มนุษย์ป้าหัวร้อน ขับเก๋งปาดหน้าคู่รัก ก่อนจะลงไปตบหน้าสาวรัวๆ ขณะอัดคลิป พร้อมท้าถ้าอยากได้เงินให้ตามไปเอาที่บ้าน
จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 67 น.ส.สุดารัตน์ หรือ แอน อายุ 27 ปี ชาวบ้าน ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช และนายกรินทร์ หรือ กาย อายุ 25 ปี ชาวบ้าน ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มาพบพนักงานสอบสวน แจ้งว่า ขณะขี่รถจักรยานยนต์ มาจากสนามบินภูเก็ต ขับมาตามถนนเลียบรันเวย์ มีรถเก๋งสีขาวขับออกจากซอยแบบลังเล จึงได้บีบแตรไป 1 ครั้ง
ต่อมารถเก๋งคันดังกล่าวได้ขับรถมาจอดปาดหน้า ขณะรถติดไฟแดงทางเข้าสนามบินสายเก่า ม.1 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และได้มีผู้หญิงเสื้อขาว ลงมาจากรถเก๋ง และเมื่อเห็นแฟนสาวของตนถ่ายคลิปจึงเดินเข้ามาตบตี ทำให้ น.ส.แอนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุด วันที่ 19 ก.พ. 67 นายกาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนขี่รถจักรยานยนต์กลับจากทำงาน เพื่อที่จะไปบ้านพัก ขณะเกิดเหตุมีรถเก๋งสีขาวขับออกมาจากซอยเพื่อที่จะขึ้นบนถนน ตนเห็นว่ากระชั้นชิด จึงบีบแตรให้สัญญาณไป 1 ครั้ง เพื่อบอกว่าอย่าเพิ่งออกมานะ เดี๋ยวเกิดเบรกไม่ทัน รถอาจจะชนกัน แต่รถเก๋งก็พยายามวิ่งขึ้นมาบนถนน และพยายามเบรกหลายครั้ง เพื่อที่จะให้รถจักรยานยนต์ของตนนั้นชนท้าย แต่ตนก็ไม่ได้ชน
หลังจากนั้นรถก็ติดไฟแดง ตนก็ขี่ไปจอดอยู่ด้านหน้า เมื่อไฟเขียวออกไปจากไฟแดงไปประมาณไม่ถึง 100 เมตร รถเก๋งคันดังกล่าวก็ขับตามมา และหักซ้ายปาดหน้าพร้อมกับลงมาชี้หน้าต่อว่าแฟนสาวของตนให้ลบคลิปที่กำลังถ่ายอยู่ พร้อมกับด่าทอคำหยาบคายเข้าใส่แฟนสาวของตน หลังจากนั้นคนขับรถเก๋งได้เข้ามายื้อแย่งโทรศัพท์กับแฟนสาวของตน พร้อมกับตบหน้าของแฟนสาวตนหลายครั้งจนมึนหัวก่อนที่จะขึ้นรถขับหนีไป
ด้าน น.ส.แอน กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปไว้โดยตลอดก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะขับรถปาดหน้ารถจักรยานยนต์ของตน และลงมาชี้หน้าด่าตนว่าหยุดถ่ายคลิปได้แล้ว แต่ตนก็ไม่หยุด ถ่ายไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ผู้ก่อเหตุได้เดินลงมาแล้วทำการตบหน้าตนหลายครั้งจนมึนหัว พยายามให้โทรศัพท์หล่นจากมือ แต่ตนก็จับไว้แน่นจนทำให้ถูกตบต่อเนื่อง จนแฟนหนุ่มต้องเข้ามาห้าม แล้วบอกว่าอย่าทำร้ายร่างกายกัน หยุดได้แล้ว หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้เดินขึ้นรถขับหนีออกไปจากที่เกิดเหตุทันที พร้อมกับเปิดกระจกมาแล้วบอกกับพวกตนว่า ถ้าอยากจะเอาเงินก็ให้ตามไปเอาที่บ้าน
น.ส.แอน กล่าวต่อว่า ตนไม่ทราบหรอกว่าผู้หญิงคนนั้นบ้านอยู่ที่ไหน และตนก็ไม่มีความประสงค์ที่จะต้องตามไปเอาเงินด้วย การที่ตนเลือกที่จะไม่ตอบโต้ก็เพราะว่าการตอบโต้ เป็นการใช้ความรุนแรง และตนไม่อยากให้กระทบต่อหน้าที่การงานของตนและแฟนหนุ่มด้วย
จากนั้นตนกับแฟนหนุ่มได้เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ก่อเหตุแล้ว และวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชยได้นัดหมายให้ตนและแฟนหนุ่มเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม