หนุ่มเมาขับเก๋งซิ่งแหกด่าน ชนตำรวจจราจรดับ พาครอบครัวกราบขอโทษ รับเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ พร้อมเลิกดื่มเหล้าตลอดชีวิต
จากกรณี ตำรวจน้ำดี กับ จ.ส.ต.ณัฐพงษ์ แก่นนาคำ ผบ.หมู่งานตรวจพิสูจน์ผู้ขับขี่ กก.5 บก.จร. ถูกคนขับรถเก๋งขับแหกด่าน เพราะเมาสุรา ชนจนเสียชีวิต ขณะปฎิบัติหน้าที่ตั้งด่านเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ บนถนนพระราม 4 ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
วันที่ 19 ก.พ. 67 ที่วัดตรีทศเทพ ครอบครัว ได้นำร่าง จ.ส.ต.ณัฐพงษ์ มาตั้งบำเพ็ญกุศล โดย น.ส.ภัควลัญชญ์ พูลสวน ภรรยาของผู้ชีวิต กล่าวว่า สามีรับราชเป็นตำรวจจราจรมานานกว่า 15 ปีแล้ว รักในอาชีพตำรวจมาก แม้จะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนกับหน้าที่ ก็ไม่เคยทิ้งงานเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ด้วยความที่สามีเป็นตำรวจจราจร เวลาที่ออกไปปฎิบัติหน้าที่ตนก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะต้องออกไปอยู่บนท้องถนน ตัวเธอเองทำได้เพียงแค่แสดงความเป็นห่วง บอกให้ระวังตัว และจะคอยพูดคุย หรือโทรหาตลอดทั้งช่วงก่อนออกจากที่พัก และหลังเลิกงาน
น.ส.ภัควลัญชญ์ กล่าวต่อว่า ส่วนคืนก่อนเกิดเหตุ สามีก็บอกว่าจะออกไปปฎิบัติหน้าที่ ตนก็จะบอกเหมือนเดิมทุกครั้งว่าให้ระวังตัว และดูแลตัวเองให้ดี ซึ่งสามีก็ออกไปทำงานตามปกติโดยไม่มีลางบอกเหตุว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ กระทั่งมีโทรศัพท์เข้ามาบอก ตนช็อกมาก ไม่คิดเลยว่าสามีที่รักอาชีพตำรวจต้องมาเกิดเรื่องแบบนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคนขับรถเก๋งที่ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือนายคุณากร อายุ 31 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตรวจวัดค่าแอลกอฮอล์ เบื้องต้นผลปรากฏว่าสูงถึง 187 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก่อนจะถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ และได้รับการประกันตัวในวงเงิน 100,000 บาท
ทั้งนี้นายคุณากร ได้เดินทางมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรมศพ จ.ส.ต.ณัฐพงษ์ด้วย โดยมาพร้อมกับพ่อและแม่ โดยเจ้าตัวก็สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป และตั้งใจว่ามาร่วมงานศพทั้ง 3 คืน
นายคุณากร เปิดใจว่า ยอมรับผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ความผิดที่ทำลงไปจะไม่สามารถให้อภัยได้กับความสูญเสีย ยอมรับว่าวันเกิดเหตุตัวเองดื่มแอลกอฮอล์ ไม่มีข้อแก้ตัวอะไร ยอมรับผิดทุกอย่าง อยากมากราบขอโทษ เพราะทำให้ตำรวจดีๆ นายหนึ่งต้องเสียชีวิต และทำให้หัวหน้าครอบครัวต้องจากไป เป็นตราบาปตนไปตลอดชีวิต หลังจากนี้จะขอเลิกดื่มเหล้าไปตลอดชีวิต และยืนยันจะช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุด
ต่อมาหลังสวดพระอภิธรรมเสร็จครอบครัวของนายคุณากรผู้ก่อเหตุได้เข้าไปพูดคุยและกราบขอโทษครอบครัวของ จ.ส.ต. ณัฐพงษ์ เพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป