หลานอากู๋ลั่น! ปิดประตูเจรจา 5 ผู้ต้องหาครอบครองปรปักษ์ หลังโผล่พบอัยการ

16 ก.พ. 67

หลานอากู๋ลั่น! ปิดประตูเจรจา 5 ผู้ต้องหาครอบครองปรปักษ์ หลังเผชิญหน้าครั้งแรก โผล่พบอัยการ บอกสีหน้าไม่สำนึก เขาคงมั่นใจว่าไม่ผิด 

จากกรณีข้อพิพาทระหว่างอากู๋ เจ้าของบ้านย่านรามอินทรา 58 ตัวจริง กับเพื่อนบ้านคู่กรณี ที่ลักลอบเข้ามายึดบ้าน และอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์เป็นของตนเอง  พร้อมเปิดร้านขายไก่ทอด ทำให้เจ้าของบ้าน พร้อมเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปดูบ้าน และประกาศความเป็นเจ้าของบ้านตัวจริง ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.พ.67 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารมีนบุรี พนักงานสอบสวน สน.โครกคราม ได้นำตัว น.ส.ศรีพรรณ กับพวกรวม 5 คน ผู้ต้องหาครอบครองบ้านปรปักษ์ ย่านรามอินทรา มาส่งสำนวนอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1  มีความเห็นสั่งฟ้อง ในข้อหาบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ และ ลักทรัพย์

ขณะที่นายซัน หลานชายอากู๋ เจ้าของบ้านตัวจริง เดินทางมาพบพนักงานอัยการ หลังตำรวจเตรียมนำตัว 5 ผู้ต้องหาบุกรุกบ้านมาส่งพนักงานอัยการมีนบุรีในวันนี้ด้วย 

นายซัน กล่าวว่า ในวันนี้ตำรวจเตรียมนำตัว 5 ผู้ต้องหาที่บุกรุกบ้าน มาส่งอัยการ พร้อมเอาผิด 3 ข้อหา ฐานบุกรุก ลักทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ โดยหลังเกิดเหตุยังไม่มีอีกฝ่ายติดต่อเข้ามา ยืนยันจะไม่ขอไกล่เกลี่ยแล้ว เนื่องจากอีกฝ่ายแอบมาฟ้องแพ่ง เพื่อหวังครอบครองปรปักษ์ก่อน ทำให้คิดว่าคงไม่ต้องพูดคุยไกล่เกลี่ยกันแล้ว ตอนนี้คงไม่ได้แล้ว เพราะอีกฝ่ายดูไม่เกรงกลัวกฎหมาย จากนี้คงรอคุยในชั้นศาลเท่านั้น พร้อมเตรียมยื่นคัดค้านการประกันตัว เพราะกลัวไม่ได้รับความปลอดภัยและกลัวจะมาบุกรุกบ้านอีก 

นายซัน กล่าวต่อว่า หลังเกิดเรื่องยังไม่ได้เข้าไปนอนที่บ้านหลังดังกล่าว เพราะครอบครัวเป็นห่วง เนื่องจากอีกฝ่ายมีพรรคพวกมาก แต่ยังไม่เคยโดนข่มขู่อะไร จากนี้ตนยังเตรียมขอน้ำและขอไฟบ้านหลังดังกล่าวด้วย 

“ตอนนี้มีคนติดต่อมาขอเช่าบ้านหลังดังกล่าวแล้ว เมื่อคดีจบคิดไว้ว่าจะปล่อยบ้านให้เช่าหรือขายบ้านหลังนี้เลย แต่ต้องรอถามอากู๋อีกครั้ง ตอนนี้มั่นใจในส่วนของคดีความที่จะเอาผิดอีกฝ่าย เรื่องนี้แปลกตั้งแต่อีกฝ่ายพยายามมาอยู่บ้านคนอื่นแล้ว ซึ่งรู้สึกแปลกๆ และไม่ปกติ โดยไม่ควรเกิดขึ้น ทำให้ตัดสินใจติดต่อทนายเลย” นายซัน กล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา 5 ผู้ต้องหาบุกรุกบ้านอากู๋ ได้เดินทางมายังสำนักงานอัยการมีนบุรี เพื่อรายงานตัวตามนัด โดยทุกคนใส่แว่น สวมหมวก และหน้ากากอนามัย เพื่ออำพรางใบหน้า ก่อนจะขึ้นไปยังสำนักงานอัยการมีนบุรี 

จากนั้นเวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อัยการได้ให้ 5 ผู้ต้องหาครอบครองปรปักษ์ประกันตัว ก่อนที่ทั้งหมดจะได้เดินทางกลับ โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชน 

ขณะที่ คุณอาย หลานสะใภ้ของอากู๋ เจ้าของกรรมสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า รู้สึกสบายใจขึ้น อัยการให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เขายื่นประกันตัว ส่วนเรายื่นคันค้านไปแล้ว ทั้งนี้ได้เจอคู่กรณีทั้ง 5 คนแล้ว แต่นั่งคนละฝั่งไม่ได้พูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม ทางอัยการนัดส่งสำนวนคดีนี้ในวันที่ 6 มี.ค. 

คุณอาย กล่าวต่อว่า สำหรับสีหน้าคู่กรณีนั้นก็ดูไม่ค่อยสำนึก เขาคงมั่นใจว่าไม่ผิด ตนไม่ได้พูดคุย เขานั่งฝั่งของเขา เป็นการเจอหน้าแบบครบเซ็ตทั้งหมดครั้งแรก อย่างไรก็ตามตนมั่นใจว่าจะดำเนินการเอาผิดได้แน่นนอน 

ส่วนที่เขาอ้างว่าได้ติดต่อพยายามขอซื้อแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้ จึงเข้าไปรีโนเวทบ้านก่อนนั้น คุณอาย กล่าวว่า ถ้าคิดจะติดต่อจริงๆ การติดต่อไม่ยาก เพราะถ้าคนปกติจริงๆ คงไม่เข้าไปยุ่งบ้านคนอื่น การกระทำของคุณไม่ได้หวังดี เพราะไม่เช่นนั้นเขาจะฟ้องครอบครองปรักษ์เราทำไม เมื่อเกิดเรื่องก็ถือว่าปิดประตูเจรจา และไม่ขอไกล่เกลี่ยใดๆ 

ยอมรับว่ามีคนติดต่อมาขอเช่าบ้านหลังแล้ว ทั้งนี้ยืนยันไม่ขายให้เขา แต่ถ้าเป็นคนอื่นสนใจก็ติดต่อเข้ามาได้ สำหรับเรื่องค่าเช่าย้อนหลังได้เรียกเดือนละ 2 หมื่น รวมแล้วประมาณล้านกว่าบาท ยืนยันว่าถ้าเขามีเจตนาบริสุทธิ์จริงๆ เขาจะไม่ทำแบบนี้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส