จากกรณีนางวัฒนา คงงาม หรือป้าวรรณ อายุ 56 ปี ชาวบ้านบ้านสายโท 2 ใต้ ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ได้ขึ้นป้ายที่บริเวณหน้าบ้าน ข้อความว่า
“ท่านนายกฯลุงตู่ ช่วยชาวบ้านด้วย ค้ำประกันรถมอเตอร์ไซค์ 80,000 บาท ยึดที่ดิน 14 ไร่ ถูกจับขังคุก ไม่มีที่ยืนในสังคมแล้ว เดือดร้อนมากจริงๆ” หลังจากที่ไปค้ำประกันซื้อรถจักรยานยนต์ให้กับคนรู้จักต่างหมู่บ้าน แต่ผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระติดค้างค่างวด 36 งวด แล้วถูกทนายความฟ้องให้รับผิดชอบทั้งค่ารถและดอกเบี้ยแทนผู้เช่าซื้อเป็นเงินทั้งสิ้น 82,040 บาท
ซึ่งก็ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยที่ศาลแต่นางวัฒนาไม่ได้ไปเพราะป่วย ทางทนายจึงบอกให้เซ็นอำนาจไปแทน ด้วยความเชื่อใจและไม่ได้คิดว่าจะเกิดปัญหาอะไร จึงเซ็นมอบอำนาจไป หลังจากนั้นกลับมีป้ายมาติดที่บ้านว่าโดนยึดทรัพย์บ้านและที่ดิน 14 ไร่ ที่อาศัยอยู่ปัจจุบันขายทอดตลาด ซึ่งทนายคนดังกล่าว ก็เป็นคนไปประมูลซื้อบ้านและที่ดินของนางวัฒนา ในราคา 340,000 บาท ด้วยความที่ไม่รู้กฎหมายทนายบอกว่าไม่ต้องค้านเดี๋ยวจัดการให้เอง พอไปขอเจรจาซื้อบ้านและที่ดินคืนจากทนายในราคา 500,000 บาท กลับไม่ยอม แต่จะให้ซื้อคืนในราคา 4 ล้านบาท
ล่าสุด วันที่ 10 ม.ค. 63 นายปรัชญา ชัยวรานุรักษ์ ผอ.สำนักงานคุมประพฤติ และ ผอ.ยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จะให้ทางนิติกรของสำนักงานยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เพื่อไปสอบถามรายละเอียดข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องคดี ซึ่งหากป้า ผู้เสียหาย มีความประสงค์จะใช้สิทธิ์ต่อสู้คดีว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ก็สามารถยื่นเรื่องขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมได้
จากนั้นจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการฯยุติธรรมจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และ ผอ.ยุติธรรมจังหวัดเป็นเลขานุการ หากผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการแล้ว คุณป้าก็จะได้รับการช่วยเหลือตามสิทธิ์
ส่วนการจะขอรับเงินค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา และค่าทดแทนในกรณีเป็นจำเลย จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ต้องดูว่าเข้าเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาหรือไม่