ตำรวจเค้นสอบ 5 ผู้ต้องหา คดีฆาตรกรรม นายใหม่ต่อเนื่อง เร่งแกะข้อมูลแชตไลน์ หลัง 1 ในผู้ต้องหาพิมพ์ข้อความสร้างหลักฐานเท็จ ชี้ผลดีเอ็นเอยังไม่ออก
จากกรณีที่นาย ธนาสันต์ เตอั้น หรือ ใหม่ อายุ 33 ปี หนุ่มโรงงาน ถูกนายกิตติโชติ ช่างกิต อายุ 37 ปี อุ้มไปสังหารอย่างโหดเหี้ยม แล้วนำศพไปทิ้งที่มอเตอร์เวย์ จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนจะมีการคลี่ปมพบว่า น่าจะเกิดจากรักสามเส้า หลัง น.ส.วรรณพร หรือ น้องพร ภรรยาของผู้ตาย ออกมายอมรับว่ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ ช่างกิต จนนำมาซึ่งการฆาตกรรม
และต่อมา นายนันทพัทธ์ หรือ โอ๊ต (สงวนนามสกุล) นายปานเทพ หรือ แท๊ป (นายสุขสงกรานต์ หรือ กรานต์ และ น.ส.อภิสรา หรือ นิว (สงวนนามสกุล) ได้ติดต่อเข้ามอบตัว ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดวันที่ 10 ก.พ. 67 พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดในคดีนี้ว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวนายแท๊ป หนึ่งในผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวมาก่อนหน้านี้ เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมในกรณีให้การไม่ตรงกันกับพยานหลักฐานที่อ้างว่า นายแท๊ปขึ้นรถไปกับนายกิต และไปเห็นนายกิตไปจับกุม นายใหม่มาขึ้นรถ ด้วยความตกใจที่เห็น นายใหม่ถูกจับกุมตัวมา จึงขอให้นายกิตขับรถไปส่งพวกตนที่อู่ของนายกิต ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน
พล.ต.ต.นเรวิช กล่าวต่อว่า แต่ในประเด็นดังกล่าว พนักงานสอบสวนไม่ได้ปักใจเชื่อและสงสัยกลับคำให้การ จึงเรียกตัวนายแท๊ปมาสอบปากคำอีกครั้งถึงประเด็นดังกล่าวว่า หากเกิดตกใจกับเหตุการณ์ที่เห็นจริง ทำไมถึงไม่เข้ามาแจ้งความ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างสอบปากคำที่ สภ.บางปะกง
สำหรับผู้ต้องหาอีก 3 คน หลังจากนี้อาจจะต้องเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น เนื่องจากพบพยานหลักฐานและข้อมูลที่เชื่อมโยงไปถึงผู้ต้องหา อาทิ โทรศัพท์มือถือของนายใหม่ที่ถูกนำไปขายให้กับบุคคลอื่น ซึ่งคำให้การของ น.ส.พร ยังเป็นการให้ปากคำวกไปวนมา ไม่ตรงกับคำให้การของผู้ต้องหา ขณะนี้ทางกองพิสูจน์หลักฐานฝ่ายเทคโนโลยี กำลังเร่งแกะข้อมูลพวกแชตไลน์ ซึ่งพบว่ามีบุคคลอื่นที่เป็นหนึ่งในผู้ต้องนำโทรศัพท์มือถือของนายใหม่ไปพิมพ์ข้อความสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา หลังจากที่นายใหม่เสียชีวิตลงแล้ว
พล.ต.ต.นเรวิช กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องผลตรวจดีเอ็นเอ จากเชือกที่มัดตัวนายใหม่ ที่บางสำนักข่าวได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ ผลการตรวจดีเอ็นเอยังไม่ออกมาเลย ไม่ทราบว่าสื่อไปนำข้อมูลมาจากไหน ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจอย่างละเอียด และต้องใช้เวลานานกว่าปกติ โดยทั่วไปการตรวจผลดีเอ็นเอจากวัตถุต่างๆ จะใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน แต่ในคดีนี้เนื่องจากเชือกที่มัดตัวนายใหม่ถูกของเสียจากร่างกายที่เน่าเปื่อยมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ทำให้รายละเอียดของดีเอ็นเอนั้น ตรวจยากกว่าเดิม หรืออาจถูกลบหายไปจากวัตถุพยาน เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการตรวจรายละเอียดและรอบคอบ ก่อนจะแจ้งผลมายังพนักงานสอบสวน
หากผลตรวจออกมาพบว่า มีดีเอ็นเอของบุคคลใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับในคดี ก็จะสามารถคลี่คลาย ในเรื่องการให้ปากคำได้ ทำให้รู้ว่าใครให้การเท็จหรือให้การจริง อย่างไรก็ตามหากดีเอ็นเอที่เชือกมีนอกเหนือจากบุคคลในคดี ทางพนักงานก็ต้องตรวจสอบที่มาที่ไปของดีเอ็นเอนั้นว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับในคดีหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย 8 ข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ซ่อนเร้นอำพรางศพ ,ปล้นทรัพย์ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย , หน่วงเหนี่ยว กักขังผู้อื่น , ข่มขืน ใจผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับ , พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และยิงปืนในที่สาธารณะ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการสอบปากคำพยานทุกคนอย่างละเอียดอีกครั้ง ใครมีการกระทำความผิดแบบไหน แล้วแยกข้อหากันไปทีละคนก่อนจะนำส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาอีกครั้ง แต่ตอนนี้ต้องทำคดีหลักให้เรียบร้อยเสียก่อน และค่อยทำคดีเล็กทีหลัง เช่น ให้การเท็จ , รับซื้อขายของโจร , ปกปิดคดี ซึ่งข้อหาเหล่านี้นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้ง 5 คนในคดี