองดีมาห้าม แจกของลับ-ชักปืนขู่ วอนต้นสังกัดตรวจสอบ
เมื่อเวลา 03.46 น.วันที่ 9ก.พ. 67 ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณสี่แยก ปากซอยลับแล ถนนมาบยายเลีย 31 ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจังจึงรีบนำกำลังรีบไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถจยย. มีนายอิสรา อายุ 31 ปี เป็นผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บ มีพลเมืองดีช่วยเหลือไว้ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนคู่กรณีเป็นรถยนต์กระบะสีดำ มีนายพัชรินทร์ อายุ 51 ปี เป็นผู้ขับขี่อยู่ในอาการมึนเมา ลงมาโวยวายใส่พลเมืองดี เจ้าที่กู้ภัยเห็นท่าไม่ดีจึงรีบ ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ เข้าช่วยเหลือระงับเหตุ
สอบถามนายอิสรา คนเจ็บทราบว่า ขณะที่ขับขี่มาทางตรง เมื่อมาถึงช่วงแยกรถยนต์กระบะคันดังกล่าว พุ่งออกมาเพื่อจะข้ามตัดเข้าอีกซอยแล้วชนเข้ากับรถของตนเอง หลังจากนั้นภรรยาของคนขับได้มาดู ส่วนคนขับลงตามมาที่หลัง แล้วโวยวายถามว่าจะเอาเท่าไหร่จะรับผิดชอบให้ แต่ตนเองไม่ยอมยืนยันดำเนินคดี ทำให้คู่กรณีเกิดความไม่พอใจอ้างตัวรู้จักนายตำรวจยศสารวัตร ก่อนจะชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่พลเมืองดีที่เข้ามาช่วยเหลือตนเองอีกด้วย
ขณะที่พลเมืองดีพร้อมแฟนสาว เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ หลังถูกผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ ที่เฉี่ยวชนกับรถ จยย.อยู่ในอาการมึนเมาใช้อาวุธปืนข่มขู่ตนเองทั้งสอง โดยเปิดเผยรายละเอียดว่า ตนเองทั้งคู่ขี่ จยย.มาเจออุบัติเหตุจึงจอดรถลงไปช่วยผู้บาดเจ็บ ซึ่งตอนนั้นเห็นแล้วว่าผู้ขับขี่รถยนต์กระบะอยู่ในอาการมึนเมาโวยวายด่าทอ คู่กรณีที่ได้รับบาดเจ็บจึงพยายามห้ามปรามให้คนขับกระบะใจเย็นๆ พร้อมเตือนว่าจะโดนหลายข้อหานะ แต่กลับถูกผลักอก แล้วถามว่ามึงเป็นใคร มึงเป็นเด็กที่ไหน แล้วด่าแจกอวัยวะเพศ ก่อนจะเดินไปที่รถกระบะ แล้วหยิบอาวุธปืนขึ้นลำกวัดแกว่งจ่อส่ายไปมา สร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก จนต้องพากันวิ่งหลบเอาชีวิตรอด ซึ่งมารู้ภายหลังว่าชายคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศนายดาบ ก็รู้สึกผิดหวังมากที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์มาทำแบบนี้กับประชาชนตาดำๆ
เบื้องต้น สภ.หนองปรือ รับแจ้งความ พร้อมทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายนายพัชรินทร์ คนขับกระบะ ซึ่งขึ้นสูงถึง 195 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งตรวจยึดอาวุธปืน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนไว้เป็นหลักฐาน และควบคุมตัวในข้อหาเมาแล้วขับ ส่วนจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบต้นสังกัด และจะเรียกคู่กรณีทั้งหมดมาสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีด้วยความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายต่อไป